อึ้ง! โรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรง ''กระติ๊บ-ชวัลกร'' ระหว่างกำลังแจกลายเซ็นปฏิทินช่อง 7 ที่หัวลำโพง เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทันที ด้านดาราสาวไม่ติดใจเอาความทั้งสิ้น

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ม.ค. 55 ได้มีเหล่าดาราดังวิกหมอชิตจำนวนมากไปร่วมแจกลายเซ็นลงปฏิทินช่อง 7 ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีดาราสาว ''กระติ๊บ'' ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล ไปร่วมแจกลายเซ็นในงานดังกล่าวด้วย พร้อมเพื่อนดาราอีกคับคั่ง ซึ่ง ''สาวกระติ๊บ'' ก็อยู่ในชุดกระโปรงสั้น นั่งแจกลายเซ็นตามปกติทั่วไป ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
     
    จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้รายงานต่อไปว่าแต่จู่ๆ ทันทีที่ ''สาวกระติ๊บ'' ได้ลุกขึ้นยืน แล้วเอี้ยวตัวไปข้างหลัง ก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี ได้ยื่นกล้องมาสอดใต้กระโปรงของ ''สาวกระติ๊บ'' และถ่ายภาพทันที แต่ปรากฏว่าดาราหนุ่ม ''แอม'' ปฏิญญา  วิโรจน์แสงประทีป  ได้สังเกตเห็นการกระทำดังกล่าวพอดี จึงได้ร้องตะโกนขึ้น ทำให้ชายโรคจิตคนดังกล่าววิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ ''หนุ่มแอม'' จึงได้แจ้งทีมงานช่อง 7 ที่อยู่บริเวณนั้นให้รีบตามจับตัวผู้ชายคนดังกล่าวทันที
     
    ทั้งนี้ทางทีมงานงานช่อง 7 ก็ได้ประสานางานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยตามจับกุมตัวคนร้ายที่วิ่งหลบหนีเข้าไปในห้องน้ำ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนในสถานีรถไฟหัวลำโพงสักพักใหญ่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานก็สามารถตามจับตัวผู้กระทำความผิดได้ เพราะดาราสาว ''ต่าย'' ชัชฎาภรณ์ ธนันทา ก็ได้ถ่ายใบหน้าของผู้ชายคนดังกล่าวไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูด้วยนั่นเอง
     
    โดยทันทีที่จับกุมผู้กระทำความผิดถ่ายใต้กระโปรงของาราสาว ''กระติ๊บ'' ได้แล้วนั้น ทราาบชื่อคือ ''นายพิศาล บุญทอง'' อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 8 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งทางทีมงานและตำรวจได้นำกล้องถ่ายรูปของชายหนุ่มคนดังกล่าวมาตรวจสอบดู แต่ปรากฏว่าไม่มีภาพอนาจารของ ''สาวกระติ๊บ'' ทั้งสิ้น และเบื้องต้นชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ปฏิเสธ ไม่ยอมรับข้อกล่าวหา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ซักถามไปมา ''นายพิศาล'' ถึงยอมรับว่าได้แอบถ่ายใต้กระโปรงดาราสาว ''กระติ๊บ'' จริง แต่ได้ลบภาพดังกล่าวไปแล้ว
     
    อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นดาราสาว ''กระติ๊บ-ชวัลกร'' ก็มิได้ติดใจเอาความชายหนุ่มที่แอบถ่ายใต้กระโปรงตนเองแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ''นายพิศาล'' ไปลงบันทึกประจำวันรับทราบความผิดที่สถานีตำรวจต่อไป