ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » The Day That Football Died(วันที่ลูกหนังไม่มีที่ว่างให้ฟุตบอล)

The Day That Football Died(วันที่ลูกหนังไม่มีที่ว่างให้ฟุตบอล)

Posted 16/02/2011 by rakball.net

 

         อำลายุคนี้ที่อภินิหารดัทช์ฮีโร่ “ สามทหารเสือ “ ที่ร่ายคาถาโดย “ Frank Rijkaard “ , “ Ruud Gullit “ รวมถึง ศูนย์หน้าพรายกระซิบ เจ้าของบัลลงดอร์ 3 สมัย ควบด้วยยศกองหน้าที่ดีที่สุดของยุโรป “ Marco Van Basten “ โดยกลุ่มสามทหารเสือ โชว์ผลงานระดับมาสเตอร์พีช ในเวลาเพียงสามปี โดยในปี 1989 และ 1990 พวกเขาพา"ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน จุมพิตบิ๊กเอียร์ 2 สมัยติด โดยนี้เป็นครั้งสุดท้ายของถ้วย Uefa Champion League ที่แชมป์สามารถป้องกันแชมป์ได้จนถึงปัจจุบันนี้

       แต่จุดสูงสุดของชีวิตค้าแข้ง คือ การพาทีมฮอลแลนด์คว้าแชมป์ยูโรในปี 1988 อันเป็นถ้วยแรกและถ้วยเดียวของวงศ์ตระกูลดัทช์ และจากเกียรติภูมินั้น นำสู่บ่อเกิดคำว่าสามทหารเสือ เพราะในศกนี้เองรางวัลบัลลงดอร์ทั้งสามอันดับถูกพวกเขากวาดเรียบ นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวอีกเช่นกัน ที่มีนักเตะจากชาติเดียวกันทีมเดียวกันคว้าทั้งสามอันดับ นี้จึงเป็นเกลอทริโอที่ดีที่สุดของวงการลูกหนังอย่างไร้ข้อกังขา

       รีรันมาบอลโลก 1982 ที่สเปน ซึ่งในรอบแบ่งกลุ่ม อิตาลีเข้ารอบแบบเสมอรวด ต้องลุ้นเยี่ยวเหนียวถึงเกมสุดท้ายจากลูกได้เสีย โดยกองหน้าเพิ่มสกอร์ไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ซึ่งกองหน้าที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุดคือผู้ที่เจอข้อหาล้มบอล ห้ามลงสนาม 2 ปี ทำได้เพียง ซ้อม ซ้อม และซ้อม เพียงแอบหวังเล็กๆว่าจะติดทีมชาติไปบอลโลก ซึ่งไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะติดทีมชาติ เว้นแต่ผู้จัดการทีมอิตาลีขณะนั้น เขาผู้นั้นคือ “ Paolo Rossi “

       ผลงานที่งามหน้าของรอสซี่ในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ผู้จัดการทีมอิตาลีถูกจวกไม่มีชิ้นดี ถึงการเลือกคนที่ไม่ได้ลับคมมา 2 ปีร่วมทีม ตรงนี้เองทำให้เกมหน้าที่เจอกับ “ บราซิลชุดดรีมทีม “ เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย แต่ไม่น่าเชื่อว่าฟางเส้นเดียวนั้นจะก่อเปลวเพลิงเผาผลาญแซมบ้า 3-2 ด้วยแฮตทริกของเขา จนผ่านเข้ารอบสองที่เขาเครื่องติดเบิ้ลไปอีกสอง กระทั่งหลุดมาถึงนัดชิงชนะเลิศ ที่อิตาลีชนะเยอรมันไป 3-1 โดยประตูเบิกร่องมาจากรอสซี่เช่นเคย พาทีมผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 อย่างพลิกล็อคมากที่สุดครั้งหนึ่ง

       ส่วนทางอาร์เจนติน่า แชมป์เก่า สะดุดปราชัยต่อ เบลเยียม แต่เป็นการเปิดม่านโชว์ตัวของ “ Maradona “

 

 

 

       ฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก ไฮไลท์อยู่ที่ มาราโดน่า อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเกมกับอังกฤษที่อบอวนไปด้วยความตึงเครียด เหตุมาจากปี 1982 อาร์เจนติน่าประกาศสงครามส่งทหารนับหมื่น เข้ายึดหมู่เกาะฟอล์คแลนด์อันเป็นอาณานิคมของอังกฤษ โดยถือว่าแท้จริงคือหมู่เกาะของตนที่อังกฤษยึดครองมากว่าศตวรรษ ซึ่งผลสงครามนั้นอังกฤษสังเวยชาวอาร์เจนติน่า 775 ศพ ใน “ สงครามหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ “

       ตำนานฟ้าขาวกล่าวว่า “ แชมป์โลกช่างมัน ขอได้อัดอังกฤษก็สาแก่ใจ “ สื่อถึงอุณหภูมิในเกมนั้นได้ดีเยี่ยม และก็เป็นดั่งฝัน เมื่อชัยชนะเป็นของฟ้าขาว 2-1 จากลูกยิงที่ดีที่สุดของบอลโลก ที่เขาลากโซโล่จากกลางสนามหลังหักไปห้าคนเข้าไปยิง รวมถึงการใช้มือชกบอลเข้าประตูเป็นหัตถ์ซาตานของขาวอังกฤษ แต่เป็น “ หัตถ์พระเจ้า “ ของชาวฟ้าขาว ที่นำทีมมารอบชิงชนะเลิศ สานต่อจนชนะเยอรมันเป้าหมายรอง 3-2 เป็นแชมป์โลกของมาราโดน่า และนั้นเป็นเปลวไฟดวงเดียวที่ขับไล่ความหนาวเหน็บแก่ชาวฟ้าขาว ท่ามกลางบ้านเมืองที่แสนบัดซบเต็มที

       ถ้วยอันทรงเกียรตินั้น กลายเป็นแรงส่งที่ยกระดับสถานะไปเป็นตำนานอย่างไม่อาจปฏิเสธ โดยหนึ่งวันก่อนปราชัย เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน แสดงทรรศนะว่า "ผม ใช้เวลาทั้งวันในการคิดหาทางหยุด มาราโดน่า หลังจากเห็นทีมอื่น ๆ งัดทุกวิธีขึ้นมาใช้ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ผมบอกได้เลยว่าหากไม่มี มาราโดน่า อยู่ในทีมเสียคน อาร์เจนติน่า ก็หมดทางชนะ นี่แหละคือความเห็นของผม "

       นอกจากนี้มาราโดน่ายังพาทีมอย่างนาโปลีคว้าแชมป์กัลโช่ 2 สมัยและยูฟ่าคัพอีก 1 สมัย เมเปิ้ลจึงรีไทร์เบอร์10 อุทิศสถาปัตยกรรมชิ้นเอกนี้ แต่กระนั้นเขาก็เคยเหลวแหลกสุดสถุนจากโคเคน ไร้คราบเสื้อเตี้ยที่น่าเกรงขาม และท้ายที่สุดคำถามโลกแตก ใครคือเบอร์หนึ่งระหว่างเขากับเปเล่ ก็ยังคงเป็นคำถาม แต่ที่จริงแท้คือหากเขาไม่ใช่คนนั้น เขาก็เป็นนักบอลคนเดียวของโลกที่มีคนนับถือเป็นพระเจ้า แห่ง “ ศาสนามาราโดน่า “

       ตามธรรมเนียมเรามาชมศึกชิงแชมป์ฟุตบอลยุโรปกันต่อ ที่สามปีแรกเป็นของแอสตันวิลล่าหนึ่งสมัย และ ” เครื่องจักรสีแดง “ ลิเวอร์พูลอีกสองสมัย ครั้งแรกจาก Bob Paisley ส่งปู่เข้าหอเกียรติยศฐานะหนึ่งเดียวที่คว้าแชมป์ยุโรปสามสมัย อีกสมัยเป็นของ Joe Fagan หนึ่งในสี่จาก Boot Room เช่นกัน ลีกอังกฤษจึงคว้าแชมป์ยุโรปเจ็ดสมัยจากแปดปีที่ผ่านมานับแต่ 1977 ถึง 1984 อาศัยเครื่องจักรสีแดงก็โซ้ยแหลกสี่สมัยแล้ว

 

 

 

       จนกระทั่งวันที่ 29 พฤษภาคม 1985 หนึ่งชั่วโมงก่อนควานหาแชมป์ยุโรป แฟนบอลสองฝ่ายตะโกนยั่วโมโห กระทั่งแฟนบอลลิเวอร์พูลโดนสิ่งของกระหน่ำใส่ จึงเข้ารุกฆาตแฟนบอลชาวอิตาเลียน เมื่อความวุ่นวายพ้นวิสัยควบคุม แฟนยูเวนตุสก็ดิ่งหนีไปทางกำแพงซึ่งได้พังทะลายลงทับร่างของพวกเขา แฟนบอล 39 รายสิ้นชีวาอยู่แห่งหนนั้น นับว่าเป็นวันแห่งคาวเลือด ในประเทศเบลเยี่ยม ณ ลานประหาร “ เฮย์เซล “

       ที่วรนุชกว่านั้นคือ ผู้จัดสุดทึ่มให้มีการแข่งขันต่อไป ท่ามกลางเสียงประท้วงของสองฝ่าย ซึ่งประวัติศาสตร์บงการชะตาเป็นชัยชนะแก่ยูเวนตุส 1-0 โดยลูกจุดโทษปัญหาของ “ Michel Platini “ ผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถคว้าบัลลงดอร์ได้สามสมัยติดและยิง 9 ประตูในบอลยูโร 1984 เพียงครั้งเดียว กลายเป็นแรงถีบเขาเป็นฮีโร่พาตราไก่คว้าแชมป์แรกในค่ำคืนแห่งความปิติ และครั้งนี้เขาก็เป็นฮีโร่พาทีมม้าลายคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกเช่นเคย เพียงแต่ค่ำคืนนี้โหมโรงด้วยเสียงโหยหวนและน้ำตา

 

 

 

       โศกนาฏกรรมนี้ “ ฮูลิแกน “ ส่งกลิ่นไม่น่าพิศมัยแตะจมูกโลกครั้งแรก จนเอฟเอประกาศตัดตอนแบนสโมสรของอังกฤษไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันในยุโรป 5 ปี ส่วนลิเวอร์พูลในฐานะต้นสังกัดของแฟนบอลที่จุดชนวน โดนแบนเพิ่ม รวมไปถึงการรีไทร์ก่อนเวลาอันควรของ โจ ฟาแกน ที่ทำงานเพียงสองปี ดังนั้นตำแหน่งผู้จัดการทีม จึงสืบทอดโดย “ Kenny Dalglish “ คนสุดท้ายที่ทำทีมประสบสำเร็จในระดับสูง

       วันนั้น “ The Day That Football Died “ คือคลื่นกระเพื่อมระลอกใหญ่ของลิเวอร์พูลถึงวันนี้ ซึ่งมองในแง่คำสบถจากพวกขี้แพ้อย่างผม หากฟาแกนผู้เข้าชิงแชมป์ยุโรปสองปีติดยังอยู่ เขาคงปูรากฐานตามเจตนารมณ์แชงคลีย์ เหมือนที่เพลสลีย์สานุศิษย์ของ Boot Room ทำเป็นพิธีกันมา เครื่องจักรสีแดงก็จักผลิตแชมป์ยุโรปหรือล่าอาณานิคมหลั่งไหลสู่เมอร์ซี่ไซด์ไม่ขาดตอน อันแฝงนัยยะซ่อนเร้นว่า ดัลกลิชคงสืบสันดานช่วงใช้ชื่อพรีเมียร์ลีก ถ้าเข้าข้างตัวเองสุดโต่งแล้วไซร้ หงส์แดงคงแกร่งใช่ดูแคลนและกอดถ้วยพรีเมียร์สักถ้วยให้แลชม

       ท้ายสุดผมจึงขอปุจฉาถึงบรรดาฮูลิแกนในคราบเดอะค็อปค่ำนั้นว่า วันที่คุณเห็นทีมที่คุณอ้างว่ารัก..ไม่สิ..

       “ วันที่ลิเวอร์พูลแพ้วูล์ฟคาแอนฟิลด์ ผมไม่รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร แต่ไม่สงสารพวกเราเดอะค็อปบ้างหรอครับ “

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • น้ำตาR9!แถลงปิดตำนานโล้นทองคำ
    โรนัลโด้ อดีตสตาร์ทีมชาติบราซิล ประกาศอำลาวงการลูกหนังอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยอมรับคิดหนักกว่าจะตัดสินใจได้ แต่เมื่อมองสภาพร่างกายแล้วคงยากที่จะฝืนสังขารอีกต่อไป
  • ปิดตำนานโล้นทองคำ!โด้ประกาศเลิกเล่นวันนี้
    "โล้นทองคำ" โรนัลโด้ อดีตยอดกองหน้าทีมชาติบราซิล ของทีม โครินเธียนส์ เตรียมใช้สนามซ้อมสโมสร จัดงานแถลงข่าวอำลาสนาม ยุติเส้นทางค้าแข้งอันรุ่งโรจน์ และสุดแสนยิ่งใหญ่ ในวันจันทร์ที่ 14 ก.พ. นี้ ตามเวลาท้องถิ่น หลังโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานต่อเนื่อง แถมล่าสุดทีมยังผลงานแน่ ตกรอบคัดเลือก โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส จนแฟนบอลก่อหวอดประท้วงรุนแรง
  • กระทิงขวิดโคลอมเบีย1-0,อัซซูรี่ตีเจ๊าเบียร์
    "แชมป์โลก" สเปน ทำผลงานได้ไม่เข้าตา หลังต้องลุ้นเหนื่อยกว่าจะเอาชนะโคลอมเบีย ไปได้ 1-0 โดยประตูชัยมาเกิดในช่วงท้ายเกมจาก ดาบิด ซิลบา ขณะที่อีกคู่ ทีมชาติอิตาลี รอดพ้นจากการพ่ายแพ้ต่อทีมชาติเยอรมันไปอย่างหวุดหวิด ได้ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ช่วยซัดประตูตามตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม
  • ยังฮีโร่!สิงโตบุกขย้ำโคนม2-1
    "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ยกพลไปอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติเดนมาร์ก เกือบแย่โดนเจ้าถิ่นทำประตูออกนำไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ ดาร์เร็น เบนท์ จะซัดประตูตีเสมอได้ทันควัน และเป็น แอชลี่ย์ ยัง ที่ลงมาเป็นตัวสำรองซัดประตูชัยในช่วงครึ่งหลัง ช่วยให้อังกฤษบุกมาคว้าชัยได้อย่างหวุดหวิด

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »