"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ออกอาการเซ็งสุดๆ หลังออกนำ "เดอะ ลาติกส์" วีแกน เจ้าบ้าน 1-0 ก่อนถูกไล่ตามยิงตีเสมอท้ายเกมจบที่ผลสกอร์ 1-1พลาดสามแต้มเต็มไปอย่างน่าเสียดาย รั้งอันดับ3 ของตารางตามเดิม ขณะที่ วีแกน ยังจมอยู่โซนอันตรายรั้งที่ 18 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2554

วีแกน  1     -    1  เชลซี

สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม

　　เกมพรีเมียร์ลีก คู่ดึกคืนวันเสาร์ ลงเตะกันที่ ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม ของ วีแกน แอธเลติก ทีมในโซนท้ายตาราง กับ เชลซี ทีมอันดับ 3 ที่ต้องการเก็บสามคะแนน เพื่อลดช่องว่างที่ปัจจุบันตามหลัง แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงอยู่ 7 คะแนนด้วยกัน

　　ด้านทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่ชนะมาในสองเกมหลังสุด เหนือ ซันเดอร์แลนด์ และ เวสต์บรอมวิช ต้องขาด อันโตลิน อัลการาซ ที่เจ็บซี่โครง เช่นเดียวกับ คริส เคิร์กแลนด์ ซึ่งมีปัญหาบริเวณแผ่นหลัง ส่วนทีมเยือนของ อันเดร วิลลาช-โบอาช ยังคงไม่มีชื่อของ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังบราซิเลียนในทีม ส่วน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ฮีโร่จากนัดล่าสุด ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง และเป็น รามิเรส ที่ต้องหลีกทางให้

　　เดอะลาติกส์ เจ้าถิ่นเริ่มกลับมาครองบอลได้บ้าง แต่ยังหาช่องเจาะเข้าไปไม่ได้ นาทีที่ 31 โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ เลยลองหาช่องส่องไกลดูบ้าง ด้วยการกดเต็มข้อจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งหลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้นเล็กๆเหมือนกัน

　　เชลซี พลาดโอกาสทองอีกครั้ง ในนาทีที่ 38 เมื่อกองหลังเจ้าถิ่นประกบ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ไม่อยู่ ปล่อยให้หัวหอกไอวอรี่โคสต์ทิ้งตัวโหม่งในเขตโทษ บอลกระดอนพื้นผ่านหน้าประตูออกหลังไปอีก

　　นาทีที่ 41 ก็เกิดจังหวะปัญหาขึ้น เมื่อ วิคเตอร์ โมเสส ได้สับไกในเขตโทษ ติดบล็อกของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จนผู้เล่นเจ้าถิ่นโวยว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินก็ทำเฉย โบกมือให้เล่นต่อตามปกติ และจากภาพช้า กองหลังสิงโตน้ำเงินครามพยายามหนีบแขนไว้กับตัว และไม่ได้ยกมือขึ้นเพื่อปัดบอลอย่างที่โดนกล่าวหา

　　 ช่วงทดเวลาเจ็บนาทีแรก ราอูล เมยเรเลส สบโอกาสวอลเลย์จากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงเข้าหากรอบก่อนไปแฉลบพวกเดียวกันเองเปลี่ยนทางจนไม่ได้ลุ้นอะไร หมด 45 นาที สกอร์ที่ ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม เลยยังนิ่งอยู่ที่ 0-0 ตามเดิม

　　เปิดฉากครึ่งหลัง 2 นาที จอร์ดี้ โกเมซ ได้โอกาสสับไก จากระยะ 30 หลา บอลพุ่งได้ลุ้นแต่ไปเข้าแค่หน้าต่างเสาแรก

　　จากนั้น สิงห์บลูส์ กลับมาครองบอลบุกได้อีกครั้ง จนมาได้เฮในนาที 59 แอชลี่ย์ โคล โยนข้ามแนวรับ วีแกน ให้ สเตอร์ริดจ์ หลุดเข้าเขตโทษจับบอลลง ก่อนซัดด้วยขวาบอลผ่าน อาลี อัล ฮับซี เข้าไปทางเสาสอง เชลซีขึ้นนำ 1-0

　　หลังเสียประตูเจ้าถิ่นตอบโต้ทันควัน นาที 65 มายนอร์ ฟิเกรัว ขยับหลอกหาจังหวะจนได้ยิง บอลพุ่งเกือบเสียบเสา บอลไม่ห่างตัว ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวเซฟออกไปได้

　　นาที 76 วีแกน น่าได้ลูกตีเสมอจาก 2 ตัวสำรอง เริ่มจากที่ อิวาโนวิช ส่งคืนหลังพลาด ทำให้ อูโก้ โรดาเยก้า โฉบมาด้านหลังเกือบได้ยิง เป็นนายทวารทีมเยือนยังวิ่งมาบล็อกเร็ว บอลเด้งเข้าทาง ฟรังโก้ ดิ ซานโต ยิงซ้ำทันที แต่เข้าไปตรง แอชลี่ย์ โคล ช่วยโหม่งทิ้งออกหลังไปได้อีก

　　ก่อนหมดเวลา 3 นาที วีแกนมาตามตีเสมอเป็น 1-1ได้สำเร็จ โรดาเยก้า หลุดเข้ามายิงในเขตโทษ ปีเตอร์ เช็ก ปัดบอลไม่ได้ดี มาหลุดเข้าทาง โกเมซ ซ้ำเข้าไปง่ายๆ ช่วงทดเวลา ทีมเยือน พยายามบุกหวังยิงประตูชัย แต่ทำเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 90 นาที ไปด้วยสกอร์นี้ แบ่งกันไปทีมละแต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     วีแกน : อาลี อัล ฮับซี - แกรี่ คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลการาซ, มายนอร์ ฟิเกรัว, รอนนี่ สตัม - เดวิด โจนส์ (อูโก้ โรดาเยก้า น.72), โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ - วิคเตอร์ โมเซส, จอร์ดี้ โกเมซ - คอเนอร์ แซมม่อน (ฟรังโก้ ดิ ซานโต น.72)

     สำรองไม่ได้ใช้ : ไมค์ โพลลิตต์, สตีฟ โกอูรี่, อัลเบิร์ต กรูซาต, เบน วัตสัน, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์

     เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - โอริโอล โรเมว (ซาโลมง กาลู น.46) - แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ราอูล เมยเรเลส - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.80), ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ฆวน มานูเอล มาต้า (จอห์น โอบี มิเกล น.66)

     สำรองไม่ได้ใช้ : รอสส์ เทิร์นบูลล์, เฟร์นานโด ตอร์เรส, เปาโล แฟร์เรยร่า, จอช แม็คอีแครน

     ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

สรุปผล ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- แบล็คเบิร์น แพ้ เวสต์บรอมวิช  1 - 2 
- เอฟเวอร์ตัน เสมอ นอริช ซิตี้  1 - 1
- ฟูแล่ม ชนะ โบลตัน  2 - 0
- นิวคาสเซิ่ล เสมอ สวอนซี ซิตี้  0 - 0
- วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ สโต๊ค ซิตี้  1 - 2
- วีแกน เสมอ เชลซี  1 - 1

　　เกมในช่วงสิบนาทีแรก ทั้งสองทีมยังไม่ได้สร้างโอกาสทำประตูเป็นชิ้นเป็นอัน โดยจังหวะได้ลุ้นหนแรก กลับมาจาก จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเยือนที่รับบอลจากเพื่อนในแดนของ วีแกน ก่อนลากจากซ้ายตัดเข้าในแล้วลองสับไกยิงจากระยะ 25 หลา บอลลอยโค้งหนีมือ อาลี อัล-ฮับซี ก่อนตกพื้นกระดอนออกหลังไป ในนาทีที่ 14

　　สิงโตน้ำเงินครามเริ่มเป็นฝ่ายครองบอล และพาขึ้นไปกดดันแนวรับของ วีแกน ได้บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังหาจังหวะสับไกยิงให้ อัล-ฮับซี ต้องออกแรงเซฟไม่ได้

　　 กระทั่ง นาทีที่ 23 โอกาสดีที่สุดของสิงโตน้ำเงินครามก็มาถึง เมื่อ โชเซ่ โบซิงวา ครอสบอลจากฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษของเจ้าถิ่น เดวิด โจนส์ หวดสกัดทิ้งออกมาเข้าทาง โอริโอล โรเมว หวดสวนทางกลับเข้าไป บอลกระดอนพื้นจน อัล-ฮับซี เกือบเสียจังหวะ แต่ยังล้มตัวปัดทิ้งออกหลังได้หวุดหวิด