ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » รู้จัก “เลย์ลา โลเปซ” กับรอยยิ้มที่สร้างประวัติศาสตร์ให้แองโกลา

รู้จัก “เลย์ลา โลเปซ” กับรอยยิ้มที่สร้างประวัติศาสตร์ให้แองโกลา

Posted 14/09/2011 by ผู้จัดการ

ทันทีที่สิ้นเสียงของพิธีกรบนเวทีที่ประกาศให้ “เลย์ลา โลเปซ” เป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในจักรวาลประจำปี 2011 บนเวทีประกวด “มิสยูนิเวิร์ส” ประเทศแองโกลาก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ กับการคว้ามงกุฎบนเวทีประกวดความงามที่ยิ่งใหญ่ และจัดกันมายาวนานที่สุดในวงการ ได้เป็นครั้งแรกไปด้วย
      
สาวสวยวัย 24 ปี เลย์ลา โลเปซ ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศแม่ เกิดที่ แบงกูเอลา เมืองทางชายฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศแองโกลา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้ โดยครั้งหนึ่งเธอเคยแสดงความมุ่งมั่นว่าอยากจะเป็นตัวแทนของท้องถิ่นเพื่อจะบอกให้โลกได้รู้ว่า เหตุใดแบงกูเอลาที่มีประชากรประมาณเพียงแค่ 5 แสนคน บ้านเกิดของเธอที่แองโกลาจึงได้รับฉายาว่าเป็นดินแดนของสาวงาม
      
จากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เคยถูกเรียกว่า “มด” ตอนนี้ เลย์ลา โลเปซ กลายเป็นสาวสวยผู้มีส่วนสูงถึง 179 ซม. มีเสน่ห์เต็มเปี่ยม ขณะที่เจ้าตัวคิดว่าดวงตาและผมสีน้ำตาลคือจุดเด่นที่สุดของเธอ
      
หลังจากจบการศึกษาในระดับมัธยมปลาย โลเปซเดินทางมาศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ จนเธอกลายเป็นตัวแทนของประเทศเพื่อขึ้นเวทีมิสยูนิเวิร์ส หลังคว้ามงกุฎเป็น “มิสแองโกลา ยูเค” เมื่อปี 2010 ในการประกวดที่ลอนดอน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมอยู่ประมาณ 20 คน เป็นงานที่จัดขึ้นโดยชุมชนชาวแองโกลาที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร จนเธอได้เข้าร่วมประกวดมิสแองโกลาที่จัดขึ้นในลูอันดา เมื่อปี 2011 และได้รับมงกุฎมาครองในที่สุด
      
การประกวดเวทีมิสแองโกลาเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1997 เพื่อจุดประสงค์หลักส่วนหนึ่งก็คือการคัดสรรสาวงามเพื่อส่งเข้าร่วมในการประกวดมิสเวิลด์ และมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา กองประกวดมิสแองโกลาสามารถส่งสาวงามเข้าถึงรอบ 15 คนสุดท้ายบทเวทีมิสยูนิเวิร์สมาแล้วถึง 4 คน
      
ซึ่งเมื่อครั้งในการประกวดระดับประเทศ โลเปซได้รับคำชมเชยว่ามีรอยยิ้มที่จริงใจ เป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นที่สุดของเธอ…และด้วยความสวย และรอยยิ้มดังกล่าว ในที่สุดตัวแทนจากแองโกลาคนนี้ก็ไปไกลถึงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส ในการประกวดที่จัดกันขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศแห่งความเซ็กซี่ร้อนแรง และกีฬาฟุตบอลอย่างบราซิล เอาชนะสาวงามตัวแทนจากประเทศต่างๆ อีก 88 คนไปได้
      
“ขอบคุณพระเจ้าค่ะ ฉันพอใจกับสิ่งที่พระเจ้าสร้างให้ฉันเป็นอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเอง” โลเปซ กล่าวออกมาในช่วงของการตอบคำถามบนเวทีประกวด “ฉันคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับความงามภายในมากกว่าค่ะ ฉันได้รับข้อคิดดีๆ มากมายจากครอบครัว และตั้งใจว่าจะดำเนินชีวิตในแนวทางนั้นตลอดไป”
      
“เหมาะสมสุดๆ แล้ว เราเชียร์เธอกันมาตั้งแต่ต้นเลย" แคโรไลนา โรชา ชาวบราซิลวัย 36 ปี ที่เฝ้าติดตามการประกวดกล่าวแสดงความยินดีกับผลของมิสยูนิเวิร์สในปีนี้ “รอยยิ้มของเธอ, ความเป็นกันเอง คือสิ่งที่ทำให้เธอต่างจากคนอื่นๆ เธอยังตอบคำถามได้ดีมากๆ ด้วย”
      
เลย์ลา โลเปซ เป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ มาตั้งแต่แรก ถูกเรียกว่าเป็นสาวผิวสีและตัวแทนของแอฟริกาที่สวยที่สุดบนเวทีประกวดปีนี้ โดยเธอยังถือเป็นสาวแองโกลาคนแรก ที่ได้ตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ด้วย และทำให้สาวงามจากจีนที่ตั้งเป้าคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สครั้งแรกมาหลายสมัย ต้องรอคอยต่อไปอีกปี
      
โดยขณะนี้ โลเปซอยู่ระหว่างพักการเรียนเอาไว้ 1 ปีเพื่อทำหน้าที่ซึ่งได้รับให้ดีที่สุด สาววัย 24 ปีคนนี้ยังยืนยันความเป็น “แองโกลา” อย่างเต็มร้อย เธอชอบเต้นรำในท่วงทำนองของ “คูดูโร” ดนตรีร่วมสมัยที่พัฒนามาจากเพลงแนวพื้นเมืองของแองโกล่ามากที่สุด ขณะที่อาหารโปรดก็ต้องเป็น “คาลูลู” อาหารจานเนื้อตากแห้ง ที่เสิร์ฟพร้อมผักนานาชนิดอย่างแน่นอน
      
สาวผิวสีบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส
      
แม้ระยะหลังความโด่งดังและศักดิ์สิทธิ์จะลดน้อยลงไปตามลำดับ “มิสยูนิเวิร์ส” ยังคงได้รับการยอมรับจากผู้คนในแวดงวงบันเทิงและสื่อว่าคือเวทีประกวดความงามอันดับ 1 แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นที่ถูกพูดถึงมาตลอดว่า เวทีประกวดที่ดำเนินมาถึง 60 ปีแล้วนี้มีผู้ชนะเลิศได้ครอบครองมงกุฎที่เป็นสาวผิวดำน้อยเต็มทน
      
จาเนียล คอมมิสซิออง ตัวแทนจากตรินิแดดและโตเบโก กลายเป็นสาวงามผิวดำคนแรกที่ได้ครองมงกุฎนางงามจักรวาลในการประกวดเมื่อปี 1977, ต่อมา เชลซี สมิธ คือสาวผิวสี (ที่มีแม่เป็นคนผิวขาว) จากสหรัฐอเมริกาคนแรกที่คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส
      
เวนดี ฟริตซ์วิลเลียม เป็นสาวผิวสีอีกคนจากตรินิแดดฯ ที่ครองตำแหน่งได้ในปี 1998 และเมื่อปี 1999 เอ็มปูเล คเวลาโกเบ จาก บอตสวานา กลายเป็นสาวผิวสีจากแอฟริกาคนแรก ที่ได้ครองมงกุฏอันทรงเกียรตินี้ นอกจากนั้นการได้รับมอบตำแหน่งจาก ฟริตซ์วิลเลี่ยม ยังทำให้เป็นครั้งแรกที่สาวงามผิวสีได้ครองตำแหน่งติดต่อกัน 2 ปีด้วย
      
ด้วยจำนวน “มิสยูนิเวิร์สผิวดำ” ที่มีอยู่ไม่มากนัก ทำให้กองกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไม่สามารถรอดพ้นจาก คำถามและข้อกล่าวหาประเด็น “เหยียดผิว” และ “เลือกปฏิบัติ” ไปได้
      
ซึ่งมีความเห็นถึงเรื่องนี้ว่าคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สาวผิวสี หรือกระทั่งสาวเอเซีย จะมีโอกาสที่ไม่ค่อยสูงนักบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส เพราะส่วนใหญ่บรรดาสปอนเซอร์ผู้ให้การสนับสนุนการประกวด ล้วนเป็นคนผิวขาวที่ค่อนข้างหัวอนุรักษนิยม และดูจะชื่นชมกับความงามแบบของสาวผิวขาว
      
ขณะที่ระยะหลังตลาดหลักของมิสยูนิเวิร์สก็คือ ประเทศในแถบละตินอเมริกา จนสาวละตินแทบจะคว้าตำแหน่งกันแบบปีเว้นปีกันกันเลยทีเดียว
      
ต้องยอมรับว่าแรกเริ่มเดิมทีแล้ว เวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สดูจะให้ความสำคัญกับสาวผิวขาวเป็นอันดับแรก เช่นเดียวกันในการประกวดมิสยูเอสเอ แต่ในระยะหลังก็เริ่มมีสาวผิวสีคว้าตำแหน่งสำคัญๆ รวมถึงมงกุฎอันเป็นตำแหน่งสูงสุดได้มากขึ้น
      
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นอีกด้านว่าเรื่อง “เหยียดผิว” บนเวทีประกวดนางงามในยุคนี้ คงจะไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตอะไรอีกต่อไปแล้ว การประกวดเองก็กลายเป็นเพียงสีสันหนึ่งแห่งปฏิทินบันเทิงประจำปี ไม่ใช่การประกวดที่ทรงอิทธิพลอะไรมากมายต่อสังคม เท่ากับในยุคหนึ่งอีกต่อไป “เวทีมิสยูนิเวิร์ส” จึงควรจะเป็นความบันเทิง, เป็นธุรกิจ เป็นเวทีนางงาม เท่านั้นก็คงจะพอแล้ว



ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »