ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกพรสวรรค์สูงของ บาร์เซโลน่า กลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มกบฏแบบไม่รู้ตัวเสียแล้ว หลังจากสถานีโทรทัศน์ซีเรีย เผยว่าทิศทางในการเคลื่อนไหวของ ดาวยิงวัย 24 ปี ถูกนำไปใช้เป็นสัญญาณลับของกลุ่มกบฎปืนเถื่อนในการลักลอบขนย้ายอาวุธปืนผิดกฎหมายจากนอกประเทศ

อัดดูเนีย สถานีโทรทัศน์ของประเทศซีเรีย รายงานว่า ลิโอเนล เมสซี่ ยอดกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาของ บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิง เป็นตัวการสำคัญในการส่งสัญญาณลับให้กลุ่มกบฏชาวซีเรีย สำหรับ การลักลอบนำอาวุธปืนเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย ด้วยการใช้ทิศทางในการเลี้ยงบอลของเขาในเกมที่ "เจ้าบุญทุ่ม" เสมอ เรอัล มาดริด 2-2 ในศึกโกปา เดล เรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา
 
อัดดูเนีย อ้างว่ามีคลิปวิดีโอโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต โดยเป็นจังหวะที่ เมสซี่ ลากเลี้ยงบอลก่อนจะส่งให้ เปโดร โรดริเกซ กองหน้าเพื่อนร่วมทีมสังหารประตูโดยเสียงพากย์ในคลิปดังกล่าวระบุอย่างชัดเจนถึงทิศทางในการเคลื่อนไหวของดาวเตะเจ้าของรางวัลฟีฟ่าบัลลงดอร์ 3 สมัย ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสอดคล้องกับเส้นทางของกลุ่มกบฏชาวซีเรียที่ใช้ในการลักลอบส่งปืนเถื่อน 
 
จากจังหวะที่ เมสซี่ เริ่มออกตัววิ่ง เสียงพากย์ระบุว่า "ในที่นี้ เราจะได้เห็นขั้นตอนแรกสำหรับการที่อาวุธปืนถูกบรรจุจากเลบานอน ก่อนที่จะส่งผ่านมาทาง ฮอมส์ เพื่อนำไปส่งให้กับผู้ก่อการร้ายอีกกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้ เรายังจะเห็นได้ว่าพวกเขาเตือนกันเองว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคบ้างระหว่างระยะทางก่อนจะไปถึงที่ เดย์ร อัล ซอว์ร" ก่อนจะปิดท้ายในจังหวะยิงของเปโดร "หลังจากนั้นอาวุธปืนก็จะถูกนำขึ้นรถประจำทางเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ตั้งอยู่ที่ อัล มากาดิน"
 
อย่างไรก็ตามคณะลูกขุน ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่า เมสซี่ ถูกนำมาเป็นเครื่องมือของทางรัฐบาลในการล้างสมองประชาชนอย่างไม่มีส่วนรู้เห็นหรือว่าคลิปดังกล่าวเป็นเพียงแค่เรื่องราวหลอกหลวงเท่านั้น เนื่องจากสถานีโทรทัศน์ซีเรียที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลซีเรีย เคยอ้างว่าสถานีโทรทัศน์คู่แข่งเคยส่งข้อความลับผ่านทางช่วงข่าวพยากรณ์อากาศมาแล้ว
 
ในขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์มาร์ค อัลมอนด์ แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่าคลิปดังกล่าวสามารถนำมาใช้สร้างมลทินให้กับ บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีจอมเผด็จการของซีเรีย "ถ้าผมเป็นกลุ่มกบฏซีเรียหรือใครก็ได้ที่มีแนวคิดเช่นเดียวกับพวกเขา ผมอาจจะทำคลิปวิดีโออย่างนั้นขึ้นมาเพื่อที่จะแสดงให้ทั้งโลกเห็นว่ารัฐบาลของอัสซาด โง่เง่าเพียงไหน"