จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ออกโรงสรรเสริญอดีตเจ้านายอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ว่าเป็นกุนซือชั้นยอด พร้อมทั้งยืนยันว่าในเวลานี้ขอรวบรวมสมาธิสำหรับการนำทีมกลับมาทำผลงานยอด เยี่ยมเพื่อคว้าโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้เท่านั้น

จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติอังกฤษของ เชลซี ยักษ์ใหญ่เวทีพรีเมียร์ลีก ออกมายกย่อง โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์เรอัล มาดริด มหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิง ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่มหัศจรรย์ หลังจาก อดีตกุนซือ "สิงโตน้ำเงินคราม" ตกเป็นข่าวว่าจะย้ายกลับมารับงานกุมบังเหียนในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งในเร็ววันนี้
 
มูรินโญ่ เคยคุมทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" ในช่วงปี 2004-2007 และพาต้นสังกัดพุ่งชนความสำเร็จมากมายทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก และ แชมป์คาร์ลิ่ง คัพ อย่างละ 2 สมัย รวมถึงแชมป์เอฟเอ คัพ อีก 1 ครั้ง ทำให้เจ้าตัวมีรายชื่ออยู่ในลิสต์ว่าที่กุนซือใหม่ของ เชลซี ที่เพิ่งปลด อันเดร วิลลาช-โบอาช ออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา อย่างช่วยไม่ได้ 
 
อย่างไรก็ดี เทอร์รี่ ที่เป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของสโมสรในช่วงเวลาดังกล่าว ออกมายอมรับว่า "เดอะ สเปเชี่ยลวัน" เป็นผู้จัดการทีมชั้นยอด แต่เชื่อว่ารายงานข่าวดังกล่าวเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น พร้อมทั้งยืนยันว่าในเวลานี้ตนขอพุ่งสมาธิในการทำงานร่วมกับ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือขัดตาทัพ ในการพาต้นสังกัดเค้นเอาฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้งในช่วงเวลาที่เหลือในฤดูกาล นี้เสียก่อน
 
"มันเป็นแค่กระแสข่าวเท่านั้น มันชัดเจนว่า มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีมมหัศจรรย์ และเป็นคนที่จัดระเบียบภายในทีมได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน ร็อบบี้ (ดิ มัตเตโอ) เพิ่งจะเข้ามา และพา เอ็ดดี้ นิวตัน (ผู้ช่วยกุนซือคนใหม่) เข้ามาด้วย พวกเขาทำได้ดีมากในการรับงานนี้ เป้าหมายในเวลานี้ของเราคือมุ่งมั่นทำผลงานในช่วง 2 เดือนที่เหลือ ในการพาทีมไปอยู่ในจุดที่เราต้องการจะอยู่ ซึ่งก็คือการไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า" เทอร์รี่ กล่าว 
 
 ทางด้าน ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา หัวหอกตัวเก๋าทีมชาติไอวอรีโคสต์ ออกมากล่าวว่าตัวเองพร้อมยินดีต้อนรับ มูรินโญ่ กลับมาสู่สโมสรอีกครั้ง แต่ก็ยืนยันว่าเรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฎตามสื่อในเวลานี้เป็นเพียงแค่กระแสข่าวเท่านั้น "ผมคิดว่ามันมีข่าวลือเยอะมาก (เกี่ยวกับผู้จัดการทีมคนใหม่) ทั้งเขา (มูรินโญ่), (ราฟาเอล) เบนิเตซ และกุนซือคนอื่นๆ มันคงจะเป็นเรื่องดีและเรื่องสนุกสำหรับการเขียนข่าว มารอดูกันต่อไปเถอะว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น"