"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เตรียมจัด เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ฆวน มาต้า ลงผนึกคมแข้งแผงหน้าลุ้นล่าตาข่ายทีมเยือน "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ เมื่อย้อนดูสถิติ 14 นัดหลังที่พบกันเป็นเจ้าถิ่นที่เก็บชัยได้ถึง 13 เกมด้วยกัน ตามชมและเชียร์ได้ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. ศกนี้

ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555

เชลซี      -      ซันเดอร์แลนด์

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        อันเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม นำทีมผ่านรอบ 3 เอฟเอ คัพ ด้วยการเปิดบ้านถล่ม พอร์ทสมัธ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ โดย รามิเรส ซัลโวอีก 2 ประตู ที่เหลือได้จาก ฆวน มาต้า กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

        ฟลอร็องต์ มาลูด้า ปีกชาวฝรั่งเศส เจ็บมาจากเกมกับ ปอมปีย์ และไม่ได้ลงซ้อมเมื่อวันพุธและวันพฤหัสบดี จึงต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเกมนี้ แต่ก็ไม่น่าส่งผลต่อการจัด 11 คนแรกอยู่แล้ว เพราะช่วงหลังนั่งสำรอง

        ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กับ จอห์น เทอร์รี่ ผ่านการทดสอบความฟิตทั้งคู่ แต่เกมนี้ยังคงเร็วเกินไปสำหรับ ไมเคิ่ล เอสเซียง ที่หายเจ็บเข่ากลับมาเรียกความฟิตอยู่กับทีมสำรองเวลานี้

        ที่ขาดหายแน่นอนคือ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ ซาโลมง กาลู สองกองหน้าไอวอรี่โคสต์ ที่ไปเล่น แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2012 ส่วน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ จอห์น โอบี มิเกล เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทั้งสองคน

        การจัดทัพ ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แผงหลัง โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลาง รามิเรส, ราอูล เมยเรเลส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด สามประสานแดนหน้า ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ฆวน มาต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

        ทางฝั่ง มาร์ติน โอนีล กุนซือ แบล็คแคตส์ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มขึ้นสุดๆ เกมล่าสุดคือการบุกชนะ ปีเตอร์โบโร่ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ 2-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 โดย เซบาสเตียน ลาร์สสัน กับ เจมส์ แม็คคลีน สองตัวริมเส้นยิงได้

        สภาพทีมคาดว่า นิคลาส เบนท์เนอร์ กองหน้าร่างใหญ่ จะกลับคืนทีม หลังพลาดเกมเอฟเอ คัพ เพราะเจ็บเข่า ทำให้ สเตฟาน แซสเซญง จะถอยไปเป็นกองหน้าตัวต่ำเหมือนเดิม

        ข่าวดีในแดนหน้า เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ก็หายเจ็บเข่ากลับมาฟิตแล้ว หลังพักไปนานตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2010 แต่เกมนี้ โอนีล จะไม่มี แจ็ค โคลแบ็ค (ข้อเท้า), เวส บราวน์ (โคนขาหนีบ) และ ไตตัส บรัมเบิ้ล (น่อง, เอ็นร้อยหวาย)

        สิบเอ็ดคนแรก ซิมง มินโญเลต์ เฝ้าเสา แนวรับ เคร็ก การ์ดเนอร์, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, จอห์น โอเช, ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ กองกลาง เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ลี แคตเทอร์โมล, คีแรน ริชาร์ดสัน, เจมส์ แม็คคลีน แดนหน้า สเตฟาน แซสเซญง เป็นตัวต่ำ นิคลาส เบนท์เนอร์ เป็นตัวเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, ราอูล เมยเรเลส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ฆวน มาต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

        ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มินโญเลต์ - เคร็ก การ์ดเนอร์, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, จอห์น โอเช, ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ลี แคตเทอร์โมล, คีแรน ริชาร์ดสัน, เจมส์ แม็คคลีน - สเตฟาน แซสเซญง - นิคลาส เบนท์เนอร์

        ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

สิงห์บลูส์ยิ้ม! ต้อนแมวดำของถนัด

        ซันเดอร์แลนด์ กลายเป็นของชอบของ เชลซี ไปเสียแล้ว เพราะตลอด 14 นัดหลังสุดที่พบกัน สิงโตน้ำเงินคราม เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้มากถึง 13 นัด และยิงแหลก 40 ประตูด้วย

        ชัยชนะนัดเดียวของทีมแมวดำ ที่มาคั่นความสำเร็จของสิงโตน้ำเงินครามนับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมาคือเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่ ซันเดอร์แลนด์ พลิกล็อกช็อกโลก บุกถล่ม 3-0 ซึ่งเป็นชัยชนะที่นี่ในเกมลีกหนที่สองเท่านั้นในรอบ 55 ปี

        อย่างไรก็ตาม หากไม่นับเกมเมื่อซีซั่นที่แล้ว ก่อนหน้านั้นฤดูกาล 2009-10 เชลซี เปิดบ้านถล่ม 7-2 และฤดูกาล 2008-09 สิงโตน้ำเงินคราม ก็เฝ้าบ้านถล่ม 5-0

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
22.00 น. แอสตัน วิลล่า - เอฟเวอร์ตัน
22.00 น. แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส - ฟูแล่ม
22.00 น. เชลซี - ซันเดอร์แลนด์
22.00 น. ลิเวอร์พูล - สโต๊ค ซิตี้
22.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - โบลตัน
22.00 น. สเปอร์ส - วูล์ฟแฮมป์ตัน
22.00 น. เวสต์บรอมวิช - นอริช ซิตี้