ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » คดีตบสู้ถึงที่สุด"หมวย"แฉ"ฮาเวิร์ด"ยังไม่สำนึก

คดีตบสู้ถึงที่สุด"หมวย"แฉ"ฮาเวิร์ด"ยังไม่สำนึก

Posted 21/09/2011 by siamdara

''หมวย-พิลาวรรณ'' แฉ อยู่กิน ''ฮาเวิร์ด'' 1 ปี ก่อนถูกตบบ้องหูจนเลือดออก เผยฝ่ายชายเป็นคนอารมณ์ร้อน ลั่นอยากได้เงิน 1 แสนที่ฝ่ายชายเคยยืมไปประกันตัวคดีทำร้ายร่างกายคืน ยันยังรัก แต่ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะอยากให้อดีตนักร้องหนุ่มสำนึก เผย ดาราอักษร อ. ขอสานสัมพันธ์ ''ฮาเวิร์ด'' จริง นางแบบสาวโต้สร้างกระแสอยากดัง ลั่นขอดำเนินคดีฝ่ายชายถึงที่สุด


คดีถูกจับซุกกัญชายังไม่ทันจาง อดีตนักร้องหนุ่มวงไจแอนด์ ''ฮาเวิร์ด หวัง'' ก็มาเจอข้อหาทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาวเข้าให้อีก โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นางแบบสาว ''หมวย'' พิลาวรรณ อารีรอบ ได้แจ้งความว่าถูก ฮาเวิร์ด หวัง  ทำร้ายร่างกาย ตบบ้องหูจนแก้วหูแตก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 54 ''หมวย-พิลาวรรณ'' ได้เดินทางไปออกรายการ บอกเก้าเล่าสิบ ทางโมเดิร์นไนน์ โดยมีกองทัพนักข่าวตามไปทำข่าวจำนวนมาก โดยนางแบบสาว เผยว่าได้คบหาเป็นแฟนอยู่กินที่บ้านของอดีตนักร้องหนุ่มมากว่า 1 ปี ช่วงแรกก็แฮปปี้ดี แต่ระยะหลังก็ทะเลาะกันมาตลอด ซึ่งตนได้ให้ฝ่ายชายยืมเงินไป 1 แสนบาท เพื่อใช้ประกันตัวคดีทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งได้เลิกรากัน ตนขอให้ฮาเวิร์ดเซ็นสัญญาทำหนังสือให้ฝ่ายชายจ่ายเงินคืน แต่ขณะที่เธอกำลังเก็บข้าวของออกจากบ้าน อดีตนักร้องก็เดินมาตบตนที่ใบหน้าข้างซ้าย จนบาดเจ็บดังกล่าว
 

''หลังจากที่วันหนึ่งเราตกลงกันว่าวันนี้เราจะแยกทางกัน เราจะเลิกกัน หมวยเข้าไปที่บ้านให้เขาเซ็นหนังสือ เพื่อเขียนว่าเขาได้ยืมเงินหมวยไป แสนหนึ่ง ยืมไปจริงๆ เป็นค่าประกันตัวที่หมวยโอนเข้าให้เขา  คดีชกต่อยเมื่อ 7-8 เดือนที่แล้วค่ะ  ก่อนหน้าที่เขาจะตบหมวยเขาไม่ยอมเซ็นหนังสืออันนี้  ระบุเองว่ามีเมื่อไหร่ค่อยใช้ เขาพูดว่าเธอดูถูกเรา เธอดูถูกแม่เรา เดี๋ยวเราใช้ รู้สึกว่าเราเลิกกันหมวยไม่ได้มีอะไรเลย มันแค่กระดาษใบเดียวที่หมวยขอให้เขาเขียน เขาไม่ยอมเขียน ระบุว่าเขาจะชำระเงินให้หมวยหลังจากที่เขาจบคดีชกต่อย ผ่านมา 8 เดือน ก่อนหน้านี้เราคุยกันดีๆ ปกติ เขาไม่อยากเซ็นให้หมวยเราะเขาไม่รู้ว่าเซ็นไป ผลกระทบอะไรจะเกิดขึ้น เขาบอกว่าเขาระบุได้เลยว่าจะปีนี้ปีหน้าหรือปีไหน ขอแค่ให้เขียน แค่นั้นเอง ''
 

พิธีกร : ตลอดที่คบกันมา 1 ปี อยู่กินที่บ้านหรือไม่
''ใช่ค่ะ หมวยอยู่ที่บ้านฮาเวิร์ด ประมาณปีกว่า ''
 

พิธีกร : เคยถูกทำร้ายร่างกายไหม
''เต็มที่ก็ผลักค่ะ แต่ไม่เคยถึงกับตบ คือฮาเวิร์ดเขาอารมณ์รุนแรง เขาเลือกที่จะต่อยตู้ ต่อยประตู ผลักหมาย แต่ครั้งนี้ หมวยไม่รู้ว่าเพราะอะไร''
 

พิธีกร :  ก่อนหน้านี้คุณไปแจ้งความว่าฮาเวิร์ด ทำร้ายร่างกาย
''หมวยแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายค่ะ ลงบันทึกประจำวันไว้เฉยๆ  ตำรวจเขารอใบชันสูตรบาดแผล ซึ่งมันเป็นคดีทำร้ายร่างกาย  แพทย์นิติระบุว่าหมวยถูกกระทบจากของแข็งไม่มีคม มันเป็นเหมือนคดีกล่าวหาเขา เพราะฉะนั้นหมวยต้องมีหลักฐาน หมวยอยู่ในบ้านเขา หมวยไม่มีพยายาน แม่เขาคงไม่เป็นพยายานให้ ถ้าหมวยจะดำเนินคดีหมวยต้องมีหลักฐาน''
 

พิธีกร :  ครั้งแรกเดินทางไปแจ้งความแค่ลงบันทึกประจำวัน ยังไม่ได้ดำเนินคดี ตำรวจบอกว่าถ้าจะดำเนินคดี ต้องไปเอาหลักฐานมา
''อันนี้เป็นใบจากโรงพัก เพื่อให้หมอเซ็น เยื่อแก้วหูทะลุค่ะ จริงๆ หมวยไม่ได้คิดว่าหมวยจะดำเนินคดีกับเขา หมวยโดนตบตั้งแต่วันอังคารที่ 13 ก.ย. แต่วันพุธเขาไม่ให้หมวยกลับบ้านนะคะ วันพุธเราคุยกันว่าเราจะแยกกันดีๆ หมวยจะต่างคนต่างอยู่ หลังจากนั้นผ่านไป พี่สาวกับแม่หมวยมาเยี่ยมที่บ้าน วันแรกที่โดนตบหูหมวยมีเลือดไหลออกมา ฮาเวิร์ดกับคุณแม่มาช่วยเช็ด มาช่วยทำให้ หมวยไม่ได้เห็นหรอก ตบทีเดียวเยื่อแก้วหูทะลุเลยค่ะ หนูกำลังก้มจะหยิบกระเป๋าออกจากห้องเขา เขายืนอยู่แล้วหมวยนั่งแล้วเขาก็ตบ ไม่ทันเห็นอะไรเลย หมวยกำลังหยิบกระเป๋าเพื่อที่จะออกจากห้องแล้ว หน้าหมวยหันไปอีกทางหนึ่ง วิ้งเลย''
 

พิธีกร :  มีข่าวว่าเขาเครียดถึงจะฆ่าตัวตาย
''เรื่องนี้หมวยไม่ทราบนะ หมวยได้คุยกับเขา หมวยถามเขาว่าเราจะจบกันไหม เราเคลียร์กันไหม การออกมาพูดมันเป็นเรื่องของเราสองคน แต่เธอคืนเงินให้เราเราจบ ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกันอีก หนูไม่ต้องการมาทำร้ายอะไรเขาทั้งสิ้น''
 

พิธีกร : ทำไมตอนนี้ถึงจะหยุดดำเนินการคดี
''วันนี้หมวยต้องไปโรงพัก แต่หมวยได้ยินมา เขามาเขียนในเฟสบุ๊กหมวยว่า หมวยเป็นคนทำลายชีวิตเขา เขาบอกว่าระหว่างความรักกับความเกลียดเนี่ย มันเป็นแค่เส้นบางๆ กีดกั้น เขาบอกว่าเขาไม่เคยทำลายชีวิตหมวย แต่สิ่งที่เขาทำกับที่เขาพูดมันตรงกันข้ามมาตลอด 1 ปี ทุกคนรู้ค่ะ''
 

พิธีกร : ที่ออกมาวันนี้ไม่ต้องการทำลายชีวิต แค่อยากได้เงินคืน
''หมวยเสียใจนะคะ เมื่อวานพยายามปฏิเสธพี่ที่ติดต่อหมวย มันเป็นเรื่องของคนสองคน อย่างที่หมวยบอก แต่ ณ วันนี้ที่พี่ติดมาว่าหมวยควรออกมาพูด มันเป็นวิทยาทานสำหรับคนอื่นๆ ทำไมคนเราเคยรักกัน ทำไมเราไม่คุยกันดีๆ หมวยเป็นคนที่รักเขา จนถึงนาทีนี้หนูพูดเลยว่าทุกอย่างที่หมวยทำหมวยต้องการให้เขาโต เขาทำอะไรไว้ เขาควรจะต้องรับในสิ่งที่เขาทำ มันรุนแรงสำหรับหมวย  หมวยอยู่กับเขาหมวยช่วยเหลือเขาตลอด ณ ตอนนี้หมวยรู้ว่ามันค่อนข้างรุนแรง มันเป็นกระแสสังคม ไม่มีใครรับได้ คุณเป็นผู้ชาย คุณตบผู้หญิง แล้วหมวยเป็นคนที่ช่วยเหลือเขามาตลอด ''
 

พิธีกร : ที่ผ่านมาให้โอกาสเขาเยอะไหม
''เยอะมาก จนเพื่อนหมวยรับไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรกับใคร อย่างวันหนึ่งเขาอยากจะเลิกกับหมวยเพื่อไปคบคนอื่น เขาเดินมาบอกหมวยว่า วันนี้เราคุยกับเธอ เราอยากไปคบคนอื่นก่อน วันนี้เราอยากไปเก็บคนอื่นก่อน เพื่อนหมวยยังไม่คิดเลยว่า จะมีผู้หญิงที่โง่ขนาดนี้ ไม่ว่าหมวยจะจับอะไรได้ในสิ่งที่เขาทำไว้ หมวยรู้ทุกอย่างที่เขาทำ''
 

พิธีกร :  เขามีข่าวกับดารา ที่มีปัญหากับซูเปอร์สตาร์คนหนึ่ง อักษรย่อ อ.
''ผู้หญิงคนนี้เคยโทร.มาตอนอยู่ด้วยกัน เขาโทร.มาตั้งแต่ตี 3 ถึง 9 โมงเช้า หนูไม่กล้ารับโทรศัพท์ แล้วเคลียร์บอกผู้หญิงคนนี้ไปเลย''
 

พิธีกร : เป็นเพราะดาราคนนี้ทำให้เขาอยากเลิกกับเรา
''เรื่องนี้หมวยไม่ทราบ ช่วง 4 เดือนหลัง เขาอ้างว่าเราต้องแยกกันอยู่ แม่เราไม่ชอบที่เราทะเลาะกับเธอ เขาไม่เคยมองว่า เพราะอะไรเราถึงทะเลาะกัน  ทำไมเธอไม่หยุดทำในสิ่งที่ผิด วันหนึ่งเขาอยากได้อะไร เขาเดินไปหน้าบ้านหมวยกดออดทุกครั้ง พอเรากลับมา 3 วันดี 4 วันทะเลาะตลอด รักเขานะคะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำงานได้เงินไม่กี่บาทแล้วให้เขา  หมวยเต็มใจให้เขาเอง เขาไม่ได้ขอ เพื่อนทุกคนรู้ กินข้าวทุกมื้อ หมวยจ่าย หมวยควักเงินจากกระเป๋าหมวย ถ้าเขาเป็นลูกผู้ชายพอ หมวยก็อยากจะฟังว่าเขารับได้ไหม''
 

พิธีกร :อะไรทำให้เราแค้นใจที่สุด
''มันไม่ได้แค้นใจ หมวยไม่ได้มีความแค้นในตัวเขา ไม่มีความเกลียดด้วย หมวยอยากให้เขารับในสิ่งที่เขาทำ  1 ปีกว่า หมวยอยู่กับเขาช่วงแรกเรามีความสุข  4 เดือนหลังเหมือนตกนรก เวลากลับมาดีกับหมวยมีความสุขวันสองวัน แต่เวลาเขาออกไปเที่ยวกลับบ้านตีห้า หกโมงเช้า หมวยนอนร้องไห้ รอเขาอยู่ที่บ้าน พอหมวยไม่พอใจ เขาบอก กลับบ้านไปสิ''
 

พิธีกร  : แต่เราออกมาพูดแบบนี้ก็ค่อนข้างรุนแรง เพราะเขาก็มีคดีอยู่
''เรื่องคดีเก่าเขาเนี่ย หมวยทราบว่าเขาเตรียมตัวที่จะไปอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่เขาทำไว้กับหมวยเหมือนกัน เขาโดนจับคดียาเสพติด เขาสัญญากับหมวยและแม่ว่าต่อไปนี้เขาจะไม่เที่ยว เขาจะหยุด เขาจะเป็นคนดี แต่มันตรงกันข้าม มันหนัก หลังจากที่โดนจับ ถามคนในผับได้ เขาออกไปเที่ยวทุกคืน เขากลับบ้านเช้า เขาไล่หมวยตอนตีสี่ตีห้า โทร.มาไล่หมวยว่า ทำไมยังอยู่บ้านเรา เธอออกไปสิ เธอกลับไป หมวยขอร้องเขา เขาก็บอกว่านี่ชีวิตของเขา เขาไม่เคยสนใจว่าหมวยเป็นแฟนเขา''
 

พิธีกร  :  ที่ออกมาวันนี้ต้องการอะไร
''สื่ออยากรู้อะไรที่มันเป็นความจริง หมวยไม่แฉ หมวยพูดความจริงที่มันเป็นเรื่องจริง''
 

พิธีกร  :  ถ้าวันนี้เดินมาขอโทษ  ขอกลับไปเหมือนเดิม
''มันไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม''
 

พิธีกร  :ยังรักไหม
''รักค่ะ ทุกวันนี้ต่อให้เราต้องเลิกกัน มันทรมาน เราตายจากกันเสียดีกว่า ในใจหนูยังรักฮาเวิร์ดเต็มเปี่ยม''
 

พิธีกร  :อาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้าง
''หูข้างหนึ่งยังอื้อ เวลานอนยังปวดนิดนึงค่ะ หมอให้ทานยาแก้ปวด ประมาณ 3-4 สัปดาห์ จะสมานเองค่ะ''
 

พิธีกร  :คนมองว่าสร้างกระแส
"จริงๆ ด้วยงานของหมวยเป็นสายงานของหนังสือ หมวยไม่ต้องพึ่งสื่อทางทีวี ถ้าอยากโปรโมตตัวเองคงทำมานานแล้ว ไม่มีใครอยากดังในทางแบบนี้ แล้วอีกอย่างหนึ่ง ฮาเวิร์ดไม่ได้มีข่าวอะไรที่หมวยต้องไปเกาะกระแสเขาดัง แต่วันนี้ที่หมวยออกมา เพราะว่าหมวยอยากจะบอกคนอื่นๆ ว่าในเมื่อคุณรักใครสักคนหนึ่ง ดูแลเขา ผู้หญิงไม่ได้มีไว้ตบ ดูแลให้ดี"
 

พิธีกร  : สุดท้ายแล้วจะดำเนินคดีไหม
"วันนี้หนูได้ข่าวมาว่าเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะสำนึกหรือรู้สึกผิด เขาบอกว่าเขาจะต่อสู้กับหมวย หมวยก็โอเค วันนี้หมวยพยายามบอกผ่านเพื่อนเขาไปแล้วค่ะว่า คดีนี้หมวยหยุดแล้ว หมวยจะไม่ทำ หมวยอโหสิกรรม เพราะหมอบอกว่าอโหสิกรรมเหอะ พอหมวยขับรถออกมาหมวยโทร.หาเขา เขาบอกไม่อยากคุยกับเธอ เธออยากดังนี่ เธอได้ดังแล้วไง เธอมีบ้าน มีรถ มีทุกอย่าง เขาส่งข้อความมา ทำไมยังคิดแบบนี้ไม่เคยรู้สึกผิด โอเคไม่เป็นไร แล้วเจอกัน"


หลังจากที่อดีตแฟนสาวของดาราหนุ่มฮาเวิร์ดนั้นให้สัมภาษณ์ในรายการเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้มีการสัมภาษณ์นอกรอบกับสื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าวกันอย่างคับคั่ง ซึ่งก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังอีกครั้งว่า
 

''เรื่องเกิดเพราะว่าพอดีหมวยมาถึงจุดหนึ่งที่เหมือนเราต้องแยกทางกัน หมวยคบกับเขามาประมาณ 1 ปี 7 เดือนได้ค่ะ ก็อยู่กับเขาที่บ้านกับแม่เขามาตลอด แล้ววันนั้นหมวยเองก็เลยไปหาเขาที่บ้านเพื่อให้เค้าเซ็นเอกสารว่าเขาจะคืนเงินหมวยที่เคยโอนให้เขาประกันตัวคดีชกต่อยครั้งก่อนเป็นเงิน 100,000 บาท ซึ่งคุยๆ กันแล้วเหมือนเขาก็โมโหและก็มีปากเสียงกัน แล้วตอนที่หมวยกำลังจะออกจากบ้านเขา คือช่วงที่ก้มเอากระเป๋าเขาก็ตบเข้าที่หน้า เราก็อึ้งไปเลยวิ้ง แล้วก็มีเลือดออกจากหู ซึ่งเขาเองก็ตกใจมากเหมือนกัน แล้วแม่เขาก็มาช่วยดูเช็ดเลือดแล้วก็เอาน้ำแข็งมาประคบให้ ซึ่งวันนั้นหมวยจะเดินทางออกมาแจ้งความตั้งแต่วันเกิดเรื่องแล้ว แต่เหมือนแบบแม่เขาและเขาก็พูดด้วยดีก็เลยไม่ได้แจ้งความในวันที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นวันนึงเขาก็เขียนและเซ็นเอกสารให้หมวยว่าจะคืนเงินให้ ถ้ามี แต่หลังจากนั้น เราก็เลยไปลงบันทึกประจำไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ซึ่งทางตำรวจก็เลยแนะนำว่าให้ไปตรวจร่างกาย และให้แพทย์ยืนยันอาการด้วย ซึ่งพอไปตรวจก็ปรากฏว่าเยื่อหูทะลุค่ะ''
 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าตลอดระยะเวลาที่คบกันนั้น ทางดาราหนุ่มได้มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายแบบนี้เป็นประจำหรือไม่ ด้านอดีตแฟนสาวดาราหนุ่มก็ได้เล่าว่า ''ไม่เคยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกนะ ก็อาจจะเคยมีปากเสียงกันบ้าง แต่ก็คงเคยมีแค่ผลักค่ะ''
 

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงถามต่อไปอีกว่า ในขณะที่เกิดเรื่องนั้น ดาราหนุ่มมีสติสัมปัชชัญญะครบถ้วนดีหรือไม่ ซึ่งเธอก็แจงว่า ''เขามีสติดีค่ะ แค่โมโห แต่ว่าไม่ได้ดื่มเหล้าหรือว่าเมาอะไรเลย''
 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจี้ต่อไปว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเลิกนั้นเป็นเพราะอะไร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวที่ดาราหนุ่มนั้นเสพสิ่งเสพติดหรือไม่ ''ไม่เกี่ยวกับยาเสพติดค่ะ คือไม่ว่าจะเป็นยังไงหมวยรับเขาได้อยู่แล้ว เขาเป็นแฟนหมวย แต่ที่ต้องเลิกกันก็เป็นเพราะช่วงหลังๆ เราทะเลาะกันบ่อย เขาเองก็เที่ยวทุกวัน แล้วพอไปเที่ยวมันก็ทำให้มีปัญหาตามมาเรื่อยๆ เหมือนเขายังอยากใช้ชีวิตอิสระของเขา''
 

ต่อคำถามที่ว่า หลังจากที่ดาราหนุ่มโดนจับในคดีมีกัญชาในครอบครองนั้น เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีในครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งเธอก็ได้ปฏิเสธทันทีว่า ''ไม่ค่ะเรื่องนี้ คือช่วงนั้นหมวยกะเขาเหมือนห่างกันไปสักพักใหญ่ๆ แล้ว ถ้าพี่ๆ เห็นข่าววันที่เขาไปโรงพักวันนั้น เขาก็ไปกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่หมวย เหมือนเขากำลังจะคบกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งหมวยเองก็เห็นภาพที่เขาไปโรงพักจากข่าวเหมือนกันค่ะ แล้วผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนที่เคยโทร. เข้ามาหาเขาตอนที่เรายังคบกัน และหมวยเคยให้เขาตัดความสัมพันธ์แล้ว แต่เขาก็มาขอเลิกกับหมวย แล้วเขาก็มาคบกับคนนี้ หมวยไม่เคยรู้ว่าเขามีอะไรในตู้เสื้อผ้า''
 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่า ช่วงเวลาที่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้น ดาราหนุ่มเคยมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดให้เห็นหรือไม่ ซึ่งเธอก็ได้แต่ขอเลี่ยงไม่ตอบคำถามดังกล่าว ''อันนี้หมวยว่าหมวยไม่พูดดีกว่าค่ะ ขอไม่ตอบดีกว่าค่ะพี่ คือมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันเป็นเรื่องของเขาทั้งนั้น ถ้าอะไรที่มันไม่ใช่ส่วนของหมวย หมวยก็ขอไม่พูดดีกว่าค่ะ''
 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่า เคยห้ามดาราหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องสารเสพติดบ้างหรือไม่ เธอก็ได้แจงให้ฟังด้วยอารมณ์ที่พรั่งพรูว่า ''เคยห้ามทุกอย่างค่ะ ให้เลิกเที่ยว ให้เลิกทุกอย่าง ให้เขาหันกลับมาดูแลครอบครัว ฮาเวิร์ดไม่มีบ้าน ไม่มีรถไม่มีเงินเก็บ เขายังเช่าบ้านอยู่ เคยขอร้องเขาเป็นร้อยครั้ง ว่าพอหรือยัง พอแล้ว ให้กลับมาเริ่มต้นทุกอย่างใหม่ด้วยกัน หมวยมีบ้าน มีรถ เคยชวนคุณแม่เขาไปอยู่ที่บ้านหมวยด้วยซ้ำ แต่เหมือนเขากลัวที่จะขาดอิสรภาพตรงนี้ โอเคเราก็ไม่ว่าอะไร ก็เลยย้ายของไปอยู่กับเขา''
 

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ที่ออกมาพูดผ่านสื่อเช่นนี้ ต้องการอะไรจากการเปิดเผยเรื่องราวครั้งนี้ ซึ่งเธอก็ได้ชี้แจงด้วยอาการที่มีน้ำตาคลอเบ้าว่า
 

''หมวยแค่ต้องการให้เรื่องมันจบ แค่เขาคืนเงินให้หมวย แล้วเราก็จบกันดีๆ แล้วเรื่องคดีมันก็ต้องดำเนินตามกฎหมายต่อไป เพราะถึงต่อไปเราจะกลับมาคุยกันดีๆ แล้ว หมวยอาจจะใจอ่อนมันก็ไม่สามารถยอมความได้แล้ว เพราะเป็นกฎหมายใหม่ที่คุ้มครองสิทธิสตรี ตำรวจก็คงต้องดำเนินคดีต่อไปค่ะ ซึ่งหมวยก็พยายามคุยกับเขา โทร.หาเขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ หาว่าหมวยทำลายชีวิตเขา หมวยไม่ได้จับมือเขามาตบหน้าหมวย หมวยต้องการแค่คำขอโทษจากปากเขา เขายังไม่มีให้หมวยเลย และอีกหลายอย่างที่เขาทำที่ไม่สามารถพูดได้ ที่ทนมาขนาดนี้ก็เพราะว่าหมวยรักเขา (เสียงสั่นเคลือ) หมวยไม่เคยอยากจะทำร้ายเขา ครั้งนึงที่เขาเคยโดนจับ หมวยก็เป็นคนประกันตัวเขา ขอแค่เขาหยุด แต่ครั้งนี้เขาตบหมวย หลังจากที่เขาตบหมวย 5 วัน เขาก็ออกไปเที่ยวตลอดทุกคืนนะ ผู้ชายตบผู้หญิงยังไงมันก็ผิดอยู่แล้ว คนที่รับรู้เหตุการณ์นี้ก็ต้องเป็นคนตัดสินว่าอะไรเป็นอะไร มันคือเรื่องจริงที่เขาทำจริงๆ แต่หมวยไม่ได้อยากทำลายชีวิตเขา หรือว่าอยากดังอย่างที่เขาพูด''
 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่มในข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งเธอก็ได้เล่าให้ฟังต่อไปว่า
 

''เป็นคดีทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยวค่ะ เพราะวันที่เกิดเรื่อง หมวยจะออกมาแจ้งความ แต่ว่าเขาไม่ให้หมวยมา ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปค่ะ ส่วนเรื่องเงินคุณแม่เขาก็ติดต่อมาแล้วว่า จะคืนให้ในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งหมวยเองไม่ได้เร่งเรื่องเงิน เพราะหมวยเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องนี้เท่าไหร่ ไม่มีก็ไม่เป็นไร หนูไม่ได้เร่ง หนูอยากให้โอกาสเขา หมวยรักหมวยยินดียื่นให้เขาเอง เขาไม่ได้หลอกหนู แต่เป็นหนูเองที่ทนเห็นแฟนตัวเองนั่งมอเตอร์ไซค์วิน นั่งกินข้าวข้างทาง หมวยทนดูไม่ได้หรอกค่ะ เราพอมีเราก็ต้องช่วยเหลือ เพราะเขาคือแฟนเรา เขายังเคยพูดเลยว่าหมวยเป็นแฟนที่ดีที่สุดของเขา''
 

ต่อคำถามถึงดาราอักษรย่อ อ. เข้ามาพัวพันกับดาราหนุ่มนั้นเป็นมาอย่างไร ด้านอดีตแฟนสาวของดาราหนุ่มก็ได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า
 

''ผู้หญิงเขาก็ไม่ได้มาวุ่นวายอะไรกะหมวย คือทุกอย่างเนี่ยหมวยไม่โทษใคร มันอยู่ที่แฟนหมวย มันอยู่ที่ตัวเขา เขาเป็นคนดึงคนอื่นๆ เข้ามาเอง ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม ส่วนในเรื่องของผู้หญิงคนนั้น หนูว่าเขาก็ไม่ได้ผิดนะ เพราะตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดัง''
 

ผู้สื่อข่าวถามจี้ต่อไปอีกว่าดาราสาว อ. นั้นทราบหรือไม่ว่าฮาเวิร์ดมีแฟนเป็นเธออยู่แล้ว เธอก็ได้เล่าให้ฟังต่อว่า
 

''ทราบค่ะ เพราะฮาเวิร์ดเขาก็บอกว่ากลับมาดีกับแฟนแล้ว ก็นอนอยู่ด้วยกัน 9 โมงเช้า เขาก็ยังเคยลุกไปรับโทรศัพท์ คือบางทีเขาก็สน บางที่เขาก็ไม่สน ผู้หญิงสมัยนี้มันมีหลากหลายค่ะ ไม่เคยเห็นกับตานะคะ แต่เคยเห็นบีๆ มาโทร.เข้ามา ตี 5 ตี 3 มีโทร.ชวนเขาไปเที่ยวไปพัทยา''
 

ต่อคำถามที่ว่าอดีตแฟนหนุ่มนั้นเคยเล่าถึงความสัมพันธ์กับดาราสาว อ. คนนี้ให้ฟังบ้างหรือไม่ โดยเธอก็ถึงกับอึ้งไปสักพักก่อนที่จะตอบว่า
 

''หนูไม่รู้ว่ามันจะแรงไปหรือเปล่านะ เขาบอกว่าถ้าเขาอยากจะได้เขาคงได้ไปตั้งนานแล้ว ถ้าเขาจะเอาเขาก็เอาไปตั้งนานแล้ว แต่เขาไม่เอาเขาบอกกะหนูแบบนี้ แต่หนูก็ไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง ซึ่งหนูก็ทราบนะว่าผู้หญิงคนนั้นเขาก็มีแฟน ก็พอจะทราบว่าเขาก็แรงอยู่เหมือนกันค่ะ'' อดีตแฟนสาวกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • “เป้ย” ปฏิเสธข่าวคลั่งผอม ตกใจถูกเม้าท์แรงป่วยโรคอนาร็อกเซีย
    เป้ย-ปานวาด ปฏิเสธป่วยโรคอนาร็อกเซีย ตกใจถูกเม้าท์คลั่งผอม แจงโหมงานหนัก เผยเม้าท์แรงมาก ยันสุขภาพแข็งแรงปกติดีทุกอย่าง ไม่เชื่อพาไปตรวจได้ โวน้ำหนักขึ้นมา 1 โลแล้ว...นับวันยิ่งหวาดหวั่นเป็นห่วงหุ่นบางๆ ที่ผอมแรงน้อยลงทุกทีแทบจะเหลือแต่กระดูกอยู่แล้ว สำหรับอีกหนึ่งสาวเซ็กซี่มากฝีมือแห่งวงการมายา “เป้ย-ปานวาด เหมมณี” จนถูกเม้าท์ว่าเป็น ‘โรคอนาร็อกเซีย’ หรือ ‘โรคคลั่งผอม’ เมื่อเจ้าตัวมาร่วมงานเปิดตั...
  • ซัน-เอี๊ยม ปิ๊งแล้ว คบเลย
    ควงกันมาตอกย้ำความสัมพันธ์ว่าหัวใจตอนนี้เป็นสีชมพูไปแล้ว สำหรับคู่รักคู่ใหม่ ซัน พิชยดนย์ และ ดาราสาว เอี๊ยม วรรษพร ที่ล่าสุดทั้งคู่จูงมือกันมาร่วมงานย้ายโรงเรียนสปีดวันฯ แถมโชว์ความหวานจนมดเรียกพี่ ให้อิจฉากันเล่นๆ ซะงั้น!!ดูท่าความรักของ ซัน-เอี๊ยม จะราบรื่นและแฮปปี้สุดๆ เมื่อผู้สื่อข่าวขออัพเดทเรื่องหัวใจ ทั้งคู่รีบเปิดใจทันทีว่าซัน : "ก็แฮปปี้ดี แต่ยังไม่ได้เร่งรีบอะไร เพราะเขาต้องทำงาน ผมก็ทำ...
  • อดีตมิสออสซี่ เอริน แม็คนอท ท้าเปลือย
    เซ็กซี่วันนี้มีดีกรี เพราะเธอคือ เอริน แม็คนอท สาวสวยอดีตมิสออสเตรเลีย 2006 ผ่านเวทีมิสยูนิเวิร์สมาแล้วด้วย วันนี้เธอแก้ผ้าถ่ายภาพวาบหวิวพอให้ซาบซ่านหัวใจให้นิตยสารเล่มหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของเธอหรอก เพราะสมัยได้เป็นสาวออสซี่ที่สวยที่สุด เธอก็เคยถูกจับได้ว่าแอบไปถ่ายเปลือยเต้าลงนิตยสารมาแล้วในปี 2004
  • เจนี่ ลั่นไม่รู้จัก กิ๊กใหม่ อั้้ม.
    เรื่องหัวใจของตัวเองกำลังสุขจนล้น ทางนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ เลยอยากจะให้เพื่อนๆ ได้ลิ้มลองบ้าง ไม่วายแนะนำเพื่อนๆ ของแฟนหนุ่ม ไฮโซตั้ม ให้รู้จักเพื่อนสาว(ในกลุ่ม)ที่ยังโสด! ส่วนเรื่องข่าวเป็นแม่สื่อให้กับสาว แพนเค้ก เขมนิจ นั้นเธอบอกปัด ยันไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว รวมทั้งกิ๊กใหม่ของสาว อั้ม พัชราภา ก็ไม่เกี่ยวกันจ้า...

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »