ดร.แอนโธเนีย โอนูโอฮา มารดาของ เนดุม โอนูโอฮา นักเตะในสังกัดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทนถูก แกร์รี่ คุ้ก ประธานบริหาร"เรือใบสีฟ้า"ย่ำยีที่ส่งมาทางอีเมล์ไม่ไหวจึงร้องเรียนไปยัง สโมสรและเอฟเอ ขณะที่เจ้าตัวออกโรงปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นด้วยทั้งสิ้น

 ดร.แอนโธเนีย โอนูโอฮา มารดาของ เนดุม โอนูโอฮา กองหลังวัย 24 ปีนักเตะในสังกัดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่อาจอยู่นิ่งเฉยที่ต้องทนถูก แกร์รี่ คุ้ก ประธานบริหาร"เรือใบสีฟ้า"ส่งอีเมล์มาเจตนาย่ำยีซึ่งป่วยเป็นมะเร็งไม่ไหว แล้ว จึงได้ร้องเรียนไปยังสโมสรต้นสังกัดลูกชายและสมาคมฟุตบอลอังกฤษหรือเอฟเอรวม ถึงพรีเมียร์ลีก ให้ดำเนินการเรื่องนี้ ขณะที่เจ้าตัวก็ออกโรงปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นด้วยทั้งสิ้นกับการกระทำดังกล่าว ยันไม่ใช่ตัวเขาเป็นคนทำแน่ จากการตีข่าวของสำนักข่าว"บีบีซี"

     เรื่องมีอยู่มาวันหนึ่งแม่ของ โอนูโฮฮา ได้รับอีเมล์ระบุผู้ส่งจาก แกร์รี่ คุ้ก โดยเนื้อหาในอีเมล์ฉบับนี้ทำนองโจมตีตัวเธอที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง และเป็นคนดูแลสัญญาทั้งหมดของลูกชาย ซึ่งคุณแม่ โอนูโอฮา เปิดเผยถึงวันที่ได้รับอีเมล์นี้ว่า!"ตอนเปิดอีเมล์และเห็นข้อความฉันรู้สึก เหมือนเป็นวันเลวร้ายที่สุดในชีวิตยิ่งกว่าตอนรู้ว่าเป็นมะเร็ง ไม่เข้าใจเลยใครที่ประพฤติตัวเช่นนี้ ฉันร้องไห้อยู่หลายชั่วโมงเลยทีเดียวทั้งที่เพิ่งเข้ารับเคมีบำบัด แม้ว่าจะตกใจแต่ก็ไม่อยากบอก เนดุม หรือคนอื่นในครอบครัว เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีปฎิกิริยาอย่างไร"

     "มันเหลือเชื่อจริงๆว่าฉันป่วยหนักอย่างนี้จะมีมนุษย์หน้าไหน ที่จะกล้าเขียนอีเมล์แบบนี้ มันเป็นอะไรที่ให้อภัยไม่ได้ และฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ"ซึ่งข้อความที่เขียนมาในอีเมล์มีว่า"แม้ ร่างกายของเธอจะถูกทำลายโดยโรคมะเร็ง และต้องเคมีบำบัดอย่างไม่หยุดยั้งก็ตามแต่เธอก็ยังพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อผล ประโยชน์ของลูกชาย จะตายเพราะมะเร็งเนี่ยนะ!ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คุณนอนหลับได้ยังไงในแต่ละคืน คุณเคยเป็นคนดีที่หนึ่งเลยทีเดียวเชียวนะตอนที่ผมทำงานกับคุณที่ไนกี้น่ะ" ด้าน แกร์รี่ คุ้ก ประธานบริหาร"เรือใบสีฟ้า"ก็ออกมาตอบโต้กับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า!

     เป็นพวกแฮกเกอร์ที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนแอบเข้ามาใช้แอ คเคาท์ของตัวเขาส่งอีเมล์ไป ขณะเดียวกันสื่อบางสำนักก็รายงานว่าคนที่ส่งไปจริงๆ อาจจะเป็น ไบรอั้น มาร์วู้ด ผู้อำนวยการฟุตบอลของถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม สนามเหย้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้นสังกัด(แมนฯซิตี้) และสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ได้ออกมาขานรับเพื่อดำเนินการสืบสวนเรื่องราวฉาวที่เกิดขึ้นนี้ทั้งหมดแล้ว เพื่อหาว่าใครเป็นผู้กระทำเรื่องอื้อฉาวในครั้งนี้ขึ้นพร้อมกับจะให้ความ ยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย และคาดว่าเรื่องทั้งหมดจะได้บทสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์นี้