“อ้อม พิยดา” เผยนาทีระทึกติดเกาะเต่า 3 วัน เผย ถ้าติดนานกว่านั้นอีก 3 วันคงแย่กว่านี้เพราะอาหารเริ่มหมด เจ้าตัวปลื้มที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวบนเกาะ ลั่น ขอเป็นกำลังใจให้ชาวใต้ทุกคนผ่านวิกฤติไปให้ได้ บอก หากมีอะไรที่ช่วยได้ก็พร้อมช่วยเหลือเต็มที่
      
หลังจากฝนกระหน่ำภาคใต้ทำให้เกิดคลื่นลมแรง จนทำให้นางเอกสาว “อ้อม พิยดา” และสามี “อาท ศรา จุฑารัตนกุล” รวมถึงเพื่อนนักแสดงอีกหลายคน อาทิ โอ๋ เพชรลดา เทียมเพ็ชร, ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตน, ทราย เบญทราย กียปัจจ์ พิธีกรรายการเพลงลูกทุ่ง ที่เดินทางไปร่วมงานเปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ไม่สามารถกลับออกมาได้ทำให้ต้องติดเกาะอยู่นานถึง 3 วัน
      
นอกจากนี้ ที่เกาะสมุย ยังมีเหล่าดาราที่ติดเกาะไม่สามารถกลับได้เนื่องจากไฟลต์บินปิด เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ซึ่งก็มีทั้ง พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร, นก อุษณีย์ วัฒฐานะ, ปู มัณฑนา และสามี หาญส์ หิมะทองคำ ก่อนที่ทั้งหมดจะได้รับความช่วยเหลือจากทางการ ที่ได้นำเรือหลวงจักรีนฤเบศรเข้าไปช่วยเหลือพาออกมาอย่างปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2554 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
      
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวานนี้(31 มี.ค.) “อ้อม พิยดา” ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ระทึกในครั้งนี้ในระหว่างเดินทางมาร่วมงาน “รวมน้ำใจคนบันเทิง ร่วมแรงร่วมใจมาช่วยรับโทรศัพท์เพื่อหารายได้ซับน้ำตาชาวใต้” ที่โมเดิร์นไนน์ทีวี โดยเจ้าตัวได้เปิดฉากเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียดว่า……
      
“จริงๆ เรื่องทั้งหมดต้องบอกก่อนว่ามันไม่ได้มีอะไรอันตรายร้ายแรงขนาดนั้น ถ้าเรามีเวลาไปเรื่อยๆ เราก็อยู่รอไปเรื่อยๆ และถ้าพายุมันหายเมื่อไหร่ เราค่อยกลับก็ได้ แต่ทีนี้ต้องกลับมาทำงานและพออยู่ไปหลายๆ วันก็เห็นว่าทำไมฟ้ามันไม่เปิด ฝนยังตกทุกวันอยู่ก็เลยชักเริ่มกลัวเหมือนกัน”
      
“แต่พอวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่ดีขึ้นอีก อีกวันนึงก็ยังเหมือนเดิม บรรยากาศมันก็ค่อยๆ น่ากลัวขึ้นมา เพราะว่าฝนมันเริ่มตกหนักขึ้น คือมันก็ตกๆ หยุดๆ อยู่แล้ว และที่มันตกหนักก็คือบ่ายสามวันอาทิตย์ ตกหนักไม่หยุดถึงวันอังคาร ฟ้าก็ปิด คลื่นแรงมาก เวลาเรามองออกไปก็จะเห็นภาพทะเลได้ไม่ไกล ไม่เห็นปลายแหลม ไม่เห็นอะไรเลย ก็จะแอบตกใจกลัวตรงนั้น แล้วก็มีน้ำท่วม มันก็เลยเริ่มกลัวขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราสนิทกับพี่ๆ ที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทต่างๆ เวลาที่เขามีปัญหาอะไรเราก็รับรู้ด้วย ก็เลยรู้ว่าถ้าเกิดมันตกหนักไปเรื่อยๆ มันอาจจะมีดินถล่มอีก”
      
“แต่ที่อ้อมบอกให้เข้าไปช่วยนักท่องเที่ยวเพราะว่าเขาค่อนข้างจะตื่นตระหนกเล็กน้อย สำหรับบางคนที่จะต้องต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นของเขา บางคนอาจจะต้องกลับประเทศ บางคนมีลูกมาด้วย เขาก็เริ่มตื่นตระหนกกันเพราะว่ามันเริ่มมีน้ำท่วมขึ้นมา แล้วพอเขาได้ข่าวจากทีวี เขาก็เห็นว่าภาคใต้ของเราค่อนข้างจะประสบปัญหาเยอะ เขาก็เลยยิ่งกลัว แต่จริงๆ เกาะเต่าก็ไม่ได้จะแตกไปไหน แต่เขาก็จะตื่นตระหนกกันมากเพราะว่าเขากลัว”
      
“แต่ตัวอ้อมไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรกับเขาเลย เพราะเคยติดเกาะอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกนักดำน้ำทุกคนจะทราบ ก็ติดอยู่หลายทีเหมือนกัน แต่ติดครั้งนี้อาหารการกินสมบูรณ์ทุกอย่างไม่มีปัญหาเลย อิ่มหมีพีมัน แกงไตปลาอร่อยมาก แต่สำหรับบรรยากาศเราเองก็อยากรู้นะว่าเป็นยังไง ก็ขับรถออกไปดูเหมือนกัน ก็เห็นคลื่นค่อนข้างสูงมาก ซึ่งวันแรกที่ไปถึงก็ไม่ได้ตกใจ อย่างที่เห็นโพสต์ในทวิตเตอร์ก็แค่แบบอ้าวติดเกาะ ทำอะไรดี ทำขนมจากดีกว่า(หัวเราะ) ก็เข้าป่าไปกับชาวบ้าน ไปตัดใบจาก ขูดมะพร้าวเอง ทำขนมเล่น ก็โอเคคิดว่าคงไม่เป็นไรตามประสบการณ์ที่เราเคยเจอนะ”
      
เผย ถ้ากลับออกมาช้ากว่านี้อีกไม่กี่วันคงมีปัญหา เพราะอาหารที่ว่าสมบูรณ์ก็เริ่มหมด แต่ก็ปลื้มที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และผู้คนที่ติดเกาะด้วยกันให้ขึ้นเรือได้อย่างปลอดภัย
      
“ตัวอ้อมไม่วิตกกังวลเท่าไหร่ แต่พี่อาทเขาก็จะมีนิดนึง เขาก็เอากระสอบทรายไปช่วยกันกั้นๆ ไว้ในกรณีที่สมมติว่าฝนยังไม่หยุด เพราะว่าตกหนักมากตั้งแต่บ่ายสามวันอาทิตย์ถึงวันอังคารเลย น้ำมันก็เต็มนะ รีสอร์ทก็หายกันไป บ้านพักที่เขาทำไว้ให้ฝรั่งก็หายไปเหมือนกัน ต้นไม้ล้มระเนระนาด มันค่อยๆ ไปเรื่อยๆ แต่พอฝนเริ่มพลำๆ ก็โอเค แต่ฟ้ายังไม่เปิด คลื่นก็ยังแรงอยู่ เรือพาณิชย์ไม่สามารถเข้าออกได้ ก็เลยเริ่มตกใจกลัว แล้วอาหารก็ค่อนข้างจะเริ่มหมด คือเหลือได้อีกประมาณ 3 วัน”
      
“พอดีมีงานเปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ก็จะมีนักท่องเที่ยวทุกปีที่ทราบงานนี้แล้วก็มาเที่ยวกัน ก็จะประมาณ 2,000 คน พอวันงานก็เริ่มมีฝนตกแล้วล่ะ วันรุ่งขึ้นคนก็จะทยอยกลับก็คือวันอาทิตย์ก็เลยกลับไม่ได้ คนทั้งหมดก็เลยค้างกันอยู่ที่นี่ คนจากพะงัน จากสมุย จากทุกที่แถวๆ นั้นก็จะมาที่นี่เพราะเขาก็จะมาปล่อยหอยมือเสือ ปล่อยเต่าเพื่อเอาเงินไปสมทบทุนในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติละแวกนั้น คนก็เลยเยอะ ทีนี้พอตอนหลังก็เริ่มคุยกันว่าถ้ามันออกไม่ได้อีกสัก 2-3 วันอาหารจะเริ่มหมด เพราะผักสดก็เริ่มหมดแล้ว พอเรารู้ก็เลยเริ่มตกใจ ก็จะมีเหลือพวกเนื้อแช่แข็งอยู่”
      
“ตอนนั้นพอทราบว่ามีเรือหลวงจักรีก็เลยพอเบาใจและช่วยเหลือกันต่อไป อ้อมเดินทางกลับมาถึงเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ประมาณ 3 ทุ่มกว่า แต่อ้อมต้องบอกว่าไม่ได้กลับกับเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรนะคะ แต่อ้อมมากับเรือเร็วลมพระยา และมันมีล่องน้ำเดียวที่ออกได้คือล่องน้ำชุมพร แต่ก็นานอยู่กว่าเขาจะอนุญาตให้ออก เพราะว่าคลื่นมันสูงมาก ก็พอดีว่าพอเรือหลวงจักรีมารับก็จะมีการลำเลียงคน เราจะไม่เรียกว่าอพยพหรืออะไรนะคะ เพราะมันไม่ได้มีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงขนาดนั้นเกิดขึ้น ก็เพียงแค่ลำเลียงคนขึ้นเรือ ทีนี้จุดหมายปลายทางของฝรั่งเขาก็จะมีหลายที่ แล้วนักท่องเที่ยวมาอยู่ที่นั่นมีประมาณ 1,500 คนโดยคร่าวๆ นะคะ ทุกคนก็ไม่รู้จะทำยังไง เราก็เลยต้องมีอาสาสมัครก็มีพี่ๆ ที่นั่นซึ่งเป็นกลุ่มชมรมรักษ์เกาะเต่า ซึ่งน่ารักมาก เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่นั่น แล้วก็มีกำนันแดงที่นั่นที่ช่วยเหลือสุดๆ เลย”
      
“พอเรือรบหลวงมาเราก็จำเป็นต้องจัดนักท่องเที่ยวให้เป็นระเบียบ ก็จะมีวาเลนเทียช่วย ก็มีอ้อม มีพี่อาท โอ๋ เพชรลดา วีเจ.มิเชล โจ๊ก ธีรดนัย แล้วพี่ทราย เบญทราย (เบญทราย กียปัจจ์ พิธีกรรายการเพลงลูกทุ่ง) และคนที่นั่นด้วยคอยช่วยกันหมดทุกคนเลย ใครที่พูดภาษาอังกฤษพอได้ก็ช่วยเหลือกัน แล้วก็คอยสอนนักท่องเที่ยวว่าตรงนั้นตรงนี้เป็นยังไง พอวันรุ่งขึ้นก็ค่อยๆ ลำเลียงนักท่องเที่ยวขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากเรือหลวงจักรีบ้าง แล้วก็ลงไปขึ้นเรืออื่นบ้างค่อยๆ ลำเลียงออกไป พอเราช่วยได้แป๊บนึงอ้อมก็ต้องไปอีกทางนึง คือลัดไปทางชุมพร”
      
“ตอนนี้เพื่อนๆ กลับมากันหมดแล้วค่ะ นักท่องเที่ยวขึ้นเรือหลวงจักรีได้ประมาณ 600 กว่าคน ก็ยังเหลืออยู่ที่เกาะประมาณ 400 คน ส่วนอีก 300-500 คนก็กลับมากับเรือพาณิชย์ที่ออกมาทางชุมพร เพราะบางคนที่เขามากับอ้อมไม่ได้เพราะว่าทางที่ไปกับอ้อมมันไปลงชุมพร แล้วเขาก็ไม่สามารถต่อไปยังจุดหมายต่างๆ ได้ เพราะว่าทุกคนก็ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้หมด เพราะถ้าเขาไปชุมพรแล้วเขาก็ไม่รู้จะไปต่อยังไง เขาก็เลยอยากจะไปกับเรือหลวงกันหมด”
      
บอก โชคดีติดเกาะหลายวันแต่ไม่มีผลกระทบกับงาน และไม่เข็ดเรื่องการดำน้ำ เชื่อเป็นแค่ช่วงหลงฤดู แต่ก็พร้อมเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสพภัยชาวใต้ และบอกให้ใจดียิ้มสู้เผชิญปัญหาทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
      
“ไม่มีผลกระทบกับงานค่ะ เพราะยังสามารถเลื่อนได้อยู่ ยังไม่ใช่งานจ้างที่กำลังจะถึงถ้ายังกลับมาไม่ถึง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานพวกถ่ายโฆษณา งานถ่ายรายการนี่ก็ยังพอเลื่อนได้ ก็ยังไม่กลัวกับการดำน้ำนะ เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็รอดูต่อไปแล้วกัน แต่คือไม่ใช่ว่าเราไม่เช็คข่าวนะคะ แต่อันนี้มันหลงฤดู ปกติหน้านี้จะเป็นหน้าดำน้ำและแถวนั้นเจ๋งสุดเลยนะ ไปทุกปีกับงานเปิดโลกใต้ทะเล ก็คือไปช่วยเขาทุกปี ก็ยังสนุกสนานทุกปี ตัวดำกลับมาตลอด คราวนี้ก็ยังงงอยู่”
      
“อ้อมคิดว่าอะไรต่างๆ มันก็ห้ามไม่ให้มันเกิดไม่ได้นะ แต่ในเมื่อมันเกิดแล้วก็อยากให้เราช่วยเหลือกันด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าใครก็ปัญหาเยอะอยู่แล้ว จะนักท่องเที่ยวหรือไม่ใช่ก็ตาม จะคนต่างชาติหรือคนไทยเองก็เวลามีปัญหาอะไรก็ยิ้มไว้ก่อน แล้วค่อยๆ ใจเย็นๆ แล้วก็ยิ้มดีกว่า ไม่ใช่ไปตะคอกเขา มันไม่มีประโยชน์เลย เขาก็ยิ่งตื่นตระหนกอยู่แล้ว เขาจะยิ่งใจเสีย ก็เหมือนใจเขาใจเรานะคะ พอเราเล่นกับเขา เขาก็โอเคนะ”
      
“ก็ต้องขอบคุณพี่ทราย เบญทรายมากนะคะ เพราะพี่ทรายเป็นคนติดต่อให้หมดเลย การประสานงานกับหน่วยงานที่เราอยู่ เป็นอาสาสมัครที่เกาะเต่า แล้วก็ชมรมรักษ์เกาะเต่า และต้องขอขอบคุณรัฐมนตรีกลาโหมมากๆ แล้วก็ทหารทุกคนเลยที่อยู่ที่เรือรบจักรีนฤเบศร แล้วก็ผู้บัญชาการทหารเรือด้วย เพราะว่าทุกคนช่วยเหลือดีมาก และทหารในเรือทุกคนก็น่ารัก ดูแลนักท่องเที่ยวอย่างดี น่ารักมากๆ ดีใจที่ทหารบ้านเราน่ารักที่สุดเลย”
      
“ก็ขอเป็นกำลังใจให้ชาวใต้นะคะ มีอะไรที่เราพอจะช่วยเหลือกันได้ก็อยากจะให้ช่วยเหลือกัน เราคนไทยเหมือนกันไม่ว่าจะภาคไหนก็อยากจะให้ช่วยเหลือกัน และสำหรับตัวอ้อมเองถ้าเกิดมีอะไรที่สามารถช่วยเหลือได้ก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ค่ะ อ้อมคิดว่าทุกหน่วยงานราชการก็พยายามที่จะให้ความช่วยเหลือชาวใต้ หรือทุกๆ พื้นที่ที่เดือดร้อนอยู่แล้ว ก็อยากจะให้ให้กำลังใจตัวเองให้ดีนะคะ ในเมื่อมันเกิดแล้วก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยเหลือดูแลกันเกาะกลุ่มกันไว้นะคะ ยังไงอ้อมคิดว่าทางหน่วยงานราชการก็ต้องไปช่วยให้เร็วที่สุด ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ”