"สิงโตน้ำเงินคราม" ในยามไร้กุนชือตัวจริงเมื่อ อันเดร วิลลาช-โบอาช ถูกสั่งปลดพ้นตำแหน่งจึงทำให้ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ขึ้นมาคุมทัพชั่วคราว โดย ดิดิเยร์ ดร็อกบา จะลงเป็นแกนหลักแดนหน้าและมีลุ้นล่าตาข่าย เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เจ้าบ้าน ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5 นัดแข่งใหม่ คืนวันอังคารที่ 6 มี.ค. ศกนี้

ปรีวิว ฟุตบอล เอฟเอ คัพ

รอบ 5 นัดแข่งใหม่

วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2555

เบอร์มิงแฮม (แชมเปี้ยนชิพ)      -      เชลซี

สนาม: เซนต์ แอนดรูว์ส

        การที่ เชลซี ทำได้แค่เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 เมื่อ 18 ก.พ. ทำให้ต้องมาเตะใหม่ที่ เซนต์ แอนดรูว์ส อีกนัด 

        คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือเดอะ บลูส์ นำทีมลงเตะเกมแชมเปี้ยนชิพล่าสุด เสมอ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 2-2 แต่ก็ยังเกาะกลุ่มหัวตารางได้ต่อ

        ฮิวจ์ตัน มีปัญหาเรื่องนักเตะเจ็บในบางจุด กัปตันทีม สตีฟ คาร์ ยังไม่หายกลับมา และต้องเช็กฟิต คีธ ฟาเฮย์ ที่เจ็บขาหนีบ จนไม่ได้เล่นเมื่อวันเสาร์

        ส่วน กีแรน เอ็นดาว กองหลังเซเนกัล ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าก่อนหน้านี้ ฟิตมาลงตัวจริงแล้วเมื่อวันเสาร์ เกมนี้มีสิทธิ์ได้เล่นต่อเนื่อง

        นิโกล่า ซิกิช หัวหอกร่างโย่ง หายเจ็บเข่ากลับมาแล้ว และนัดนี้มีโอกาสกลับมายืนตัวจริงอีกครั้ง เมื่อ ฮิวจ์ตัน จำเป็นต้องเปลี่ยนคู่หน้า

        เอริค ฮูเซเคล็ปป์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ ที่เพิ่งยิง ดาร์บี้ ได้เป็นเม็ดแรกในการย้ายยืมตัวจาก พอร์ทสมัธ มาเล่นกับ เดอะ บลูส์ จะไม่สามารถลงเล่นรอบนี้ได้ เนื่องจากเพิ่งย้ายทีมเมื่อ 23 ก.พ. ไม่ทันลงทะเบียนเตะนัดแรก เท่ากับอดเล่นนัดแข่งใหม่โดยปริยาย

        การจัดทัพใช้ 4-4-2 แดนกลางประกอบด้วย เนธาน เร้ดมอนด์, คริส เบิร์ค, จอร์ดอน มัตช์ และ เวด เอลเลียตต์ ส่วนหน้าคู่เป็น มาร์ลอน คิง จอมเก๋าจาไมก้า กับ นิโกล่า ซิกิช

        ฝั่ง เชลซี เจอความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังลงเตะเกมลีกกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แล้วแพ้ 0-1 ในวันเสาร์ รุ่งขึ้น อันเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือชาวโปรตุกีส ก็ถูกปลดพ้นตำแหน่งทันที

        เชลซี ใช้ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ผู้ช่วยของ โบอาช ที่เคยคุม เวสต์บรอมวิช กับ เอ็มเค ดอนส์ มาก่อน คุมทีมแบบรักษาการไปจนกระทั่งสิ้นสุดซีซั่นนี้ 

        ดิ มัตเตโอ จะเริ่มงานเกมนี้ทันที ด้วยสภาพทีมที่ยังมีปัญหาอยู่พอสมควร จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีม เจ็บเข่าต้องพักอีกประมาณ 4-5 สัปดาห์ ขณะที่ โชเซ่ โบซิงวา แบ็กขวา ก็เจ็บกล้ามเนื้อ ยังกลับมาไม่ได้

        ส่วน ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่เจ็บในระหว่างสัปดาห์ที่แล้ว ฟิตลงเล่นกับ เวสต์บรอมวิช ได้ด้วยกันทั้งคู่ นัดนี้พร้อมเป็นตัวเลือกตามปกติ

        มีโอกาสเหมือนกันที่ ดิ มัตเตโอ จะปรับเปลี่ยนระบบการเล่นผิดไปจากตอนที่ วิลลาช-โบอาช คุมอยู่ เช่นเดียวกับตัวนักเตะที่อาจมีความเปลี่ยนแปลงด้วย

        อย่างไรก็ตาม ด้วยการทำงานข้างกันมาตลอด ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ ดิ มัตเตโอ จะยังรักษาโครงสร้างหลักเอาไว้ ในระบบ 4-3-3

        ปีเตอร์ เช็ก จะยังคงยึดมือหนึ่งไว้ต่อ ส่วนแนวรับ เซนเตอร์แบ็กก็น่าจะคงเดิมที่ แกรี่ เคฮิลล์ กับ ดาวิด ลุยซ์ เมื่อแบ็กขวายังไม่มีตัวเลือก ต้องใช้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เล่นต่อ

        ส่วนแดนกลาง รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยืนพื้น แต่ก็มีโอกาสที่ ราอูล เมยเรเลส, โอริโอล โรเมอู หรือ จอห์น โอบี มิเกล จะถูกใช้งานแทน

        แดนหน้าเกมล่าสุดเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฆวน มาต้า และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งก็มีโอกาสจะยึดแผงเดิมไว้ต่อ โดยมี เฟร์นานโด ตอร์เรส, ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูด้า และ โรเมลู ลูกากู เป็นตัวเลือกรอง

        สำหรับผู้ชนะของคู่นี้ จะเข้าไปตัดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังของเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย กลางเดือนนี้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เบอร์มิงแฮม : โบอาซ มายฮิลล์ - กีแรน เอ็นดาว, โจนาธาน สเป็คเตอร์, เคอร์ติส เดวิส, ปีเตอร์ ราเมจ - เนธาน เร้ดมอนด์, คริส เบิร์ค, จอร์ดอน มัตช์, เวด เอลเลียตต์ - มาร์ลอน คิง, นิโกล่า ซิกิช

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฆวน มานูเอล มาต้า, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์