ซาโลมง กาลู สวมบทฮีโร่ซัดประตูโทนช่วย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี บุกเฉือนเก็บชัยเหนือ "เหยี่ยวลิสบอน" เบนฟิก้า ถึงถิ่น 1-0 กุมความได้เปรียบเอาได้สำเร็จก่อนกลับมาลุ้นกันต่อที่เกาะอังกฤษ ต่อไปในศึกฟุตบอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก

วันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555

เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 0     -     1 เชลซี (อังกฤษ)

สนาม : เอสตาดิโอ โด สปอร์ต ลิสบอน เบนฟิก้า

　　"พญาเหยี่ยว"  เบนฟิก้ามีขุมกำลังค่อนข้างครบครันเมื่อได้ปาโบล ไอมาร์กองกลางประสบการณ์สูงพ้นโทษแบนมาช่วยปั้นเกมให้ทีมได้ ขาดก็แต่เอเซเกล การายกองหลังที่ยังบาดเจ็บ

　　ด้านเชลซีตัวแทนหนึ่งเดียวจากเมืองผู้ดีขาดบรานิสลาฟ อิวาโนวิชที่เดี้ยง  และเป็นเปาโล แฟร์ไรร่าที่ถูกเลือกใช้งานเป็นแบ็คขวาก่อนหน้าโชเซ่ โบซิงวา

　　อย่างไรก็ดี สิงห์บลูส์มีราอูล เมยเรเลสพ้นโทษแบน และได้จอห์น เทอร์รี่หายเจ็บ แต่กุนซือชั่วคราวโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอทำเซอร์ไพรซ์ดร็อปทั้งแฟร้งค์  แลมพาร์ด , แกรี่ เคฮิลล์  , ไมเคิ่ล เอสเซียง และดิดิเยร์ ดร็อกบาไปนั่งเป็นตัวสำรองโดยใช้บริการเฟร์นานโด ตอร์เรสเป็นหอกเดี่ยว

　　เกมเริ่มต้นอย่างรอบคอบรัดกุมด้วยกันทั้งคู่ และผ่านมา 10 นาทีก็เป็นเชลซีที่ขอลุ้นก่อนจากจังหวะเติมขึ้นมาซัดลูกเรียดหน้าเขตโทษด้านขวาของดาวิด  ลุยซ์ แต่บอลกลิ้งผ่านเสาสองออกไป

　　จากนั้นในนาทีที่ 19 เมยเรเลสก็โดนจดชื่อข้อหาทำฟาวล์นิโกลัส ไกตาน แถมสิงห์บลูส์เกือบเสียประตูในอึดใจต่อมาเมื่อเจ้าบ้านเปิดเกมยาวเข้าเขตโทษด้านซ้ายโดยเทอร์รี่ไล่ตามออสการ์ คาร์โดโซ่ไม่ทันแล้ว แต่หอกเบนฟิก้ากระโดดเอี้ยวตัววอลเลย์เฉี่ยวเสาแรกออกไป

　　จวบจนนาทีที่ 28 บรูโน่ เซซาร์ก็มีใบเหลืองติดตัวในจังหวะทำฟาวล์แฟร์ไรร่าแถมใช้มือปัดบอลอีกต่างหาก

　　หลังจากขาดแคลนโอกาสด้วยกันอยู่นาน นาทีที่ 39 ตอร์เรสก็กระชากบอลจากด้านขวาตัดเข้าเขตโทษมายิงปั่นโค้ง แต่ไม่ดีพอบอลหลุดเสาไกลออกไปพอสมควร

　　นาทีต่อมาสิงห์บลูส์ได้เสียวมากขึ้นจากจังหวะพาบอลลุยขึ้นกราบซ้ายของรามิเรสก่อนจะป้ายคืนให้เมยเรเลสส่องจาก 27 หลา แต่อาร์เธอร์พุ่งปัดได้สำเร็จ จบครึ่งแรกทั้งคู่จึงเสมอกันไปแบบไร้อรรถรส 0-0

　　ครึ่งหลัง เบนฟิก้าเริ่มเน้น และแค่สองนาทีจากลูกทุ่มไกลด้านขวาที่ลอยเข้าเขตโทษไปโดนศีรษะเมยเรเลส กลายเป็นการตั้งให้คาร์โดโซ่กระทุ้งจาก  12 หลาอย่างถนัดถนี่ แต่บอลกระทบใส่ลุยซ์ที่ยืนขวางอยู่หน้าประตู

　　ถัดมาในนาทีที่ 51 บรูโน่ เซซาร์ได้ลองตะบันจากหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งเข้าอกของเช็กพอดี

　　ขยับมาอีกสองนาทีเป็นโอกาสของเชลซีบ้างเมื่อตอร์เรสโฉบไปเก็บบอลเลื้อยขึ้นทางซ้ายแล้วตักเข้าเขตโทษให้ซาโลมง กาลูโขกระยะ 10 หลา แต่กดไม่ลงบอลโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

　　กระทั่งนาทีที่ 60 มักซี่ เปเรยร่าก็สบโอกาสวอลเลย์ในเขตโทษด้านขวาไปโดนแขนของเทอร์รี่ แต่ไม่มีเสียงนกหวีดเป่าให้เป็นลูกโทษจากผู้ตัดสิน

　　แถมนาทีเดียวกันนี้ เจ้าบ้านน่าจะเสียความบริสุทธิ์ด้วยเมื่อเช็กเตะบอลยาวเปิดเกมแล้วลุยเซากัปตันเหยี่ยวลิสบอนปล่อยให้บอลตกพื้นทำให้ฆวน มาต้าตามไปเตะหนีนายทวารอาร์เธอร์ในเขตโทษได้ก่อนจะซัดมุมแคบ แต่บอลชนเสา

　　ถึงนาทีที่ 65 อั๊กเซล วิทเซลแย่งบอลจากจอห์น โอบี มิเกลแถวกลางสนามได้ จึงลากขึ้นไปเข่นจาก 30 หลากระทบขาเทอร์รี่ที่ยกบัง บอลจึงปลิ้นไปตกใส่หลังคา

　　ล่วงมาอีกสองนาที ไกตานสาดบอยาวจากกราบซ้ายไปเสาไกลให้ชาร์เดลโขกเต็มๆ แต่เช็กปัดได้ และจากโอกาสโต้เร็วของรามิเรสที่เลี้ยงบอลเข้าไปในแดนเจ้าบ้าน ลุยเซาก็ตัดเกมทำฟาวล์พร้อมรับใบเหลือง

　　นาทีที่ 68 เชลซีเปลี่ยนแลมพาร์ดลงไปแทนเมยเรเลส ขณะที่เบนฟิก้าส่งทั้งโรดริโก้กับเนมานย่า มาติชเสียบแทนไอมาร์กับบรูโน่ เซซาร์

　　จวบจนนาทีที่ 75 เบนฟิก้าก็โดนดีจนได้เมื่อตอร์เรสสบช่องพาบอลลุยขึ้นทางขวาแล้วบรรจงหยอดไปหน้าประตูให้ กาลู เข้าฮอสแปด้วยซ้ายจากหกหลาตุงตาข่ายพาสิงโตน้ำเงินครามนำ 1-0

　　หลังเสียท่าพญาเหยี่ยวก็เดินหน้าเต็มตัว แต่ไม่อาจเอาชนะเกมรับของสิงห์บลูส์ได้ และนาทีที่ 78 ฆาบี้ การ์เซียก็ทำฟาวล์แฟร์ไรร่าจึงได้ใบเหลือง ขณะที่เชลซีส่งโบซิงวาลงไปแทนแฟร์ไรร่าในนาทีที่ 80

　　เชลซีมาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ สเตอร์ริดจ์ ตัดบอลได้กลางสนามทางฝั่งขวาก่อนกระชากจี้เข้ามาหน้ากรอบเขตโทษเจ้าถิ่นแล้วผ่านบอลไปฝั่งซ้าย ตอร์เรส ที่วิ่งมาทำท่าจะยิงแต่กระโดดหลอกหนึ่งจังหวะก่อนเลยไปถึง มาต้า จับบอลแล้วชิพหวังข้ามหัวนายด่านพญาเหยี่ยวแต่บอลลอยข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

　　ช่วงเวลาที่เหลือต่างฝ่ายยังคงเปิดเกมแรกสนุกแต่ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้กระทั่งหมดเวลาทีมจากลอนดอนจึงบุกมากำชัย 1-0 ก่อนได้กลับไปเฝ้าบ้านนัดหน้า ณ เกาะอังกฤษ 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

　　เบนฟิก้า : อาร์เธอร์ , เอเมอร์สัน , ลุยเซา , ชาร์เดล , มักซี่ เปเรยร่า , ปาโบล ไอมาร์ , ฆาบี้ การ์เซีย , บรูโน่ เซซาร์ , นิโกลัส ไกตาน , อั๊กเซล วิทเซล , ออสการ์ คาร์โดโซ่

　　สำรอง : เอดูอาร์โด้ , โนลิโต้ , เนลสัน โอลิเวียร่า , โรดริโก้ , เนมานย่า มาติช , มิเกล วิเตอร์ , ฮาเวียร์  ซาวิโอล่า

　　เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , แอชลีย์ โคล , ดาวิด ลุยซ์ ,จอห์น เทอร์รี่ , เปาโล แฟร์ไรร่า , รามิเรส , ราอูล เมยเรเลส ,  ฆวน มาต้า , ซาโลมง กาลู , จอห์น โอบี มิเกล , เฟร์นานโด ตอร์เรส

　　สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์ , โชเซ่ โบซิงวา , แกรี่ เคฮิลล์ , ไมเคิ่ล เอสเซียง , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

　　ผู้ตัดสิน : เปาโล ตายาเวนโต้ (อิตาลี)