แกรี่ ลินิเกอร์ ตำนานดาวยิงชาวผู้ดี ยอมรับ บาร์เซโลน่า ชุดปัจจุบัน เป็นสุดยอดทีมของโลกในเวลานี้ แต่ถ้าหากต้องการจะยกระดับตัวเองขึ้นไปเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติ ศาสตร์โลกลูกหนัง พวกเขาต้องครองบัลลังก์เจ้ายุโรปอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง

แก รี่ ลินิเกอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ให้สัมภาษณ์เชื่อว่า บาร์เซโลน่า ชุดปัจจุบัน ภายใต้การคุมทัพของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า มีโอกาสจะก้าวขึ้นไปเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอลได้ หลังจากเพิ่งโชว์ฟอร์มเทพ ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก 3-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
 
 ใน เวลานี้หลายๆ คนเชื่อว่าชัยชนะสุดยิ่งใหญ่ในนัดล่าสุดของ "บาร์ซ่า" ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดตลอดกาลไปแล้ว แต่อดีตหัวหอก "เจ้าบุญทุ่ม" รู้สึกว่า ลูกทีมของ "เป๊ป" จะต้องเป็นเจ้ายุโรปอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ถึงจะได้รับการยกย่องให้เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์ลูกหนัง อย่างแท้จริง
 
   ลินิเกอร์ เขียนในคอลัมน์ส่วนตัวใน นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ แท็บลอยด์จอมแฉว่า "มี อีกหลายทีมที่เล่นฟุตบอลได้อย่างมหัศจรรย์ แต่ถ้าหากคุณเพิ่มความฟิตที่ยอดเยี่ยมรวมถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจเข้าไปอีก คุณก็จะได้ทีมที่สามารถจะก้าวขึ้นไปสู่การเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ได้ และการที่จะคว้าสถานะนั้น ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2-3 ครั้ง"
 
  "อย่าง ไรก็ดี ฟุตบอลและความยิ่งใหญ่ที่ส่งต่อกันมามักจะถูกตัดสินกันด้วยถ้วยรางวัล เรอัล มาดริด ในยุคแรกๆ และ เอซี มิลาน ของ อาร์ริโก้ ซ้าคคี่ ต่างประสบความสำเร็จมากมาย รวมถึงได้ยกระดับมาตรฐานของการเป็นสุดยอดทีมด้วย คุณคงจะไม่กล้าพนันว่า บาร์เซโลน่า ชุดนี้จะทำได้หรือไม่ มีเพียง การ์เลส ปูโยล ที่เข้าใกล้ช่วงปลายอาชีพแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาก็เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมโดยที่ไม่มี เขา ในเกมที่ผ่านมาไม่ใช่หรอ" ลินิเกอร์ ร่ายยาว
 
  ในเกม ดังกล่าว "ปีศาจแดง" เหมือนจะกลับมาสู่เกมของตัวเองได้เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าเพลย์เมกเกอร์ ซัดประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ ซึ่ง ลินิเกอร์ ก็ชม เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ สำหรับความพยายามในการเล่นตามเกมของพวกเขา "ประตูของ เวย์น รูนี่ย์ มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่คุณก็ต้องให้เครดิตกับ ยูไนเต็ด พวกเขาพยายามเล่นตามเกมในทางที่ถูกต้อง"
 
  "มัน ไม่ใช่ธรรมชาติของพวกเขาในการเล่นหนักหรือเล่นในสไตล์แอนตี้ฟุตบอลที่ เรอัล มาดริด ใช้อย่างได้ผลในการคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ รวมถึงป่วน บาร์เซโลน่า ในรอบรองฯ ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ใน 2 เกมของรอบนั้น เรอัล ทำได้ดีที่สุดแล้วในการดึง บาร์เซโลน่า ลงมาให้เล่นในระดับเดียวกับพวกเขา เราได้เห็นการเล่นละครตบตาผู้ตัดสินซึ่งอาจจะเป็นเพียงข้อเสียเพียงข้อเดียว ของ บาร์เซโลน่า"
 
 "แต่ ยูไนเต็ด สามารถบีบให้ บาร์เซโลน่า ต้องโชว์ศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าจะยิงประตูตีเสมอได้ แต่ว่ามีได้แค่เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่จะคว้าแชมป์ไป รอยยิ้มหลังจบเกมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่มอบให้กับ กวาร์ดิโอล่า นั้นบอกความหมายหมดทุกอย่าง คือ เมื่อใดที่ บาร์เซโลน่า เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนั้น คุณก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะพวกเขาเลย" อดีตศูนย์หน้า เลสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์ส กล่าว
 
  นอก จากนี้ ลินิเกอร์ วัย 50 ปี ยังยกให้เกมชิงชนะเลิศถ้วยบิ๊กเอียร์ที่เพิ่งผ่านมานั้นนับได้ว่าเป็นปราก ฎการณ์ของโลกฟุตบอลเลยทีเดียว เนื่องจากได้สร้างเสริมภาพลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของเกมฟุตบอลในขณะที่เวลานี้มี แต่เรื่องอื้อฉาวที่ทำลายวงการลูกหนังอยู่
 
 "นี่แหละเป็น สิ่งที่ฟุตบอลต้องการ ในเวลานี้ที่วงการฟุตบอลเผชิญกับปัญหานอกสนามทั้ง การกล่าวหาว่า มีการทุจริตใน ฟีฟ่า, เรื่องเงิน และเรื่องเอเยนต์ เกมที่ผ่านมา (บาร์เซโลน่า - แมนฯ ยูไนเต็ด) เหมือนกับเป็นยาถอนพิษโรคร้ายเหล่านั้น" ลินิเกอร์ กล่าวทิ้งท้าย