"เดอะ ซัน" แท็บลอยด์จอมสาระแน ประโคมข่าว อันเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ตกอยู่ในที่นั่งลำบากแล้ว หลังสูญเสียศรัทธาจากนักเตะส่วนใหญ่ภายในทีมไปเรียบร้อย สืบเนื่องจากผลงานที่ขาดความคงเส้นคงวา ทั้งที่ยังได้รับการสนับสนุนอย่างดีในช่วงก่อนปีใหม่
 
"เดอะ ซัน" หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดังของเกาะอังกฤษ รายงานว่า อันเดร วิลลาช-โบอาช ผู้จัดการทีม เชลซี ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก กำลังสูญเสียแรงสนับสนุนจากนักเตะในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ จนไม่มีใครสนใจอีกต่อไปว่าเขาจะโดนไล่ออกหรือไม่ หลังจากเพิ่งออกไปพ่าย เอฟเวอร์ตัน 2-0 ในเกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
 
แหล่ง ข่าวใกล้ชิด เผยว่า "นักเตะยึดมั่นกับ เอวีบี จนถึงช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เพราะทุกคนคิดว่าเขายังสามารถเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ได้ แต่แผนของเขาไม่ได้ผล บรรยากาศในห้องแต่งตัวตึงเครียด และมีนักเตะมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เริ่มสงสัยว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับงานนี้หรือไม่ มันมาถึงขั้นที่นักเตะหลายคนไม่สนใจว่าเขาจะอยู่ต่อไปหรือไม่ ไม่มีคาดการณ์สถานการณ์นี้มาก่อน แต่ผลการแข่งขันไม่เป็นไปตามต้องการ และเขาเจ็บปวดเพราะพวกเขา"
 ตอนนี้เชื่อว่าเหลือแค่ ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส และ โชเซ่ โบซิงวาที่ให้การสนับสนุนกุนซือชาวโปรตุเกสวัย 34 ปี อย่างเต็มที่ ในขณะที่ทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" ต้องสู้เพื่อโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จนถึงขนาดที่ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซีย ต้องเดินทางไปเยือนศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสร เพื่อประเมินสถานการณ์ แต่ดูเหมือนแทบไม่ส่งผลต่อตัว วิลลาช-โบอาช หรือทีมที่กำลังมีผลงานต่ำกว่ามาตรฐานของเขา
 
เชลซี จะบุกไปเยือน นาโปลี ทีมชั้นนำศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ในสัปดาห์หน้า แต่ทีมเพิ่งชนะเพียงเกมเดียวในพรีเมียร์ลีก จาก 4 นัดล่าสุด รวมถึงการเสมอกับ นอริช ซิตี้ และ สวอนซี ซิตี้ และตอนนี้พวกเขารั้งอยู่อันดับ 4 ของตารางร่วมกับ อาร์เซน่อล คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน โดยมี 43 คะแนนเท่ากัน และผลต่างประตูได้เสียเท่ากัน

อย่าง ไรก็ตาม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ทำคะแนนหายใจลดต้นคอ เพื่อแย่งชิงโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าให้ได้ โดยเวลาของ เอวีบี เหลือน้อยเต็มที แม้ เชลซี จะทุ่มเงินในการดึงเขามาจาก เอฟซี ปอร์โต้ และปลด คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียน รวมกันถึง 28 ล้านปอนด์ (ราว 1,400 ล้านบาท) แต่จากประวัติศาตร์แสดงให้เห็นว่า อบราโมวิช สามารถปลดกุนซือได้โดยไม่คำนึงถึงต้นทุน