ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » คีนฮีโร่!ยักษ์เขียวทุบวิสกี้หืด1-0ครองถ้วยคาร์ลิ่ง

คีนฮีโร่!ยักษ์เขียวทุบวิสกี้หืด1-0ครองถ้วยคาร์ลิ่ง

Posted 30/05/2011 by siamsport

 

ร็อบบี้ คีน รับบทกัปตันทีมฮีโร่ตะบันประตูโทนช่วย "ยักษ์เขียว" เปิดบ้านเฉือนชัย "ขุนพลวิสกี้" แบบหืดจับ 1-0 เก็บชัยสามนัดรวด คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง เนชั่นส์ คัพ ปีนี้ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง



ฟุตบอลคาร์ลิ่ง เนชั่นส์ คัพ 2011

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2554

ไอร์แลนด์   1  -  0   สกอตแลนด์

   
สนาม: อาวีว่า สเตเดี้ยม, ดับลิน


        "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ เจ้าบ้านเก็บชัยมาได้สองนัดรวดเหนือ เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ วาง ร็อบบี้ คีน ดาวยิงตัวเก่งที่รับบทกัปตันทีมด้วย ลงสังหารประตูเคียงคู่กับ ไซม่อน ค็อกซ์


        ส่วน "ขุนพลวิสกี้" สกอตแลนด์ ที่เก็บชัยมาได้สองนัดรวดเช่นกันในรายการนี้ ให้ ชาร์ลี อดัม มิดฟิลด์ตัวเก่งจากสโมสรแบล็คพูล เป็นตัวปั้นเกมรุกคอยสนับสนุนคู่กองหน้าทั้ง เจมส์ ฟอร์เรสต์ และ เคนนี่ มิลเลอร์ เข้าทะลวงสกอร์


        เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 7 นาที สกอตแลนด์ ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่โต้กลับเร็วขึ้นมา สกอตต์ บราวน์ ผ่านให้กับ ชาร์ลี อดัม กดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลข้ามคานไป


        ผ่านมา 16 นาที ฟิล บาร์ดสลี่ย์ แบ็คของสกอตแลนด์ ลองยิงไกลจากระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งเกือบเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ เชย์ กิฟเว่น นายทวารไอร์แลนด์ สปริงตัวปัดข้ามคานไปได้ด้วยปลายนิ้ว


        ถัดมานาทีเดียว ไอร์แลนด์ โต้กลับขึ้นมาบ้าง ร็อบบี้ คีน แตะบอลต่อขึ้นหน้าให้กับ สตีเฟ่น ฮันท์ กระทุ้งบอลเข้ากรอบ แต่ไปตรงตัว อัลลัน แม็คเกรเกอร์ นายทวารของทีมจากแดนวิสกี้


        อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 24 ยักษ์เขียว ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ พอล แม็คเชน พาบอลทะลุขึ้นมาแล้วสะกิดต่อให้กับ ร็อบบี้ คีน พาบอลฉีกหนีตัวประกบ ก่อนจะยิงเรียดเสียบมุมซ้ายเข้าไปให้ไอร์แลนด์ นำก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 49 ของ ร็อบบี้ คีน ในชุดทีมชาติไอร์แลนด์ แล้ว


        จากนั้นนาทีที่ 28 สกอตแลนด์ โต้ขึ้นมาทาง ชาร์ลี อดัม กดด้วยซ้ายเต็มเหี่ยวเล่นเอา เชย์ กิฟเว่น นายทวารของเจ้าภาพ เซฟไว้ได้


        เกมแลกกันสนุกทีเดียว สตีเฟ่น ฮันท์ วอลเลย์จากระยะไกลบอลเหินข้ามคานไปในนาทีที่ 31


        ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ห้านาที แบร์รี่ ร็อบสัน กองกลางสกอต เก็บบอลได้ก่อนจะไหลให้กับ สตีเว่น เนสมิธ ตะบันเรียดจากนอกเขตโทษ ทว่า กิฟเว่น นายทวารยักษ์เขียวป้องกันได้สวย หมดครึ่งแรก ไอร์แลนด์ นำก่อน 1-0


        เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 5 นาที ไซม่อน ค็อกซ์ ดาวยิงเจ้าถิ่นได้ซัดด้วยขวาบอลถากเสาซ้ายไป


        มาถึงนาทีที่ 62 ไอร์แลนด์ เปลี่ยนเอา เชมัส โคลแมน ดาวรุ่งจากสโมสรเอฟเวอร์ตัน ลงสนามมาแทน เลียม ลอว์เรนซ์ พร้อมให้ แบร์รี่ แบนแน่น เล่นกลางแทน ชาร์ลี อดัม


        สองนาทีต่อมา สกอตแลนด์ น่าได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ร็อบสัน ครอสให้กับ เจมส์ ฟอร์เรสต์ วอลเลย์ที่เสาไกลบอลหลุดออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย


        สกอตฯ น่าจะได้จุดโทษจากจังหวะที่ เคนนี่ มิลเลอร์ พักอกลงในเขตโทษ แต่โดน สตีเฟ่น ฮันท์ ใช้มือขวางเอาไว้ ดูแล้วน่าจะเป็นจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ ในนาที 76


        นาทีต่อมา ทัพตาร์ตัน ลุยขึ้นมาอีกครั้ง สตีเว่น เนสมิธ ฮาล์ฟวอลเลย์บอลหลุดกรอบไป


        ท้ายเกมนาทีที่ 79 แบนแน่น กองกลางตัวสำรองของสกอต เปิดบอลให้กับ เคนนี่ มิลเลอร์ ตีลังกายิงบอลเข้ากรอบด้วย แต่ เชย์ กิฟเว่น นายทวารไอร์แลนด์ ปัดไว้ได้


        ไอร์แลนด์ เปลี่ยนเอา ร็อบบี้ คีน คนทำประตูในเกมนี้ออกแล้วให้ คีธ เทรียซี่ ลงมาเล่นแทน ในนาทีที่ 83


        สองนาทีต่อมา เจมส์ ฟอร์เรสต์ ที่ได้เล่นในทีมชาติชุดใหญ่ของสกอตแลนด์ เป็นนัดแรก ถูกเปลี่ยนตัวออกให้ รอสส์ แม็คคอร์แม็ค ลงมาเล่นแทน


        ก่อนจบเกมสองนาที สกอตแลนด์ บี้หนัก เคนนี่ มิลเลอร์ ยิงโค้งบอลผ่านเสาไปเส้นยาแดงผ่าแปด


        เวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม ไอร์แลนด์ เฉือนชนะไปได้หวุดหวิด 1-0 เก็บชัยสามนัดรวด คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง เนชั่นส์ คัพ ปีนี้ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง 


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


        ไอร์แลนด์:
เชย์ กิฟเว่น - สตีเฟ่น เคลลี่, พอล แม็คเชน, ดาร์เรน โอเดีย (เควิน โฟลี่ย์ น.66), สตีเฟ่น วอร์ด - เลียม ลอว์เรนซ์ (เชมัส โคลแมน น.62), คีธ แอนดรูว์ส, คีธ ฟาฮีย์, สตีเฟ่น ฮันท์ - ร็อบบี้ คีน (กัปตันทีม) (คีธ เทรียซี่ น.83), ไซม่อน ค็อกซ์

        สำรองไม่ได้ใช้:
เดวิด ฟอร์ด (ผู้รักษาประตู) - ดาร์เรน แรนดอล์ฟ (ผู้รักษาประตู) - ดาเมี่ยน เดลานี่ย์, ฌอน เซนต์ เล็ดเจอร์, แอนดี้ คีโอห์  

        ใบเหลือง:
พอล แม็คเชน น.42, คีธ ฟาฮีย์ น.48, เควิน โฟลี่ย์ น.73, คีธ แอนดรูว์ส น.90+2


        สกอตแลนด์:
อัลลัน แม็คเกรเกอร์ - สตีเฟ่น วิทเธเกอร์, แฮนลี่ย์, คริสตอฟ เบอร์ร่า, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ - สตีเว่น เนสมิธ, สกอตต์ บราวน์, ชาร์ลี อดัม (แบร์รี่ แบนแน่น น.63), แบร์รี่ ร็อบสัน (คริสโตเฟอร์ แม็คไกวร์ น.75) - เจมส์ ฟอร์เรสต์ (รอสส์ แม็คคอร์แม็ค น.85), เคนนี่ มิลเลอร์

        สำรองไม่ได้ใช้:
เอียน เทอร์เนอร์ (ผู้รักษาประตู) - แม็ทธิว จิลค์ส (ผู้รักษาประตู) - แกรี่ คัลด์เวลล์, รัสเซลล์ มาร์ติน, แดนนี่ วิลสัน, เจมส์ แม็คอาเธอร์

        ใบเหลือง:
ชาร์ลี อดัม น.62, เคนนี่ มิลเลอร์ น.76 

 


        ผู้ตัดสิน:
มาร์ค วิทบี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ชิชาสุดเฮิร์ตผีพ่ายบุญทุ่มหวังใช้เป็นบทเรียน
    ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ศูนย์หน้าอนาคตไกลเลือดจังโก้ของ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด รับสุดผิดหวังที่ไม่สามารถก้าวขึ้นครองเจ้ายุโรปได้สำเร็จ หลังจากพ่าย บาร์เซโลน่า แบบหมดทางสู้ 3-1 ในรอบชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เชื่อพวกเขาจะกลับมาด้วยความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลังประสบการณ์ครั้งนี้
  • มาสเคยกแชมป์ยุโรปให้สาวกหงส์ชดเชยชิ่งหนี
    ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ มิดฟิลด์ฮาร์ดแมนเลือดอาร์เจนไตน์ของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยังคงแสดงความจงรักภักดีต่ออดีตสโมสรเก่า ลิเวอร์พูล ด้วยการขอมอบชัยชนะเหนือ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ในรอบชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ให้เหล่าแฟนบอล "เดอะ ค็อป" เพื่อชดเชยความผิดหวังที่เขาชิ่งหนีจากถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อปีที่แล้ว
  • เมสซี่ซิวดาวซัลโวหน3เท่ารุด,แฟนผีบาร์ซ่าเดือด
    ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะ"เจ้าบุญทุ่ม"บาร์เซโลน่า ผงาดคว้าดาวซัลโวยูซีแอล 3 สมัยติด เทียบเท่า รุด ฟาน นิสเตลรอย ขณะเดียวกันหลังเกมแฟนบอลทั้งสองทีมก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนได้รับบาดเจ็บ
  • เฟอร์กี้รับสภาพผีพ่ายให้ทีมที่ดีกว่า
    เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับสภาพ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่ดีกว่ามาก จึงไม่แปลกที่นักเตะของเขาพ่ายไป 3-1 ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เชื่อยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลันกำลังอยู่บนจุดสูงสุดช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ สโมสร แต่ต้องดูว่าจะรักษาทีมชุดนี้ไปได้นานแค่ไหน

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »