กองทัพนักกีฬาโอลิมปิก 2012 เมืองผู้ดีอดทันสมัย องค์กรต้านโด๊ปสหราชอาณาจักรประกาศิตห้ามกินตับ! หวั่นสารกระตุ้นต้องห้ามตกค้างในร่างกาย สุ่มเสี่ยงต่อการโดนตรวจพบอย่างแรง เผยเมนูต้องห้ามมีเพียบ แต่ตับติดโผอันดับหนึ่งเลยทีเดียว

        สมาคมต่อต้านการใช้สารกระตุ้นต้องห้ามแห่งสหราชอาณาจักร (United Kingdom Anti-Doping

Association) เตือนทัพนักกีฬาเมืองผู้ดีชุดเตรียมสู้ศึกกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ระหว่างวันที่ 27 ก.ค.-12 ส.ค.ศกหน้า
ณ กรุงลอนดอน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหลากหลายชนิดที่อาจจะทำให้มีปัญหาตรวจโด๊ปไม่ผ่าน โดยอา
หารอันดับ 1 ที่อยู่ในบัญชีอาหารต้องห้ามดังกล่าวนั้น ก็คือ "ตับ" นั่นเอง

         สำหรับสาเหตุที่ตับกลายเป็นอาหารลำดับแรกที่นักกีฬาทีมชาติสหราชอาณาจักรควรจะต้องหลีกเลี่ยงนั้น ก็เนื่องมาจากศักยภาพในการเพิ่มความเสี่ยงต่อการตรวจพบสารต้องห้ามประเภท เคลนบูเตโรล (clenbuterol) จากการรับประทานตับนั่นเอง

         ด้านสำนักงานมาตรฐานอาหาร (Food Standard Agency) หรือ เอฟเอสเอ (FSA)  ซึ่งเป็นหน่วยงานของ

รัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ทำหน้าที่แบบเดียวกับองค์การอาหารและยาในสหรัฐอเมริกา (Food and Drug

Administration) ก็ยังแนะนำให้นักกีฬาของชาติปฏิเสธการรับประทานตับด้วยเช่นกัน 

         พร้อมกันนั้น เอฟเอสเอ ยังระบุด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่ว่า การบริโภคตับที่มีสารเคลนบูเตโรลตกค้างอยู่

จำนวนมาก อาจจะส่งผลทำให้มีการตรวจพบสารดังกล่าวในตัวอย่างปัสสาวะ หากการตรวจเกิดขึ้นเพียงไม่นานภาย
หลังการบริโภค แต่การที่จะตรวจพบสารดังกล่าวหรือไม่นั้น ยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งปริมาณใน

การบริโภค, ระยะเวลาในการทดสอบปัสสาวะ และกระบวนการวิเคราะห์ที่ถูกนำมาใช้ด้วยเช่นกัน

         ทั้งนี้ อาหารเคยเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตรวจพบสารโด๊ปมาก่อนแล้วในอดีต โดย ถงเหวิน นักยกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิกชาวจีนเคยออกปากโทษสเต็กหมู ตอนที่เธอถูกตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้ามประเภทเคลนบูเตโรล เช่นเดียวกับ อัลเบร์โต้ กอนตาดอร์ นักปั่นจักรยานชาวสเปน ที่เคยถูกตรวจพบสารดังกล่าว โดยเจ้าตัวอ้างว่า เป็นเพราะสเต็กที่รับประทานเข้าไป