ปีเตอร์ เช็ก นายด่าน เชลซี ไม่ซีเรียสเท่าไหร่กับการที่จมูกหักจากเกมล่าสุดที่เอาชนะ แบล็คเบิร์น 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยบอกว่าถ้าต้องสวมหน้ากากป้องกันเพิ่มอีก ตนคงเป็นเหมือน แบทแมน เป็นแน่แท้ พร้อมยอมรับ ตอนแรกนึกว่าจะต้องออกไปนั่งข้างสนาม ก่อนจะฮึดสู้ต่อจนจบเกมได้

  ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูจอมเหนียวของ เชลซี ยอดทีมแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวแบบติดตลกว่า ตนคงดูเหมือนฮีโร่อย่าง แบทแมน ถ้าต้องใส่เครื่องป้องกันแบบพิเศษเพิ่มอีก หลังจากที่เจ้าตัวจมูกหัก ในเกมที่ต้นสังกัด บุกไปเชือด แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ถึง อีวู้ด พาร์ค 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

  นายทวารวัย 29 ปี ได้รับบาดเจ็บในช่วงเริ่มเกม หลังจากปะทะกับ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ แต่เจ้าตัวสวมใจสิงห์ อยู่เล่นต่อจนจบเกม โดยทนต่อกาการบาดเจ็บ และมีส่วนสำคัญช่วยให้ยอดทีมแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ คว้าชัยได้สำเร็จ

  ทั้งนี้ ยังไม่แน่นอนว่า ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ "สิงห์บลูส์" จะหายทันลงรับใช้ชาติ ในเกมที่ สาธารณรัฐเช็ก ต้องลงเล่นศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" รอบเพลย์ออฟ กับ มอนเตเนโกร ในวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน และ วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพราะยังต้องมีการทดสอบอีกหลายครั้ง ก่อนที่จะตัดสินได้ว่า เจ้าตัวสามารถฟิตพอลงเล่นในนัดดังกล่าวได้หรือไม่

 เช็ก ที่ปัจุบันต้องใส่หมวกป้องกันการกระแทก เหมือนกับนักรักบี้ หลังเคยได้รับบาดเจ็บครั้งร้ายแรงบริเวณศีรษะ เมื่อช่วงปี 2006 ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่า "เราจะรอดูว่า เรื่องนี้มันจะจบแบบไหน ถ้าผมต้องลงเล่นตั้งแต่เริ่มเกม ผมก็คงต้องใส่หน้ากากลงเล่นอย่างเดียวเท่านั้น"

  "ถ้าคุณเอามันไปรวมกับการที่ผมต้องใส่เครื่องป้องกันศีรษะอยู่ แล้วเนี่ย ผมว่า ผมคงต้องดูเหมือน แบทแมน แหงๆ แต่ผมไม่อยากคาดเดาอาการบาดเจ็บของตัวเองหรอก เรามาคอยดูกันดีกว่าว่า แพทย์จะพูดถึงมันยังไง" อดีตแข้ง แรนส์ กล่าว

 เมื่อพูดถึงจังหวะที่ได้รับบาดเจ็บนั้น นายด่านทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก อธิบายว่า อาการบาดเจ็บที่ได้รับ มาจากการชนกับ แอชลี่ย์ โคล กองหลังเพื่อนร่วมทีมโดยบังเอิญ พร้อมบอกว่า ตอนแรกเกือบจะบอกให้เปลี่ยนตนออกเหมือนกัน "ยาคูบู กำลังพุ่งเข้ามาหาผม ผมหยุดไม่ให้เขาทำประตูได้แล้ว แต่ แอชลี่ย์ โคล (เพื่อนร่วมทีม) ชนกับผมโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ"

  "ตอนแรกผมคิดว่าจะต้องถูกเปลี่ยนตัวออกแล้ว มันจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงส่งสัญญาณไปที่ม้านั่งให้เตรียมเปลี่ยนตัว แต่หลังจากนั้น พวกเขา (ทีมแพทย์) ได้รักษามันให้ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ในสถานการณ์นั้น และผมก็พยายามอยู่จนครบแมตช์ได้ ผมดีใจที่สามารถเซฟได้อีก 2 ครั้ง และนี่เป็นชัยชนะที่สำคัญมากๆ ซึ่งผมก็พอใจกับการไม่เสียประตูในเกมนี้เหมือนกัน" เช็ก กล่าวทิ้งท้าย