บุรีรัมย์ถลุงเชียงราย 5-0, ท่าเรืออัดขอนแก่น 3-0, ศรีราชาบุกเชือดนาวี 1-0
Posted 12/06/2011 by thaileagueonline
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ พีอีเอ โชว์ฟอร์มเทพประเดิมสนามใหม่ นิว ไอโมบาย สเตเดี้ยม ไล่ถลุง เชียงราย ยูไนเต็ด เละเทะหมดสภาพ 5-0 ด้าน การท่าเรือไทย เอฟซี ก็ไล่ถล่ม ขอนแก่น เอฟซี กลับบ้านเก่า 3-0 ฉลองนัดส่งท้าย สะสม พบประเสริฐ ขณะที่ ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี บุกไปเอาชนะ ราชนาวี ได้ถึงถิ่น 1-0 หนีบ๊วยสำเร็จ
บุรีรัมย์ พีอีเอ 5-0 เชียงราย ยูไนเต็ด
ที่สนามนิว ไอโมบาย สเตเดี้ยม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมจ่าฝูงของตาราง ซึ่งก่อนลงสนามคว้าแชมป์เลกแรกแน่นอนแล้ว ประเดิมรังเหย้าแห่งใหม่เป็นทางการนัดแรกต้อนรับ "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 11ของตาราง โดยผลงานนัดล่าสุดของทั้งสองทีมเจ้าบ้านบุกไปเสียสถิติแพ้นัดแรกของฤดูกาลต่อ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 0-1ส่วนทีมเยือนเปิดบ้านเอาชนะ ทีโอที เอสซี ไปได้ 2-0
ก่อนลงสนามวันนี้ทางทีมเยือนได้รับข่าวร้าย เมื่อแฟนบอลของทีมที่จะเดินทางมาเชียร์ที่จ.บุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่จ.ลพบุรี มีผู้เสียชีวิตถึง 7ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นปธ.เชียร์ของทีม นายชินกร ศรีหยาม รวมอยู่ด้วย ซึ่งก่อนเกมเริ่มแฟนบอลของทีมเยือนก็ได้รับบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วย
เกมวันนี้เจ้าบ้านแม้จะคว้าแชมป์เลกแรกแน่นอนแล้ว แต่ก็จัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามหวังประเดิมรังเหย้าแห่งใหม่ด้วยการคว้า 3แต้มให้ได้ โดยผู้เล่นอย่าง แฟรงค์ โอฮานซ่า , แฟรงค์ โอโปคู และ รังสรรค์ วิวัฒน์ ชัยโชค ถูกส่งลงสนามทั้งหมด โดย สุเชาว์ นุชนุ่ม กองกลางตัวเก่งถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง ส่วนทีมเยือนถึงแม้จะได้รับข่าวร้ายก่อนลงสนามแต่พวกเค้าก็ส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามนำโดย ลีโอติน ชิเตสคู , เอ็ดวัลโด้ เฟอร์ไรร่า และ วสันต์ นาทะสัน
ก่อนที่จะเริ่มเกมการแข่งขันซ้อต่าย กรุณา ชิดชอบ ปธ.สโมสร บุรีรัมย์ เอฟซี และ ปธ.กองเชียร์ บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้มอบเงินช่วยเหลือแฟนบอลของ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางมาเชียร์ทีมรักเป็นเงินจำนวน 300,000บาท และยังมีการยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 1นาทีด้วย
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมก็เปิดเกมรุกแลกกันทันที โดยทีมเยือนวันนี้เล่นอย่างมุ่งมั่นไม่มีอุดพยายามหาโอกาสลุ้นทำประตูเช่นกัน โดยโอกาสแรกของเกมเป็นของเจ้าบ้านก่อน ในนาทีที่ 10จากการยิงนอกกรอบเขตโทษด้วยขวาของ แฟรงค์ โอโปคู แต่บอลหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 12ยังเป็นโอกาสของเจ้าบ้านอีดครั้งโดย แฟรงค์ โอโปคู คนเดิม ได้สับด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลไปแฉลบกองหลัง เจ้าบ้านได้ลูกเตะมุมโดยจังหวะนี้ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เปิดมาในกรอบเขตโทษจังหวะสุดท้าย โอบาม่า ฟรอเรนท์ ขึ้นโหม่งเบียดกองหลังเจ้าบ้านโหม่งเข้าประตูไปอย่างสวยงามให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
หลังจากที่ได้ประตูขึ้นนำ เจ้าบ้านก็ยังบุกกดดันทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง และนาทีที่ 18ก็มีโอกาสอีกครั้งจากการยิงหน้ากรอบเขตโทษของ แฟรงค์ โอฮานซ่า แต่ อาทิตย์ ธนูศร ยังล้มตัวรับไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ถัดมาอีก 2นาทีเจ้าบ้านสามารถส่งลูกเข้าสู่ก้นตาข่ายได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ แฟรงค์ โอโปคู หลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดมาให้คู่หู แฟร้ง โอฮานซ่า ไขว้ยิงบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงามแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าซะก่อน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 25เจ้าบ้านต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นเป็นคนแรกส่ง ชารีฟ สายนุ้ย ลงมาเล่นแทน ยุทธจักร์ ก้อนจันทร์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ถัดมาอีก 3นาทีเป็นโอกาสของทีมเยือนบ้างเมื่อ เอ็ดวัลโด้ กระดกบอลให้ ลีโอติน ชิเตสคู หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษด้วยซ้าย แต่บอลยังไม่ผ่านการป้องกันของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่รับเอาไว้ได้
นาทีที่ 36แฟรงค์ โอโปคู ยังพยายามที่จะใส่ชื่อตัวจริงบนสกอร์บอร์ดเมื่อได้บอลหน้ากรอบเขตโทษระยะร่วม 30หลา ก่อนที่จะตัดสินใจซัดด้วยซ้ายข้างถนัดทันทีบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังไม่ผ่านการป้องกันของ อาทิตย์ ธนูศร ผู้รักษาประตูทีมเยือนที่รับเอาไว้ได้ จากนั้นทั้งสองทีมก็เปิดเกมแลกกันอย่างสนุกแต่ก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ทำได้ผ่าน 40นาทีแรกของเกมสกอร์ยังเป็นเจ้าบ้านนำ 1-0
ช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านน่าได้ประตูที่สอง 57สองครั้งติดๆ จังหวะแรกนาทีที่ 45แฟรงค์ โอคูปู หลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่จังหวะสุดท้ายศูนย์หน้าตัวเก่งเจ้าบ้านยิงไปติด อาทิตย์ ธนูศร ออกหลังไป และอีกครั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก กีรติ เขียวสมบัติ หลุดเข้าไปกระดกข้ามหัวอาทิตย์ไปแล้ว แต่บอลไปชนคานอย่างจัง หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้จบครึ่งเวลาแรกเจ้าบ้านนำทีมเยือนแค่ประตูเดียว
ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยนตัวเป็นคนที่สองส่ง สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงมาเล่นแทน กีรติ เขียวสมบัติ ที่เล่นไม่ออก และนาทีที่ 49แฟรงค์ โอฮานซ่า เกือบยิงประตูที่สองให้เจ้าบ้าน เมื่อรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมหน้าเขตโทษก่อนเตะหลบกองหลังทีมเยือนหนึ่งจังหวะ และสับไกลด้วยขวาทันที แต่บอลไปตรงตัว อาทิตย์ ธนูศร รับไว้ได้ไม่พลาด
นาทีที่ 53เจ้าบ้านพลาดได้ประตูที่สองอีกครั้ง จากจังหวะที่ ชารีฟ สายนุ้ย ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษระยะ 30หลาก่อนที่จะตัดสินใจซัดด้วยขวาทันที บอลพุ่งเข้ากรอบทำท่าเหมือนจะเสียบเสาสองแต่ดันไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีกนาทีเดียวเจ้าบ้านก็มาได้ประตูที่สองจนได้จากจังหวะที่ ธีราธร บุญมาทัน หลุดไปสุดเส้นด้านซ้ายก่อนจะเปิดมาให้ ชารีฟ สายนุ้ย โหม่งจ่อๆแค่ห้าหลาไม่พลาดให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 62เจ้าบ้านน่าได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ แฟรงค์ โอโปคู หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษด้วยซ้าย แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีก 5นาทีสถานการณ์ทีมเยือนต้องย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อ อาทิตย์ ธนูศร ไปเล่นนอกเกมใส่ เอ็กเวลล่า เฮอร์แมน ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนามแถมต้องเสียลูกโทษ โดยทีมเยือนส่ง แมนเทวา ล่ามสมบัติ ลงมาเล่นแทน ฉัตรชัย นาควิจิตร และ สุเชาว์ นุชนุ่ม ก็ซัดลูกโทษไม่พลาดให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 3-0
หลังจากได้ประตูที่สามแถมได้เปรียบตัวผู้เล่น 1คนเจ้าบ้านก็ยังไม่เพลาเกมบุกพยายามลุยเอาประตูที่สี่ให้ได้ และนาทีที่ 77ก็มาได้ประตูที่ส่งทีมเยือนลงหลุม จากจังหวะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะเปิดมาที่จุดนัดพบให้ แฟรงค์ โอฮานซ่า ไขว้ยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้นให้เจ้าบ้านทิ้งห่างทีมเยือนเป็น 4-0
นาทีที่ 81ธีราธร บุญมาทัน เกือบใส่ชื่อตัวเองบนสกอร์บอร์ดเมื่อเติมขึ้นมาจากริมเส้นด้ายซ้าย ก่อนจะหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายข้างถนัดในกรอบเขตโทษแต่ยังไม่ผ่านการป้องกันของ แมนเทวา ที่ปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 89เจ้าบ้านก็มาได้ประตูที่สี่จนได้จากจังหวะที่ แฟรงค์ โอโปคู หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษบอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างสวยงามให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 5-0หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้จบเกม บุรีรัมย์ พีอีเอ เปิดรังเหย้าแห่งใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมเปิดบ้านเอาชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ถึง 5-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ พีอีเอ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(ผู้รักษาประตู) , ธีราธร บุญมาทัน , แอนเดอร์สัน โดสซานโต๊ส , จักรพันธ์ แก้วพรม , โอบาม่า ฟรอเร้นท์ , เอ็กเวลล่า เฮอร์แมน(อดิศักดิ์ ไกรษร น.79) , รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค(กัปตันทีม) , ยุทธจักร ก้อนจันทร์(ชารีฟ สายนุ้ย น.25) , แฟรงค์ โอฮานซ่า , แฟรงค์ โอโปคู , กีรติ เขียวสมบัติ (สุเชาว์ นุชนุ่ม น.45)
เชียงราย ยูไนเต็ด : อาทิตย์ ธนูศร(ผู้รักษาประตู) , เอ็ดวัลโด้ เฟอร์ไรร่า(ฉัตรชัย นาควิจิตร น.69)(แมนเทวา ล่ามสมบัติ น.75) , ลีโอติน ชิเตสคู , รัฐพล อัฐวงษ์(ธวัชชัย ทองฮวด น.54) , ยุเลี่ยน ซูซ่า ดาซิลวา , ภานุพงศ์ อารัมภ์วิโรจน์ , กิลสัน ดิอาส , สัญญา พวงจันทร์(กัปตันทีม) , คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ , วสันต์ นาทะสันต์สัน , เอ็ดวัลโด้ เฟอร์ไรร่า
การท่าเรือไทย เอฟซี 3 - 0 ขอนแก่น เอฟซี
ที่สนามแพท สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่างการท่าเรือไทย เอฟซี เปิดบ้านต้อนรับ ขอนแก่น เอฟซี โดยเกมนี้เป็นเกมสุดท้ายที่ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ที่จะลงคุมทีม "สิงห์เจ้าท่า" เช่นเดียวกับนักเตะอีกหลายคนที่จะย้ายไปอยู่กับบุรีรัมย์ เอฟซี
เกมนี้เจ้าถิ่นที่ชนะมา 3นัดรวดจะไม่มี วรวุฒิ วังสวัสดิ์ และ มาริโอ ดา ซิลวา ที่ติดโทษแบน ทางด้านทีมเยือนที่ต้องการคะแนนเพื่อหนีจากโซนตกชั้นไม่มีตัวหลักอย่าง สุรชาติ สิงห์โหง่น ที่เจ็บข้อเท้า
น.7ขอนแก่นได้ลุ้นก่อนเมื่อ เริ่มรัตน์ งามเจริญ แย่งบอลจาก ศิวกร จักขุประสาท ก่อนไหลให้กับ คำแพง สายวุฒิ ได้พลิกยิงบริเวณหัวกระโหลกแม้จะเข้ากรอบแต่ไม่ห่างตัวของ มุนเซ่ อุลริช ทำให้ถูกป้องกันไว้ได้
การท่าเรือ ขึ้นนำ 1 - 0น.9จากจังหวะเปิดบอลยาวบริเวณกลางสนามให้กับ สมปอง สอเหลบ เข้าถึงบอลก่อน ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์ ที่ตัดบอลพลาด ทำให้ สมปอง สอเหลบ โหม่งสวนเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย
เจ้าถิ่นเกือบได้อีกประตู น.25เอกชัย สำเร ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจซัดมุมแคบกะให้เสียบเสาไกลแต่ว่า ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์ ยังล้มตัวตะครุบไว้ได้
น.33ขอนแก่นได้โอกาสทองในการตามตีเสมอ สจ๊วต เคลลี่ ได้ยิงครั้งแรกไปติดผู้เล่นเจ้าถิ่นกระดอนมาเข้าทาง คำแพง สายวุฒิ ที่ยืนอยู่โล่งๆคนเดียวแปบอลไปติดปลายเท้าของ มุนเซ่ อุลริช อย่างไม่น่าเชื่อ
น.38จัตตุพล สิทธิเลาะ กองหลังพันธุ์ดุของทีมเยือนไปเสียบ สมปอง สอเหลบ คว่ำในเขตโทษทำให้ ประยูร วีรพูล ผู้ตัดสินในเกมนี้ไม่ลังเลที่จะเป่าให้เป็นจุดโทษ พร้อมทั้งแจกใบเหลืองให้กับ จัตตุพล สิทธิเลาะ ก่อนที่ อาลีฟ เปาะจิ จะสังหารไม่พลาดให้เจ้าถิ่นหนีไปเป็น 2 - 0
เกือบจะเป็นประตูที่ 3ของเจ้าถิ่น น.45ได้ลูกฟรีคิกระยะ 22หลา กลางประตู จิรวัฒน์ มัครมย์ เจ้าพ่อลูกนิ่งของ "สิงห์เจ้าท่า" อาสาปั่นเองบอลผ่านกำแพงก่อนตกพื้นหนึ่งจังหวะ ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์ หมดสิทธิ์ไปแล้วแต่บอลหลุดกรอบไปแบบหวุดหวิด
ในช่วงครึ่งหลัง น.53ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นแบบจังๆ พีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์ โยนบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษ จัตตุพล สิทธิเลาะ ได้โฉบเข้าโหม่ง มุนเซ่ อุลริช ทำได้แค่ยืนมอง ทว่าบอลตกพื้นก่อนกระเด้งเฉียดเสาไปอย่างน่าเสียดาย
น.65จิรวัฒน์ มัครมย์ เลี้ยงหลบ ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์ ก่อนจะยิงมุมแคบส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย แต่ว่ามีธงจากผู้ช่วยผู้ตัดสินซะก่อน พลาดได้ประตูที่ 3ไปอีก
น.74เจ้าถิ่นมาบวกเพิ่มอีกเมื่อ จิรวัฒน์ มัครมย์ ปาดเรียดจากฝั่งขวามาหน้าประตูให้กับ เอกชัย สำเร แปบอลเข้าไปง่ายๆ หนีห่างเป็น 3 - 0
ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนพยายามจะเปิดเกมบุกเข้าแลกเพื่อหวังประตูปลอบใจในเกมนี้แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบเกมการท่าเรือไทย เอฟซี เอาชนะ ขอนแก่น เอฟซี 3 - 0เป็นการอำลา "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ที่สวยงาม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
การท่าเรือไทย เอฟซี : มุนเซ่ อุลริช (GK - ณรงค์ วิเศษศรี น.86) , อาลีฟ เปาะจิ , ทศพล ลาเทศ , มูโดรู มอยซี่ , ธงชัย กึนขุนทด , จิรวัฒน์ มัครมย์ (C) , ศิวกร จักขุประสาท (อิทธิพล นนท์ศิริ น.70) , เกียรติเจริญ เรืองปาน , จาค็อบ ไอคิออนบาเร่ (ภูดิท เนียมคง น.78) , เอกชัย สำเร , สมปอง สอเหลบ
ขอนแก่น เอฟซี : ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์ (GK) , หลี่ เซียง , อภิศักดิ์ อาสายุทธ์ (พีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์ น.41) , จัตตุพล สิทธิเลาะ , ศุภกร ฆารดา , เริ่มรัตน์ งามเจริญ (C) , กฤษดา เหมวิพัฒน์ (สกลวัชร์ สกลหล้า น.41) , โจคัม , สจ๊วต เคลลี่ (กัลยา สายสมวัง น.60) , คำแพง สายวุฒิ , อดิศักดิ์ จารัตน์
ราชนาวี 0 – 1 ศรีราชา ซูซูกิ
ศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2011 สัปดาห์สุดท้ายของเลกแรก ที่สนาม สพล.ชลบุรี การดวลกันของ 2 ทีมท้ายตาราง “ตะหานน้ำ” ราชนาวี ทีมอันดับ 17 ที่ล่าสุดเพิ่งออกไปแพ้ เอสซีจี สมุทรสงคราม 2-0 เปิดบ้านพบ “บลูมาร์ลิน” ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ทีมบ๊วยของตาราง ซึ่งสัปดาห์ก่อนพ่าย ทีทีเอ็ม พิจิตร คาบ้าน 1-2
เจ้าถิ่นจัดแนวรุกห้อย สมพร ธัญญเจริญ เป็นตัวเป้าและมี โอลอฟ วัตสัน คอยสนับสนุน ส่วน ดุสิต เฉลิมแสน ที่ยังไม่สามารถพา "บลูมาร์ลิน"เก็บแต้มได้เลยจากการคุมทีมเต็มตัว 2 นัด ใช้ อารอน ดาซิลวา จับคู่ สนอง ชัยประโคม ขณะที่ วรุตม์ วงศ์ดี กลับมาเป็น 11 คนแรกอีกครั้ง
ช่วง 10 นาทีแรกเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่า อาศัยการขึ้นบอลของ วรุตม์ วงศ์ดี ให้ 3 ประสานในแดนหน้าทั้ง อารอน,สนอง และ เกริกฤทธิ์ ใช้ความเร็วแต่แนวรับนาวียังสกัดจังหวะสุดท้ายทิ้งไปได้หมด และจากลูกฟรีคิก ยอดรัก เปิดโค้งด้วยซ้าย เกริกฤทธิ์ โฉบมาโหม่งเช็ดออกหลัง
แค่ 12 นาทีเจ้าถิ่นชักมีปัญหาเมื่อเสีย คมสัน เมินดี แบ็กขวาที่มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง เสกสันต์ ชาวทองหลาง ลงเล่นแทน ศรีราชา บุกได้มากกว่าก็จริงแต่จังหวะเปิดสุดท้ายทั้ง อารอน และ สนอง ยังเตะทิ้งเตะขว้างทำใหโอกาสทำประตูแทบไม่มี
น.27 อารอน มีจังหวะกลับตัววอลเลย์ด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลก็ข้ามคานไปไกล ขณะที่เกมรุกของราชนาวี มีเพียง โอลอฟ กับ เอดู ที่มีส่วนร่วมมากกว่าคนอืนทำให้แนวรับบลูมาร์ลินไม่ได้โดนทดสอบมากนัก
น.34 ทีมเยือนน่าจะขึ้นนำไปแล้วจากการเติมของ ยอดรัก มาทางกราบซ้ายก่อนจะผ่านมาหน้าเขตโทษ อารอน จับและซัดด้วยซ้ายข้ามคานไปนิดเดียว ถัดมาไม่ถึงนาที อารอน ตอกส้นให้ ยอดรัก หลุดเดี่ยวและจังหวะสุดท้ายเสียหลักทำให้แปหลุดเสาสองแบบน่าเสียดาย ศรีราชา ใกล้เคียงกับการได้ประตู
ท้ายครึ่งแรกราชนาวีเริ่มตอบโต้ขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่ได้กดดันอะไรให้ ลูคัส ดาเนียล ต้องออกแรงจบ 45 นาที ยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังเล่นไป 5 นาที โค้ชอ้วก เปลี่ยนคนที่ 2 ปรับแนวรุกเอา วุฒิชัย อะสุชีวะ ลงมาแทน เอดู ราชนาวี เริ่มทำเกมได้ดีกว่าครึ่งแรกแต่ก็ยังเจาะแนวรับศรีราชาไม่เข้า ขณะที่ทีมเยือนลายเป็นฝ่ายตั้งรับตลอดหลังผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ข้างสนามทีมเยือนเริ่มขยับ พรศักดิ์ ป้องทอง ลงมาแทน วรุตม์ วงศ์ดี นาวี ยังเป็นฝ่ายพับสนามบุกเป็นระรอก น.69 วุฒิชัย ลองส่องระยะ 18 หลาไม่ตรงกรอบ
เจ้าถิ่นบุกเพลินๆเจอทีเด็ดของ ศรีราชา น.76 เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ หลุไปถึงเส้นหลังก่อนจะจ่ายมาให้ เอกชัย ฤทธิ์พันธ์ ตัวสำรองดีดเข้าไปสกอร์ขยับ 1-0 ท้ายเกมแม้ว่าราชนาวีจะส่ง อนุวัฒน์ ศรชัย ลงมาเติมเกมรุกเพิ่มแต่ก็ตามตีเสมอไม่ได้จบเกม ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี บุกมาชนะ ราชนาวี 1-0 ส่งผลให้ ตะหานน้ำต้องจบเลกแรกด้วยตำแหน่งบ๊วยของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ราชนาวี : สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน (GK) - คมสัน เมินดี ( เสกสันต์ ชาวทองหลาง น.12) ,กุศล เพ่งผล(C) ,อมาร่า เจอร์รี่ ,เจษฎา งามเมือง - สุรศักดิ์ คุ้มกัน (อนุวัฒน์ ศรชัย น.82) ,ปิยะชาติ ศรีมะเรือง ,เยา มาติเยอ ,โอลอฟ วัตสัน - เอดู จัมฟี่ (วุฒิชัย อะสุชีวะ น.50),สมพร ธัญญเจริญ
ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี : ลูคัส ดาเนียล (GK) – ดีเอโก้ โรเบิร์ต ,สุจริต จันทกล ,วุฒิศักดิ์ มณีสุข ,ยอดรัก นาเมืองรักษ์ - วรุตม์ วงศ์ดี ( พรศักดิ์ ป้องทอง น.60),จัสติน มูส ,อำไพ มุธาพร (ดั๊กลาส โคโบ น.90) ,เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ - สนอง ชัยประโคม (C) (เอกชัย ฤทธิ์พันธ์ น.68),อารอน ดาซิลวา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ฉลองวันเกิด!บาร์เซโลน่า จ่อขยายสัญญา ลามีน ยามาล เป็นสถิติใหม่
วิเคราะห์บอล เซลต้า พบ บาร์เซโลน่า วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. 67
ผลบอล : เลเวอร์คูเซ่น โดน 2 รัวแซงสะเด่า, ดอร์ทมุนด์ ดุรัว 4 เม็ด
แมนซิตี้ พบ สเปอร์ส ! อีฟส์ บิสซูม่า ซิวใบเหลืองไวเป็นสถิติพรีเมียร์ลีก
ยังไม่ฟิต! บาร์เซโลน่า ไร้ ลามีน ยามาล ฟัด เซลต้า
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์