''แอ๊ด คาราบาว'' แถลงข่าวขอโทษยอมรับผิดและเสียใจกับเหตุการณ์เขวี้ยงกีตาร์ลงบนพื้นเวทีกลางงาน ''สีสันอวอร์ดส์'' เผยโมโหทีมงาน โต้มีปัญหากับเพื่อนร่วมวง ''เล็ก-เขียว'' ยันต่อไปจะควบคุมอารมณ์ให้มากกว่านี้

หลังจากที่เกิดข้อพิพากษ์อย่างหนักในกรณีที่ ''แอ๊ด'' ยืนยง โอภากุล หรือที่รู้จักกันในนาม ''แอ๊ด คาราบาว'' ได้ระเบิดอารมณ์เขวี้ยงกีตาร์คู่ใจทิ้งบนเวทีกลางงาน ''สีสัน อวอร์ด'' เมื่อคืนก่อน ท่ามกลางความตกตะลึงของแฟนเพลงและ

เหล่าผู้ที่มาร่วมงานจำนวนมาก โดยความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 54 เวลาประมาณ 18.00 น. ''แอ๊ด คาราบาว'' ได้ออกมาแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน พร้อมด้วย ''วินิจ เลิศรัตนชัย'' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ และ ''ทิวา สาระจูฑะ'' ผู้จัดงานสีสันอวอร์ด ถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างหมดทุกประเด็น

แอ๊ด : '' ''สวัสดีพี่น้องสื่อมวลชนนะครับที่มาทำข่าว แล้วก็เมื่อคืนนี้ผมเองก็ต้องขอยอมรับนะครับว่าทำตัวไม่ดีเพราะว่าหลังจากคอนเสิร์ตแล้วผมทำงานหนัก แล้วผมก็รบกับลูกน้องมา คือทีมงานของผมเนี่ย ถึงแม้ว่าผมจะฝึกมาดีแต่เค้าก็ไม่เคยกับงานใหญ่ๆ งานที่มันมีคุณภาพแล้ว 2 งานที่ผ่านมาเนี่ย ผมก็เคี่ยวเค้าแต่มันก็ไม่ได้ดั่งใจ เมื่อวานผมก็เลยระเบิดอารมณ์ใส่ เพราะว่าไมโครโฟนผมไม่ดัง แล้วผมก็ตะโกนเรียกเค้าก็ไม่สนใจกัน ผมเลยฟิวส์ขาดทุ่มกีตาร์ทิ้ง เหมือนประชดเค้านะครับ แต่ก็หลังจากนั้นผมก็รู้สึกเสียใจนะครับ กลับไปบ้านก็พยายามโทร.หาทุกคน แล้ววันนี้ผมก็อยากขอโทษพี่น้องสื่อมวลชนที่ต้องเสียเวลากับเรื่องอย่างนี้ด้วยนะครับ แต่มันก็เป็นอารมณ์ของศิลปินอย่างผมนะครับ ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนผมคงชกไปแล้วนะครับ (ยิ้ม) เป็นสมัยนี้ก็แค่ทุ่มกีตาร์ (หัวเราะ) แต่สิ่งที่ผมอยากบอกวันนี้คือต้องขอโทษที่ทำให้งานสีสันต้องด่างพร้อย ขโมยซีนไปด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ครับ...ก็มีแค่นี้นะครับไม่มีอะไร ผมก็จะพยายามทำตัวให้ดีกว่านี้ นี่ถ้าพ่อผมยังอยู่ก็คงจะได้รับโทรศัพท์มาสวดแน่นอน แต่บังเอิญว่าท่านจากไปแล้ว ต่อไปนี้ผมก็เป็นผู้ใหญ่ที่จะต้องทำตัวให้ดี มีใครจะถามอะไรไหมครับ''

ตอนนั้นควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลยเหรอ?
แอ๊ด : ''คนมันไม่ได้นอนมาเกือบ 2 วัน มันเหนื่อยหลังจากคอนเสิร์ตนะ ซึ่งผมก็ไม่ได้หลับเลย มันค้างแล้วก็เตรียมซ้อมต่อ จริงๆ ไม่อยากมางานสีสัน แต่เค้าก็อยากให้มาเล่นดนตรีให้หน่อย แล้วลูกน้องผมมันแย่ยิ่งกว่าผมอีก คือพอมันหยุดปุ๊บมันพักเลย มันไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ คือคุณเคยทะเลาะกันในออฟฟิศไหมครับ แต่ออฟฟิศผมมันอยู่บนเวทีไง มันก็เลยเกิดอย่างนั้น''

มีการดื่มเหล้าเข้าไปด้วย?
แอ๊ด :  ''ผมดื่มครับ ดื่มที่เค้าเอามาโชว์ แต่ผมไม่ได้เมาหรอกครับ''

เกี่ยวกับมีแฟนเพลงตะโกนด่าหรือเปล่า?
แอ๊ด : '' ''ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยครับ คนขอเพลงไม่มีใครตะโกนด่า มีแต่คนขอเพลงผม จริงๆ อยากจะเล่นจะตายนะครับ แต่ว่าอารมณ์ผมมันหงุดหงิดซะก่อน''

บางกระแสก็ว่าปัญหากับเพื่อนร่วมวงอย่าง ''เขียว-เล็ก''?
แอ๊ด : '' ''ไม่มีครับ เดี๋ยวก็มากันทุกคน อย่างที่บอกนะครับ มันมีปัญหากับทีมงานของผม อย่าให้บอกเลยว่าใคร''

โกรธไหม?
แอ๊ด : '' ''ก็...มันก็ไม่รู้จะโกรธทำไมเพราะว่าเครื่องมันไม่ดีเองมั้ง สอนแล้วมันไม่ได้ดี''

ลงจากเวทีแล้วได้เคลียร์หรือยัง?
แอ๊ด : ''''เคลียร์แล้วครับ แต่ผมไม่ได้เคลียร์กับวงเพราะผมไม่ได้มีปัญหากับวง แต่ว่ากับลูกน้องผมเคลียร์เมื่อเช้า ผมเรียกเค้ามาคุยแล้ว ต่อไปนี้ถ้าเค้ายังอยากทำงานอยู่กับผม ต้องสนใจ คอนเซนเทรสมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลย เครื่องดนตรีผมไม่ดัง แล้วมันก็ไม่ใช่ครั้งเดียว มันก่อนที่เวโลโดรมก็เป็นเช่นนี้ ฟิวส์ขาดมาครั้งนึงแล้ว''

วินิจ : ''ผมเองก็ยืนยันได้ครับว่า 2 เดือนผมไม่เคยเห็นวงดนตรีวงไหนที่ซ้อมหนักขนาดนี้ แล้วเสร็จจากคอนเสิร์ตใหญ่ก็ไม่ได้พัก แล้ววันนี้ก็เริ่มซ้อมเลย นั่นคือตารางที่เราเซตกันไว้ล่วงหน้านะครับ ระหว่างรายทางก็จะเห็นทีมงานแบ่งเป็น 2 ส่วนคือทีมงานภาคประจำที่ทำงานกับน้าแอ๊ด แล้วก็มีทีมงานอีกส่วนหนึ่ง เราก็จะเห็นถึงความตั้งอกตั้งใจดีนะครับ ในขณะที่ความผิดพลาดก็อย่างที่พี่แอ๊ดได้บอกไปนะครับ แต่ว่าการทำงานร่วมกันต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่กันเพิ่มเติมอย่างที่เราเห็นกันอยู่นะครับ''

แอ๊ด : '' ''ก็ต้องกราบขอโทษไปยังแฟนๆ ทางบ้านด้วยนะครับที่เป็นห่วงเป็นใยผม แล้วก็นักข่าวโดยเฉพาะพี่สรยุทธ์นะครับ ที่ออกข่าวแต่เช้า ผมไม่ได้รับโทรศัพท์เพราะกำลังคุยกับลูกน้องอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็หลับยาว เพิ่งจะตื่นเมื่อไม่นานนี่เอง (หัวเราะ) ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ลำบากกัน''

อีกปีนึงเต็มๆ ที่ต้องซ้อมแล้วจะไหวไหม...แข็งแรงพอไหม?
แอ๊ด : ''หนักกว่านี้ก็ได้นะ (หัวเราะ) ก็ไม่รู้สิ ถ้าคุณมีลูกน้องแย่ๆ แล้วคุณจะทำยังไงกับมันล่ะ ผมอยากจะไล่มันออกจะตายแต่ก็สงสารลูกเมียมันนะ ผมไม่เคยไล่ใครออกจากวงเลยนะครับ ก็อยากให้พวกเค้าทุกคนเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ผิดก็เรียกมาเตือนกัน แต่บางทีเราแบกรับคนเดียวมันก็ไม่ไหว มันก็เป็นปัญหาธรรมดาที่ทุกคนเจอกันทั้งนั้นนะ ใครทำงานใหญ่ๆ ก็คงเคยเจอนะ''

เมื่อคืนถือว่าระเบิดอารมณ์หนักที่สุดไหม?
แอ๊ด : ''คุณไม่เคยเห็นผมเตะคนดูเหรอ จำได้หรือเปล่า...สงสัยเกิดไม่ทันมั้งเนี่ย (หัวเราะ)''

คนมอง ''แอ๊ด คาราบาว'' เป็นไอดอลของหลายๆ คนแต่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมมีอะไรจะพูดไหม?
แอ๊ด : ''ในเรื่องที่ผมอยากจะบอกก็คือผมเสียใจและขอโทษ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ เผอิญอารมณ์ตอนนั้น แล้วเราเป็นคนสาธารณะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มันก็เหมือนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ แต่ผมก็ไม่ได้ทำร้ายใครให้ได้รับความเจ็บปวด นอกจากเสียดายกีตาร์ (หัวเราะ) แล้วก็ได้ด่าลูกน้องสมใจ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงหรือเปล่านะครับ ก็ต้องว่ากันไป เพราะกีตาร์ตัวนั้นเป็นของขวัญวันเกิดที่ ทศพล หงษ์อนันต์ ให้ผม ผมรักมาก แต่เช้ามาผมดูแล้วมันซ่อมได้ถือว่าโชคดีครับ''

วินิจ : ''โอเคนะครับ ถ้าอย่างนั้นผมคิดว่าน่าจะเป็นประเด็นที่น่าจะคลี่คลายแล้วนะครับ ข้อเท็จจริงก็ต้องเป็นข้อเท็จจริงในวันนี้นะครับ แล้วก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เสียสละเวลามาร่วมรับฟังข้อเท็จจริง แล้วก็หวังอย่างยิ่งว่าความเข้า

ใจครั้งนี้ก็เป็นความเข้าใจที่สอดคล้องและตรงกัน แล้วเป็นข้อเท็จจริงที่มาจากหัวใจของพี่แอ๊ด คาราบาว ด้วย''

แอ๊ด : ''อยากให้อยู่ดูซ้อมกันนะครับ ไหนๆ ก็มากันแล้ว''

วินิจ : ''ครับ...สมาชิกก็จะเริ่มทยอยๆ มากันนะครับ ถ้าใครไม่รีบกลับก็อยู่ดูซ้อมและสามารถที่จะถ่ายทำช่วงการซ้อมได้นะครับ''