ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » ผีจัดรูน-ชิชาฉะชาลเก้ราอูลนำโป้งตัดชปล.

ผีจัดรูน-ชิชาฉะชาลเก้ราอูลนำโป้งตัดชปล.

Posted 26/04/2011 by siamsport

   

 

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมส่ง เวย์น รูนี่ย์ กับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ลงคู่หน้าล่าตาข่ายบุกโม้แข้ง "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04 ที่มี ราอูล กอนซาเลซ ดาวยิงตัวเก่งของทีมนำทัพส่อง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองฯ นัดแรก คืนวันอังคารที่ 26 เม.ย. นี้


ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/11

รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

วันอังคารที่ 26 เมษายน 2554

ชาลเก้ 04 (เยอรมนี) - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)


สนาม : เฟลตินส์ อารีน่า


        เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือก คู่แรก ชาลเก้ 04 ฉะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากฝ่ายแรกโชว์ฟอร์มสยบแชมป์เก่า อินเตอร์ มิลาน ขาดลอยในสกอร์รวม 7-3 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนฝ่ายหลังโค่นทีมร่วมลีก เชลซี สกอร์รวม 3-1 


        ชาลเก้ 04 เพิ่งมีการเปลี่ยนเทรนเนอร์จาก เฟลิกซ์ มากัธ มาเป็น ราล์ฟ รังนิค เมื่อเดือนที่แล้วเท่านั้น และผลงานออกมาน่าพอใจอย่างยิ่ง ชนะติดต่อกัน 4 นัด ทว่า 2 เกมหลังเริ่มแผ่ว เสมอ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-1 กลางเดือน และล่าสุดแพ้ ไกเซอร์สเลาเทิร์น คาบ้าน 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


        อย่างไรก็ดี การแพ้ ไกเซอร์ฯ นัดล่าสุด พอจะอ้างได้ว่าเป็นเพราะการจัดทัพชุดสอง เพื่อเตรียมรับมือ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะ เนื่องจากมีตัวสำรองได้โอกาสเล่นหลายรายพอควร แม้ตัวหลักอย่าง ราอูล กอนซาเลซ, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์ รวมถึง มานูเอล นอยเออร์ จะอยู่ในสนามครบ 90 นาทีก็ตาม


        รังนิค ไม่มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายเพิ่มเติม ตัวที่เจ็บอยู่อย่าง คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ (กล้ามเนื้อ),  คริสโตฟ โมริทซ์ (เอ็นสะบ้าหัวเข่า), คริสเตียน พานเดอร์ (นิ้วเท้า) และ มาริโอ กาฟราโนวิช (ข้อเท้าขวา) ยังไม่อาจลงเล่นได้ ขณะที่ก็ไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่มจากเกมสุดสัปดาห์


        ที่เริ่มหายเจ็บ และเกมนี้ต้องเช็กสภาพว่าจะพร้อมเล่นหรือไม่ มี เพียร์ คลูเก้อ ที่กลับมาซ้อมแล้ว แต่ยังไม่มีชื่อในนัดล่าสุด เช่นเดียวกันกับ เบเนดิคท์ โฮเวเดส


        สำหรับการจัดทัพ รังนิค จะเรียกตัวหลักหลายรายกลับคืนทัพ อาทิ คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส มิดฟิลด์กรีก, อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์ กองกลางด๊อยท์ช, โฆเซ่ ฆูราโด้ มิดฟิลด์สแปนิช และ อัตสึโตะ อูจิดะ แบ็กญี่ปุ่น กลับลงตัวจริง


        นายทวารยังคงเดิม มานูเอล นอยเออร์ ประตูมือหนึ่งทีมชาติ ที่มีข่าวโยงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดมา เฝ้าเสาตามปกติ


        เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน ตัวจี๊ดเปรู พ้นโทษแบนในเกมยุโรปกลับมาเล่นได้แล้ว และจะลงตัวจริงทันที โดยเป็นส่วนหนึ่งในแผงกลางที่ประกอบด้วย ปาปาโดปูลอส, เบาม์โยฮันน์ และ ฆูราโด้


        ข้างหน้า เมื่อ "เดอะ ฮันเตอร์" ฮุนเตลาร์ ยังคงบาดเจ็บ ตัวเลือกก็มีชัดเจนอยู่แล้วคือ ราอูล กอนซาเลซ หัวหอกสแปนิชจอมเก๋า ที่เคยฝากรอยแผลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว ในสมัยค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด


        ส่วนคู่ขาก็คงเดิม กับ เอดูอาร์โด้ กอนซัลเวส เด โอลิเวยร่า "เอดู" ศูนย์หน้าแซมบ้า ที่เพิ่งย้ายจาก ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ ในเกาหลีใต้ มาเล่นกับราชันสีน้ำเงิน เมื่อต้นปีที่แล้ว และสร้างผลงานในรอบก่อนหน้านี้ที่ยิง อินเตอร์ 2 ประตูในเกมแรก


        ทั้งนี้ แข้งชาลเก้ ต้องเล่นอย่างระมัดระวังทีเดียว เมื่อติดคาดโทษใบเหลืองอยู่ถึง 3 คน คือ ราอูล, ฆูราโด้ และ ปาปาโดปูลอส ไม่นับ คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ ที่เล่นไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าโดนอีกเหลืองจะชวดเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทันที


        ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ใจหายใจคว่ำกว่าจะชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เมื่อวันเสาร์ เท่ากับกลับสู่ชัยชนะอีกครั้งหลัง 2 เกมก่อนหน้านี้ฟอร์มหลุด พ่าย แมนฯ ซิตี้ ในเอฟเอ คัพ และเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แบบไข่ไม่แตก


        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมคุมทีมข้างสนามตามปกติ หลังติดโทษแบนยาว 5 นัดสำหรับเกมในประเทศ ซึ่งครบไปแล้วก่อนเกมล่าสุด ซึ่งการบุกเยือน เฟลตินส์ อารีน่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมมากทีเดียวจากวันเสาร์


        ขุมกำลังสำรองที่ได้เล่นตัวจริงเกมล่าสุด อย่าง จอนนี่ อีแวนส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, อันแดร์สัน และ ดาร์รอน กิ๊บสัน จะหลุดออกไปทั้งกระบิ เปิดทางให้กำลังหลักอย่าง เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, พาร์ค ชี-ซอง และ ไมเคิ่ล แคร์ริค เสียบแทนตำแหน่งต่อตำแหน่ง


        ริโอ เฟอร์ดินานด์ แม้จะเจ็บออดๆ แอดๆ ทั้งซีซั่น แต่เกมนี้จะพร้อมลงสนามต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันเสาร์ก็เล่นมาเต็ม 90 นาที และกัปตันทีม วิดิช ที่เพิ่งได้พักมา ก็จะกลับมาจับคู่ด้วย โดยมี สมอลลิ่ง เป็นอะไหล่ฉุกเฉิน


        ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวาแซมบ้า หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาแล้ว จะแทนที่ จอห์น โอเช ที่เจ็บเล็กๆ มาจากเกมกับ เอฟเวอร์ตัน แต่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่ป่วยจากอาการติดเชื้อไวรัส ยังคงไม่อาจกลับมาเล่นได้


        ไรอัน กิ๊กส์ ปีกตัวเก๋าที่เป็นสำรองเมื่อวันเสาร์ จะกลับคืนตัวจริงเช่นกัน ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นอย่าง พอล สโคลส์ ก็สามารถเล่นได้แม้จะยังติดโทษแบนในประเทศอยู่ แต่จะเป็นสำรองไปเท่านั้น


        เป็นที่คาดว่า นานี่ ที่ตกไปในระยะหลัง อาจจะถูกดร็อปบ้าง โดยมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่มีประโยชน์มากกว่าในการช่วยเกมรับ ลงยืนริมเส้นขวา ร่วมด้วย กิ๊กส์, แคร์ริค และ พาร์ค ชี-ซอง


        เฟอร์กี้ มีข่าวร้ายเพิ่มเติมที่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ผู้นำดาวซัลโว 21 ประตูในพรีเมียร์ลีก เจ็บโคนขาหนีบ ไม่สามารถเล่นเกมนี้ได้แน่นอนแล้ว และไม่ได้บินไปแอ่วเมืองเบียร์ร่วมกับเพื่อนด้วย


        อย่างไรก็ตาม กรณี เบอร์บาตอฟ คงไม่ใช่ปัญหาน่าหนักใจสำหรับ เฟอร์กี้ เนื่องจากกองหน้ามีตัวเลือกที่ชัดเจนอยู่แล้ว อย่าง เวย์น รูนี่ย์ กับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ที่ยิงรวมกัน 32 ประตู ในทุกรายการของซีซั่นนี้ เป็นของ รูนี่ย์ 13 "ชิชาริโต้" 19 ตุง


        ด้วยการออกไปเป็นทีมเยือน เฟอร์กี้ จึงจะเน้นความรัดกุมในแดนกลางมากกว่าปกติ โดยถอย รูนี่ย์ ลงยืนต่ำช่วยเกมตรงกลาง ทิ้ง ชิชาริโต้ ยืนสูงเป็นหน้าเป้าตัวเดียว และมี ไมเคิ่ล โอเว่น เป็นกองหน้าตัวสำรอง


        นักเตะเจ็บนอกจาก เฟล็ทเชอร์ ยังมี โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ รวมถึง ติอาโก้ มานูเอล ดิอาส กอร์เรอา "เบเบ้" ตัวรุกโปรตุกีส ที่ไม่ได้เดินทางไปกับทีมด้วย


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


         ชาลเก้ :
มานูเอล นอยเออร์ - อัตสึโตะ อูจิดะ, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, เบเนดิคท์ โฮเวเดส, ฮันส์ ซาร์ไป - เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, โฆเซ่ มานูเอล ฆูราโด้, คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส, อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์ - ราอูล กอนซาเลซ, เอดู


        แมนฯ ยูไนเต็ด :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล แคร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, พาร์ค ชี-ซอง - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ


        ผู้ตัดสิน :
การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)


     ล้วงลึกสถิติก่อนแข่ง
 
     ชาลเก้ 04 มีสถิติสุดร้ายกาจในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ เมื่อกวาดชัยในเฟลตินส์ อารีน่า ได้เรียบวุธ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีผลงานนัดเยือนสะอาดเอี่ยม เมื่อยังไม่เคยเสียประตูนอกบ้านในเกมยุโรปซีซั่นนี้ให้ใครเลย 


      ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เสียประตูสักลูกจากการลงเตะนอกถิ่นตัวเองในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ ด้วยผลงานสุดยอดชนะ 4 เสมอ 1

 
     - เป็นครั้งแรกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ชาลเก้ 04 ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 
     - ราชันสีน้ำเงิน มีสถิติงดงามเมื่อ 4 นัดหลังในรังของพวกเขา ชนะรวดถึง 4 นัดด้วยกัน กระนั้นลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็มีผลงานที่ดีไม่แพ้กันในเกมนอกบ้านโดยเก็บชัยชนะไปถึง 4 เกม และเสมอ 1 ที่สำคัญคือทีมยังไม่เสียประตูเลยในเกมเยือนแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
 
     - การคว้าแชมป์ 3 สมัยของปิศาจแดง เท่ากับสถิติการชูถ้วยของ ราอูล กอนซาเลซ กองหน้าชาลเก้ ที่เคยทำได้สมัยค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด อตีดต้นสังกัด
 
     - นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งสองทีม โดยทางฝั่ง ยูไนเต็ด ต้องการทำลายอาถรรพ์ในการเจอกับทีมจากเยอรมันเพื่อโอกาสในการเข้าชิงเป็นหน ที่ 5
 
     - อย่างไรก็ตามเร้ด เดวิลส์ แพ้เพียงนัดเดียวจาก 10 นัดที่ลงเล่นกับทีมจากเมืองเบียร์ในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. แต่ในรอบน็อกเอาต์กลับทำผลงานได้ไม่ดีโดยมีสถิติพ้รวดทั้ง 4 ครั้งซึ่งล่าสุดเป็นการแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลที่ผ่านมา
 
     - โดยเกมนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีแรกจาก เวย์น รูนี่ย์ แต่ทางเสือใต้ ก็มาทวงคืนสองประตูรวดในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แม้ว่าในนัดที่สองที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ลูกทีมของเฟอร์กี้ จะออกนำไปก่อน 3-0 แต่เกมก็ต้องมาจบลงด้วยสกอร์ 3-2 และเป็นทาง บาเยิร์น ที่เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน
 
     * สถิการพบทีมจากเยอรมันของแมนฯยูไนเต็ดในรอบน็อกเอาต์
 
     1996/97 รอบรองชนะเลิศ : พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (แพ้ด้วยประตูรวม 0-2)
 
     2000/01 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : พบ บาเยิร์น มิวนิค (แพ้ด้วยประตูรวม 1-3)
 
     2001/02 รอบรองชนะเลิศ : พบ ไบเออร์ เลวอร์คูเซ่น (รวมสองนัดเสมอ 3-3, ยูไนเต็ดตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน)
 
     2009/10 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : พบ บาเยิร์น มิวนิค (รวมสองนัดเสมอ 3-3, ยูไนเต็ดตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน)
 
     - ชาลเก้ เคยแพ้ในกับอริร่วมเมืองปีศาจแดง อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-5 ในฟุตบอลยูฟ่า คัพ (เดิม) รอบรองชนะเลิศปี 1969/70 โดยราชันสีน้ำเงินเอาชนะไปได้ก่อนในนัดแรก 1-0 แต่กลับออกไปแพ้ที่แมนเชสเตอร์แบบย่อยยับ นอกจากนั้นพวกเข้ายังเสียสถิติการเล่นในรังหลังจากแพ้ให้กับ เรือใบสีฟ้า 0-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโรปา ลีก ปี 2008/09
 
     - สถิการเล่นในรังกับทีมจากอังกฤษของ ราชันสีน้ำเงิน อ่านได้ว่าชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 โดยแพ้ให้กับ แมนฯ ซิตี้ และเสมอกับ เชลซี ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ปี 2007/08
 
     - ยอดทีมจากถิ่นเกลเซ่นเคียร์เช่นมีสถิติที่แข็งแกร่งยามในรังปีนี้ในรายการ ยุโรปชนะถึง 5 เกมยิงได้ 13 ประตูและเสียไปเพียง 3ประตูเท่านั้น, เช่นกันกับ ปีศาจแดงที่มีเกมนอกรังที่ดีชนะถึง 10 จาก 12 นัดที่ผ่านมา และยิงได้ตลอด 4 นัดจาด 5 เกมที่ผ่านมา
 
     - สถิติการมาเยือนเยอรมันของ แมนฯ ยูไนเต็ดอยู่ ที่ ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 4 ชัยชนะที่มากที่สุดคือการบุกมาชนะ โวล์ฟบวร์ก 3-1 ในชปล.รอบแบ่งกลุ่มปีที่ผ่านมา ซึ่ง ไมเคิ่ล โอเว่น เป็นคนทำแฮตทริกในเกมดังกล่าว
 
     - สำหรับสถิติการพบกับทีมเยอรมันในรอบน็อกเอาต์ ปีศาจแดง มีสถิติที่ ชนะ 2 แพ้ 4
 
     ทางด้าน ชาลเก้ นอกจากจะเคยพบกับ แมนฯ ซิตี้ ในถ้วยยุโรปแล้ว พวกเขายังเคยปะทะกับ  วูล์ฟแฮมป์ตัน ในศึกยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1958/59 (เยือน เสมอ 2-2, เหย้า ชนะ 2-1)
 
     - นี่เป็นคั้งแรกที่ ชาลเก้ ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศรายการนี้ ก่อนหน้านี้ราชันสีน้ำเงินเคยผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูโรปา ลีก 3 ครั้งแต่ก็ปราชัยเรียบวุธทั้งหมดไล่ตั้งแต่แพ้ แมนฯ ซิตี้ในปี 1970, แพ้เซบีย่า 0-1 ในฤดูกาล 2005/06 และ ปราชัย เตเนรีเฟ่ ด้วยประตูรวม 1-2 ในปี 1996/97
 
     * แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศรวมครั้งนี้ 12 ครั้ง โดยก่อนหน้านั้นชนะเพียง 4 และแพ้ไปถึง 7 (ชนะ 3 แพ้ 3 ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน)
 
     2008/09 อาร์เซน่อล : 1-0 (ห), 3-1 (ย)
 
     2007/08 บาร์เซโลน่า : 0-0 (ย), 1-0 (ห)
 
     2006/07 เอซี มิลาน : 3-2 (ห), 0-3 (ย)
 
     2001/02 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น : 2-2 (ห), 1-1 (ย)
 
     1998/99 ยูเวนตุส : 1-1 (ห), 3-2 (ย)
 
     1996/97 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : 0-1 (ย), 0-1 (ห)
 
     1968/69 เอซี มิลาน : 0-2 (ย), 1-0 (ห)
 
     1967/68 เรอัล มาดริด : 1-0 (ห), 3-3 (ย)
 
     1965/66 เอฟเค ปาร์ติซาน : 0-2 (ย), 1-0 (ห)
 
     1957/58 เอซี มิลาน : 2-1 (ห), 0-4 (ย)
 
     1956/57 เรอัล มาดริด : 1-3 (ย), 2-2 (ห)
 
     - เกมแรกที่เฟลตินส์ อารีน่า ในวันอังคารนี้ (26 เม.ย.) จะครบรอบ 20 ปีกับอีก 2 วันที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศในรายการยุโรปในปี 1990/11 โดยในปีนั้นเป็นการลงเล่นใน ยูฟ่า คัพ ซึ่งพบกับ ลีเกีย วอร์ซอว์ จากโปแลนด์ ซึ่งในนัดแรกเสมอกัน 1-1 ก่อนที่ปีศาจแดงจะเอาชนะไปด้วยประตูรวม 4-2 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับบาร์เซโลน่า และเป็นลูกทีมของ เฟอร์กี้ ที่คว้าแชม์ไปครองในบั้นปลาย
 
     - หลังจากที่ แกรี่ เนวิลล์ เลิกเล่นไปแล้วทำให้ ไรอัน กิ๊กส์ เป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวที่หลงเหลืออยู่ในเกมที่ทีมเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบชิงชนะเลิศ ชปล.ที่บาร์เซโลน่า (พอล สโคลส์ ไม่ได้ลงเล่นในเกมนั้นเนื่องจากติดโทษแบน)
 
     - ราอูล กอนซาเลซ กองหน้าตัวเก่งชาลเก้ ซัดไปถึง 4 ลูกในการพบกับ ปีศาจแดงในรายการนี้โดยเป็นการยิงตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับเรอัล มาดริด ซึ่งกองหน้าชาวสเปนยิงได้ทั้งสองนัดในรอบก่อนรองชนะเลิศปี 1999/2000 นอกจากนี้อีก 2 ประตูเกิดขึ้นในรอบก่อนรองชนะเลิศปี 2002/03 ในเกมที่ราชันชุดขาวเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 และทั้งสองครั้งที่พบกันนั้นอดีตดาวยิงทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด
 
     - ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมที่ เลเวอร์คูเซ่น พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด 1-2 ในรอบชิงชนะเลิศชปล.ปี 2002 เกมนี้ราอูลเป็นคนทำประตูแรก และที่น่าสนใจกว่านั้นตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2006 ที่ เบอร์บาตอฟ ลงเล่นให้กับทีมห้างยาเขายิงไปถึง 6 ประตูจากการพบกับ ชาลเก้ 11 นัด
 
     - เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่งปิศาจแดงเคยโดนไล่ออกจากสนามแห่งนี่ (เอาฟ์ชาลเก้ อารีน่า) ในเกมฟุตบอลโลกปี 2006 ที่ทีมชาติอังกฤษแพ้จุดโทษให้กับ โปรตุเกส โดยเกมนั้น ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังของทีมลงเล่นเช่นกัน
 
     - ฟุตบอลโลก 2010 สิงโตคำรามที่มี รูนี่ย์ นำทัพแพ้ให้กับ เยอรมัน 1-4 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งมี มานูเอล นอยเออร์ นายด่านชาลเก้ ลงเฝ้าเสา
 
     - อัตซึโตะ อูชิดะ ลงเล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่น ในเกมที่เอาชนะจุดโทษ เกาหลีใต้ ที่มี พาร์ค ชี-ซอง เป็นกัปตันทีม ในศึกเอเชี่ยนคัพรอบชิงชนะเลิศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
 
     - พาร์ค ชี- ซอง ยิงได้ 1 ประตูในเกมฟุบอลโลก 2010 ที่ทีมชาติเกาหลีใต้ เอาชนะ กรีซ ไป 2-0 ที่มี อังเจลอส ชาริสเตอัส อยูร่วมทีมด้วย นอกจากนี้อดีตกองกลางโสมขาวเคยลงเล่นร่วมกับ เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน ที่พีเอสวี ในเกมชปล.รอบรองที่แพ้ให้กับ เอซี มิลาน
 
     - คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ลงเล่นทั้งสองนัดในเกม 16 ทีมสุดท้ายที่ เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัดแพ้ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-7 เมื่อปี 2009/10
 
     - ฟาร์ฟาน และ เบอร์บาตอฟ เป็นสองคนที่ยิงได้ในเกมรอบ 16 ทีมยูโรปา ลีก ที่ พีเอสวี เสมอ กับ สเปอร์ส 1-1 ซึ่งผลจบลงที่ทีมยอดทีมจากฮอลแลนด์ชนะจุดโทษ 6-5
 
     - นิโกล่าส์ เปลสต็อง ลงเล่นให้ ลีลล์ สโมสรเก่าของตนเอาแพ้แมนฯ ยูไนเต็ด แบบไปกลับ 1-0 ทั้งสองนัดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • รูนยกชิชาริโต้!เด็กคนนี้คือการซื้อแห่งศตวรรษ
    เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกเลือดเดือด แมนฯ ยูไนเต็ด อดใจไม่ไหวของใช้เว็บทวิตเตอร์สรรเสริญ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ดาวยิงรุ่นน้องว่าเป็นการซื้อแห่งศตวรรษของ "ผีแดง" หลังช่วยทีมยิงประตูสำคัญๆ บ่อยๆ พร้อมรับอยากเล่นร่วมกับ "เจ้าถั่วน้อย" เพราะทำอะไรก็ไหลลื่นไปหมด
  • สไนเดอร์ยุติย้ายซบผี!ลั่นมีสุขดีกับงูใหญ่
    เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เพลย์เมกเกอร์ อินเตอร์ มิลาน ยุติกระแสข่าวลือเตรียมเก็บเสื้อผ้าหนีไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเจ้าตัวเปิดใจไม่สนย้ายออกจาก "งูใหญ่" เพราะมีความสุขดี แต่ทิ้งท้ายแบบน่าคิดว่า "ปีศาจแดง" เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาต้องไปค้าแข้งให้พวกเขาในตอนนี้
  • แมนฯยู 1:0 เอฟเวอร์ตัน
    แมนฯยู 1:0 เอฟเวอร์ตัน
  • กระฉ่อน!3ทีมยักษ์จับตาอนาคตนานี่ในรังผี
    เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน กำลังจับตาสถานการณ์อนาคตการค้าแข้งของ หลุยส์ นานี่ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างใกล้ชิด หลังดาวเตะวัย 24 ปี เคยออกมาแสดงความผิดหวังที่ต้องตกเป็นตัวเลือกรองจากทั้ง พาร์ค ชี-ซอง และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย แม้เจ้าตัวจะมีฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นในฤดูกาลนี้ก็ตาม

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »