"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ทีมยักษ์ใหญ่สเปน ประกาศักดา เป็นทีมอันดับหนึ่งของโลกหลังรัวถล่ม ซานโตส ยอดทีมแดนละตินไม่ปราณี 4-0 ลิโอเนล เมสซี่ เหมาสองน.17 และ น.82 ก่อนแบ่งโควต้าให้ ชาบี เอร์นันเดซ น.24 และ เชส ฟาเบรกาส น.45 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา

สนาม : อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม, โยโกฮาม่า


      โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ บาร์เซโลน่า ทีมแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้บยนส์ ลีก จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 แนวรุกจัด เชส ฟาเบรกาส, อันเดรส อีเนียสต้า และ ลีโอเนล เมสซี่เป็นสามประสานในแดนหน้า


       ด้าน ซานโตส เจ้าของแชมป์ โคปา ลิเบอร์ดาดอเรส คัพ ของ เทรนเนอร์ มูริชี่ รามัลโญ่ จัดแนวรุกแบบเต็มสูบ โดยส่ง เปาโล เอ็นริเก้ กานโซ่ ยืนเป็นจอมทัพ โดยมีเนย์มาร์ จับคู่กองหน้ากับ บอร์เกส คอยล่าตาข่าย


       เริ่มเกมในช่วง 10 นาทีแรก บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าและทำชิ่งเข้าพื้นที่อันตรายหลายครั้งแต่กองหลัง ของ ซานโตส ยังยืนตำแหน่งได้ดีไม่มีพลาด  


       เกมดำเนินมาถึงนาที 13 บาร์ซ่า ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ราฟาเอล นายด่าน ซานโตส ปัดลูกยิงของ ลีโอเนล เมสซี่ ไปเข้าทาง ติอาโก้ อัลกันตาร่าได้ซ้ำจ่อๆ แต่ ราฟาเอล ยังไวตามมาปัดบอลออกหลังได้อีก


       หลังจากนวดอยู่พักใหญ่ บาร์เซโลน่า ก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 17 จากความยอดเยี่ยมของ ลีโอเนล เมสซี่ ประสานงานกับ เชส ฟาเบรกาาส และ ชาบี เอร์นานเดซ ก่อนหลุดการประกบของกองหลัง ซานโตส เข้าไปชิพนิ่มๆข้ามตัว ราฟาเอล เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น ทำให้ อาซูลกราน่า ออกนำก่อน 1-0 


       ถัดมาในนาทีที่ 24 นาที บาร์เซโลน่า หนีห่างออกไปเป็น 2-0  ดาเนียล อัลเวส พาบอลลากลุยขึ้นมาทางกราบขวาก่อนปาดเรียดเข้ามาให้ ชาบี เอร์นานเดซ กระดกบอลหลบแนวรับ ซานโตส ก่อนตามไปอัดด้วยขวาสวนตัว ราฟาเอล เข้าไปอย่างเด็ดขาด


       แม้จะโดนนำไปก่อนสองลูก แต่ ซานโตส ยังไม่ท้อและมีจังหวะได้ลุ้นบ้าง โดยเฉพาะลูกยิงของ บอร์เกส แต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง บิคตอร์ บัลเดส ล้มตัวตะครุบไว้ได้ทัน


        แชมป์ยุโรป ยังเป็นฝ่ายครองเกมไว้ได้หมด จนมาถึงนาที 43 อาซูลกราน่า ก็มาฝังทีมแชมป์จากอเมริกาใต้ ลงแต่หัววัน ชาบี โหม่งจังหวะแรกไปติดเซฟ ราฟาเอล ปัดออกมาในบอลกลิ้งเป็นใจให้ เชส ฟราเบรกาส แปซ้ำเล่นมุมดาบสองเข้าไปไม่เหลือซาก บาร์เซโลน่า หนีไกล 3-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้


       กลับลงสนามมาสู้กันต่อโอกาสที่ดีที่สุดของ ซานโตส เกิดขึ้นในนาที 51 จากจังหวะที่ เนย์มาร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ บัลเดส แต่หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติบราซิล กลับคมไม่พอยิงไปติดเซฟของ บัลเดส ชวดตีไข่แตกอย่างน่าเสียดาย


       เกมดำเนินมาถึงนาที 79 บาร์ซ่า น่าหนีเป็นสี่สุดขีด เปโดร โรดริเกซ ตัวสำรองหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปเก็บบอลในเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลคืนหลังมา ให้ ดาเนียล อัลเวส อัดด้วยขวาไปชนเสาแรกอย่างจัง


       รูปเกมของ บาร์เซโลน่า ยังเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และในนา  82 บาร์เซโลน่า มาได้ประตูปิดท้ายจากจังหวะที่ อัลเวส ตัดบอลมาเปดให้ เมสซี่ ลากโซโล่เข้าไปสังหารบอลเสียบตาข่าย เป็นประตูที่สองของกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ในเกมนี้ด้วย อาซูลกราน่า หนีไกลสุดกู่ 4-0 


       จบเกม บาร์เซโลน่า ไล่ถลุง ซานโตส 4-0 พร้อมคว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ ได้เป็นสมัยที่ 2 หลังจากที่คว้าแชมป์สมัยแรกในปี 2009

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

 บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, การ์เลส ปูโยล (อันเดรว ฟอนตาส น. 85 ), เคราร์ด ปีเก้ (ฮาเวียร์ มาสเคราโน่  น.56 ), เอริค อบิดาล - เซร์คิโอ บุสเกตส์, ติอาโก้ อัลกันตาล่า (เปโดร โรดริเกซ น. 79), ชาบี เอร์นานเดซ - เชส ฟาเบรกาส, อันเดรส อีเนียสต้า, ลีโอเนล เมสซี่

 ซานโตส :  ราฟาเอล - ดานิโล่ (เอลาโน่ น.31), เอดู ดราเชน่า, ดูร์วัล, เลโอ บาสโตส - บรูโน่ โรดริโก้, อาเราก้า,  เอ็นริเก้ -  เปาโล เอ็นริเก้ กานโซ่ (อิบสัน น. 83 ) , เนย์ม่าร์, บอร์เกส (อลัน คาร์เดช น. 79 )

 ผู้ตัดสิน : ราฟชาน เอียร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน )

รอบชิงอันดับสาม
คาชิว่า เรย์โซล(ญี่ปุ่น) เสมอ  อัล ซาดด์ ( การ์ตา ) 0-0 (เสมอในเวลาปกติ 90 นาที อัล ซาดด์ ยิงลูกจุดโทษชนะ 5-3)


ทำเนียบแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ
ปี เจ้าภาพ แชมป์   ผลการแข่งขัน
2011 ญี่ปุ่น บาร์เซโลน่า (สเปน)  ชนะ ซานโตส (บราซิล) 4-0
2010 ยูเออี อินเตอร์ (อิตาลี)  ชนะ ทีพี มาเซมเบ้ (ดีอาร์ คองโก)  3-0
2009 ยูเออี บาร์เซโลน่า (สเปน)  ชนะ เอสตูเดียนเตส (อาร์เจนตินา) 2-1 (ต่อเวลาพิเศษ)
2008 ญี่ปุ่น แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) ชนะ แอลดียู กีโต (เอกวาดอร์) 1-0 
2007 ญี่ปุ่น เอซี มิลาน (อิตาลี)  ชนะ โบคา จูเนียร์ส (อาร์เจนตินา) 4-2
2006 ญี่ปุ่น อินเตอร์นาซิอองนาล (บราซิล) ชนะ บาร์เซโลน่า (สเปน) 1-0
2005 ญี่ปุ่น เซา เปาโล (บราซิล)  ชนะ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1-0
2000 บราซิล โครินเธียนส์ (บราซิล)  ชนะจุดโทษ วาสโก (บราซิล) 4-3 (เสมอ 0-0 ในเวลาแข่งขัน 120 นาที)

หมายเหตุ : ระหว่างปี 2001-2004 ไม่มีแข่งขัน

รางวัลยอดเยี่ยม ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2011
โกลเด้น บอล : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า)
ซิลเวอร์ บอล : ชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า)
บรอนซ์ บอล : เนย์มาร์ (ซานโตส)
ทีมแฟร์เพลย์ : บาร์เซโลน่า (สเปน)

ดาวซัลโว ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2011
2 ประตู : ลิโอเนล เมสซี่, อาเดรียโน่ คอร์เรอา (บาร์เซโลน่า)
1 ประตู : คาลฟาน อิบราฮิม, อับดุลลา โคนี่ (อัล ซาดด์) แม็กซ์เวลล์, เซย์ดู เกอิต้า, เชส ฟาเบรกาส, ชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า) อุสซาม่า ดาร์รากี, คาเล็ด มูแอลอี, ยันนิค เอ็นเฌ็ง (เอสเปร็องซ์) มาซาโตะ คุโดะ, ฮิโรกิ ซากาอิ, จุนยะ ทานากะ (คาชิว่า เรย์โซล) อัลโด้ เด นิกริส, อิราม เมียร์, อุมเบร์โต้ ซัวโซ่, เฮซุส ซาวาล่า (มอนเตอร์เรย์) บอร์เกส, ดานิโล่, เนย์มาร์ (ซานโตส)