สื่อดังประโคมข่าว ตระกูลเกลเซอร์ เตรียมขายหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ งานนี้หากทุกอย่างฉลุย จะช่วยให้ "ปีศาจแดง" ลดหนี้ลงได้อย่างฮวบฮาบเลยทีเดียว

  วอลล์ สตรีท เจอร์นัล นิตยสารด้านการเงินชื่อดัง ตีข่าว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 19 สมัย มีแผนที่จะขายหุ้นจำนวน 610 ล้านปอนด์  (ราว 30,500 ล้านบาท) โดยเป็นการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์ ช่วงปลายปีนี้

 ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด มีแผนที่จะขายหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ประเทศฮ่องกง เนื่องจากทวีปเอเชียมีฐานแฟนบอล "เร้ด อาร์มี่" อยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาตัดสินใจเลือกตลาดหุ้นของสิงคโปร์ ในการขายหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่ ตระกูลเกลเซอร์ ถืออยู่ให้กับประชาชนทั่วไป

   หากแผนการเป็นไปตามเป้าหมาย ตระกูลเกลเซอร์ ก็ยังคงถือหุ้นของทีม 75 เปอร์เซ็นต์ มีสิทธิ์ขาดในการบริหารทีมเหมือนเดิม แต่การทำแบบนี้ช่วยให้หนี้สินของสโมสรลดลงทันที ซึ่งจะส่งผลให้ ตระกูลเกลเซอร์ มีโอกาสที่จะได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในระยะเวลาอันใกล้ด้วย

   ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของลอนดอน จนกระทั่งถูกเทกโอเวอร์โดย ตระกูลเกลเซอร์ ซึ่งเข้ามาซื้อทีมด้วยจำนวนเงินกว่า 800 ล้านปอนด์ (ราว 40,000 ล้านบาท) เมื่อปี 2005 แต่ภายใต้การบริหารงานของมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน "ผีแดง" มีปัญหาหนี้สินกว่า 500 ล้านปอนด์ (ราว 25,000 ล้านบาท)