"ตะหานน้ำ" ราชนาวี เปิดตัว "โค้ชอ้วก" วรกรณ์ วิจารณ์ณรงค์ ทำหน้าที่กุนซือคนใหม่แล้ว เจ้าตัวกดดันแต่มั่นใจฉุดทีมให้ดีขึ้นได้เล็งแข้งที่จะดึงมาเสริมไว้แล้วหลายราย

 

นายศักดิ์ชาย ตันติรัฐพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามนาวี ลีค คลับ จำกัด พร้อมด้วย พลเรือตรี เริงฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวี และ พลเรือเอก สุรพล จันทน์แดง ผอ.ฝ่ายการกีฬา สยามนาวี ลีค จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว นายวรกรณ์ วิจารณ์ณรงค์ หรือ "โค้ชอ้วก" กุนซือคนใหม่ของสโมสรราชนาวี ที่อาคารรับรอง 2 ห้อง จักรนารายณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เม.ย. เวลา 14.00 น. ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
 
หลังจากตัดสินใจแยกทางกับ น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว กุนซือคนก่อนหลังทำผลงานในการออกสตาร์ตศึกไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011 ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ด้วยการรั้งรองบ๊วยอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด "ตะหานน้ำ" ราชนาวีสโมสร ได้ทำการแถลงข่าวเปิดตัวโค้ชคนใหม่อย่าง วรกรณ์ วิจารณ์ณรงค์ อดีตผู้ฝึกสอนแบงค็อก ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย 
 
โดย นายศักดิ์ชาย ตันติรัฐพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามนาวี ลีค คลับ จำกัด กล่าวว่า "ในการเข้ามาบริหารทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวี ระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถเป็นอย่างมาก ซึ่งหากมองถึงการวางระบบในการบริหารงาน ผมเชื่อว่าบริษัทได้จัดวางการบริหารได้เป็นอย่างดี แต่ที่ผ่านมานักเตะของทีมอาจมีการเล่นที่ยังไม่ลงตัวมากนัก ด้วยนักเตะของเราส่วนใหญ่เป็นทีมเยาวชนกว่า 9 คน ประกอบกับ น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว มีความจำเป็นต้องไปศึกษาต่อทำให้มีเวลาฝึกซ้อมกับทีมน้อยลง"
 
"ดังนั้น ทางสโมสรราชนาวี จึงมีความยินดีจะแจ้งให้สื่อมวลชน และผู้มีเกียรติทุกท่านได้รับทราบว่า ราชนาวี ได้แต่งตั้ง วรกรณ์ วิจารณรงค์ เข้ารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และด้วยประสบการณ์ทั้งจากการเป็นผู้เล่น และจากการคุมทีมมานานทำให้สโมสรของเราเชื่อว่าทีมของเราจะมีแนวทางการพัฒนาที่ดีขึ้น"
 
ด้าน พลเรือเอก สุรพล จันทน์แดง ผอ.ฝ่ายการกีฬา สยามนาวี ลีค จำกัด กล่าวว่าแม้ทางสโมสรจะได้ตัวกุนซือรายใหม่แต่ทีมยังไม่ได้คาดหวังว่าทีมจะดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาหรือเก็บชัยชนะตั้งแต่เกมแรก ทางสโมสรต้องการเพียงให้สโมสรทำอันดับหนีโซนท้ายตารางให้ได้ในเลกแรก ส่วนเลกสองหากทางโค้ชต้องการได้ตัวผู้เล่นหรืออยากให้ทีมปรับปรุงจุดใดทางตนเอง และฝ่ายบริหารพร้อมนำเสนออย่างสุดความสามารถ
 
"ส่วนเรื่องสัญญา หรือรายละเอียดค่าจ้างนั้นทางฝ่ายบริหารยังไม่ได้ทำการเจรจากับโค้ชของเราอย่างเป็นทางการ คงต้องรออีกสักพัก แต่มีความเป็นไปได้ว่าเราคงจะจ้างโค้ชด้วยสัญญาปีต่อปีไปก่อน หลังจากนั้นเราจะค่อยมาคุยกันว่าจะมีออปชั่นพิเศษในการต่อสัญญาอย่างไรบ้าง"

      "โค้ชอ้วก" ปลื้มบอร์ดราชนาวีไว้ใจ

 
ด้าน "โค้ชอ้วก" วรกรณ์ วิจารณ์ณรงค์ ผู้ฝึกสอนใหม่ถอดด้าม ราชนาวี สโมสร ออกอาการปลาบปลื้มสุดขีดที่ฝ่ายบริหารของทีมให้ความไว้วางใจให้ตนเองเข้ามารับหน้าที่พาทีมหนีสถานการณ์คับขัน อดีตผู้ฝึกสอนแบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดใจว่า "ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณฝ่ายบริหารทุกคนที่เล็งเห็นความสามารถและเชื่อในตัวผม เนื่องจากอย่างที่ทราบว่าสถานการณ์ในลีกของเรานั้นไม่ดีเท่าไหร่นัก และผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อตอบแทนความไว้ใจให้กับทุกคนที่เห็นคุณค่า"

      ยอมรับกดดันแต่พร้อมลุยไม่มีหวั่น

 
พร้อมกันนั้นหัวหน้าผู้ฝึกสอนวัย 45 ปี ยังเปิดเผยความรู้สึกหลังเข้ารับตำแหน่งแบบสดๆ ร้อนๆ ว่าตนเองยอมรับว่าค่อนข้างกดดันมากทีเดียว ในการเข้ารับงานครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามไม่เคยหวาดหวั่นเพราะมั่นใจไม่ว่าจะทำงานกับทีมใด ย่อมหนีความกดดันนี้ไม่พ้น
 
"โค้ชอ้วก" เผยว่า "ถามว่ากดดันหรือเปล่า ผมตอบตามความเป็นจริงเลยว่าเป็นใครก็ต้องกดดัน เนื่องจากทุกคนในทีมไล่ตั้งแต่บอร์ดบริหาร, สตาฟฟ์โค้ช หรือแม้แต่ผู้เล่นในทีมย่อมตั้งความหวังไว้กับเรา แต่อย่างไรก็ดีผมคิดว่าการรับงานโค้ชที่ไหนย่อมมีความกดดันทั้งสิ้น และผมไม่ได้กลัวแต่อย่างใด เพราะถ้ากลัวหรือหวาดหวั่น ผมคงไม่รับงานตั้งแต่แรกแล้ว และการที่ผมเคยเป็นทั้งผู้เล่น และผู้ฝึกสอนทำให้ผมเชื่อว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้นักเตะของเรามีความสุข และรู้ว่านักเตะต้องการอะไรบ้าง"

      เล็งนักเตะเสริมเอาไว้แล้ว

 
นอกจากนี้ วรกรณ์ วิจารณรงค์ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมถึงการคว้าผู้เล่นเข้ามาเสริมในเลกที่สองด้วยว่าตอนนี้ตนได้มองผู้เล่นเอาไว้บ้างแล้วแต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร ตอนนี้ขอปรับระบบทีมจากนักเตะที่มีอยู่เสียก่อนหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกครั้ง
 
"เรื่องการซื้อตัวผู้เล่นเข้ามาเสริมในเลกสองนั้นผมมีนักเตะในใจอยู่แล้ว และผมได้ติดต่อทาบทามเอาไว้บ้างแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร แต่ตอนนี้เราต้องปรับจูนทีมโดยนักเตะที่เรามีอยู่เพื่อกอบกู้สถานการณ์ของทีมให้ดีขึ้นก่อน ขณะเดียวกันนักเตะในทีมเองรวมทั้งสตาฟฟ์โค้ชไม่ต้องตกใจกลัว เพราะผมไม่ได้เข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงอะไร การดึงนักเตะเข้ามาก็เพื่อแต่งเติมให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น"