ดร.วิชิต ปธ.ไทยลีกยันปี 2013 มีโอกาสเปลี่ยนกฎโควตาแข้งต่างชาติเป็น 3+1 ทุกสโมสรยกมือเห็นด้วย แถมยังรับปากจัดลีกสำรองให้ด้วย  พร้อมแนะให้ทุกสโมสรร่างสัญญานักเตะใหม่ เน้นให้ระบุวันหมดสัญญาให้ล่วงจากสิ้นปี 2 อาทิตย์ ป้องกันเหตุเลื่อนโปรแกรมไทยลีกขณะที่เชิ้ตดำยุ่นมาแน่เดือน ธ.ค. ทว่ามีเพียง 2 ราย ทำเอาหลายสโมสรเชื่อไม่น่าช่วยอะไรได้

ดร.วิชิตเรียก 18 ทีมประชุม
เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ก.ย.2554 ที่ผ่านมา  เวลาประมาณ 14.00 น. ที่ห้องทานตะวัน  ร.ร.โกลเดน ทิวลิป ซอฟเฟอรีน ทางสมาคมฟุตบอลไทยแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บ.ไทย พรีเมียร์ลีก  ได้จัดการสัมมนาผู้จัดการทีมเพื่อสิทธิประโยชน์โดยมีตัวแทนของทุกสโมสรใน ไทยลีก ตบเท้าเข้าร่วมการสัมมานาครบครัน โดยการสัมมนาเชิงประชุมครั้งนี้มี ดร.วิชิต  แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทย พรีเมียร์ลีก เป็นประธาน  โดยได้ข้อสรุปในหลายๆ เรื่อง  โดยเฉพาะโปรแกรมการแข่งขันที่ทุกสโมสรต้องการทราบอย่างแน่ชัด  ซึ่งได้หารือกันนานร่วม 3 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

สำหรับข้อสรุปที่แน่นอนมีเรื่องของการวางโปรแกรมให้สโมสรที่ไม่มีนักเตะติด ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ลงสนามแข่งขันในช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในช่วงท้ายฤดูกาลซึ่งจากเดิมวางเอาไว้คือวันที่ 24-25 ธ.ค. ซึ่งทุกสโมสรมีความเห็นตรงกัน  ส่วนจะมีทีมไหนบ้างนั้นต้องรอการประกาศชื่อ 20 ขุนพล ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์
 
เน้นระบุวันหมดสัญญานักเตะ
ทั้งนี้จากโปรแกรมการแข่งขันในฤดูกาลนี้ที่พยายามให้จบวันที่ 31 ธ.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสัญญาของนักเตะที่ทุกสโมสรเซ็นเอาไว้ถึงวันดังกล่าว  ทำให้ไม่อาจล่วงโปรแกรมให้เกินเดือน ธ.ค. ได้  ซึ่งเรื่องนี้ ดร.วิชิต  แย้มบุญเรือง ได้แนะนำให้ทุกสโมสรร่างสัญญาใหม่ให้กับนักเตะ  โดยให้ระบุว่าสัญญาจะหมดลงอย่างเป็นทางการหรือบังคับใช้ภายหลังจากปิดฤดูกาลแล้ว 2 อาทิตย์  เพื่อป้องกันการล่วงของโปรแกรมในซีซั่นหน้าที่ยังไม่อาจการันตีได้ว่าจะจบในช่วงเดือนใด  เพราะเกรงว่าจะเจอปัญหาเหมือนหลายซีซั่นที่ผ่านมา
 
ปี 2013 ใช้กฎต่างชาติ 3+1
นอกจากนั้นในเรื่องของโควตานักเตะต่างชาติที่ปัจจุบันใช้กฎ 7 - 5 (ส่งชื่อ 7 ลงสนาม 5 ) หลายสโมสรมีการเรียกร้องให้ลดโควต้าผู้เล่นต่างชาติเหลือ 3 + 1 (ต่างชาตินอกเอเชียลง 3 เอเชีย 1) เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักเตะไทยโดยเฉพาะบรรดาดาวรุ่งที่ปัจจุบันไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองเท่าไหร่ในสโมสรต่างๆ

โดยทาง ดร.วิชิต  แย้มบุญเรือง รับปากว่าเรื่องนี้จะมีการเอาเข้าที่ประชุมในการประชุมใหญ่ประจำปีและคาดว่าจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2013 เพื่อให้ทุกสโมสรได้มีการเตรียมตัวและวางแผนในการเซ็นสัญญานักเตะต่างชาติ  ซึ่งทุกสโมสรมีความเห้นในแนวทางเดียวกัน
 
ปีหน้าจัดแน่ลีกสำรอง
ขณะที่ลีกสำรองซึ่งมีการเรียกร้องจากหลายๆ สโมสรให้ตั้งการแข่งขันของทีมสำรองขึ้น  ทาง ดร.วิชิต  แย้มบุญเรือง ได้รับฟังความเห็นจากหลายสโมสรและมีข้อสรุปว่าในฤดูกาลหน้าจะจัดลีกสำรองขึ้นเพื่อให้นักเตะที่ไม่ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่มีโอกาสได้สัมผัสเกมรวมถึงเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี  ที่จะได้มีเวทีพิสูจน์ฝีเท้าก่อนขึ้นชุดใหญ่ของสโมสร

สำหรับลีกเยาวชนมีระเบียบคร่าวๆ ในที่ประชุมบอกไว้ว่าจะทำการแข่งขันระหว่างทีมจาก ไทยลีก และ ดิวิชั่ น1 รวม 36 ทีม  โดยจะจัดแข่งเป็นลีกของแต่ละโซนเพื่อหาทีมเข้าเล่นรอบแชมป์เปี้ยนลีกและหาทีมแชมป์ต่อไป
 
เดือน ธ.ค. เปายุ่นร่วมตัดสิน
ส่วนผู้ตัดสินต่างชาติที่มีการประกาศเอาไว้ตั้งแต่เปิดฤดูกาลว่าจะนำมาตัดสินในเกม ไทย พรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะคู่ที่สำคัญต่อการลุ้นแชมป์และหนีตกชั้น  ทาง ดร.วิชิต  แย้มบุญเรือง ยืนยันว่าถึงตอนนี้ดำเนินการติดต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ซึ่งผู้ตัดสินที่จะมาทำหน้าที่นั้นเป็นผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นที่ส่งมาโดยสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น จำนวน 2 คน  โดยจะเดินทางมาดูเกม ไทยลีก ในเดือน ต.ค. เพื่อศึกษาเป็นข้อมูล  ก่อนจะมาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการในเดือน ธ.ค. นี้  ซึ่งจะลงทำหน้าที่ทุกสัปดาห์

ทั้งนี้มีเสียงทักท้วงในเรื่องของผู้ตัดสินต่างชาติที่นำมาเพียง 2 คน  โดยแบ่งเป็นตัดสินนัดละ 1 คน  ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีในกรณีที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินเป็นคนไทย  ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีโดยพยายามเรียกร้องให้นำผู้ตัดสินต่างชาติมาช่วยในการตัดสินในแต่ละเกมมากกว่า 1 คน