สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ ออกมาชี้แจงว่าเหตุผลที่เขายังไม่สามารถยื่นคำร้องเพื่อทวงสิทธิ์ของทีมอีสาน ยูไนเต็ด กลับมาอยู่ในการครอบครองอย่างที่เคยให้ค่ำมั่นกับแฟนบอลเมื่อขึ้นมารับตำแหน่งใหม่ๆได้เป็นเพราะข้อมูลต่างๆได้สูญหายไปหมดแล้ว ในขณะที่บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ก็ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับพวกเขา

สาวกกูปรีอันตรายยังคงเดินหน้าประท้วงอดีตทีมรักอย่างต่อเนื่องและประกาศออกมาแล้วว่าจะราวีอย่างไม่ลดละหากการเจรจาไม่เกิดขึ้น โดยล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาว่าบางส่วนอาจจะเข้าพบนายกสมาคมกีฬาจังหวัดอีกครั้งหลังเคยยื่นเรื่องขอให้ทวงสิทธิ์ของสโมสรคืนแต่กลับเงียบหายไป

“บิ๊กโต้ง” เผยว่า “ที่ผ่านมาเราพยายามค้นหาเอกสารต่างๆในการโอนสิทธิ์ทีมฟุตบอล ศรีสะเกษ เอฟซี หรือที่เปลี่ยนเป็น อีสาน ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน จากสมาคมกีฬาจังหวัดมาให้กับบริษัทสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษจำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคลโดยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2009 แต่ปรากฏว่าเอกสารต่างๆกลับสูญหายไปหมดแล้ว ซึ่งผมเองก็เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งจึงทำอะไรได้ลำบาก”

“ผมพยายามที่จะติดต่อไปยัง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก เพื่อขอข้อมูลของการโอนสิทธิ์ในครั้งนั้นแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ รวมทั้งขอกรณีการทวงสิทธิ์ของหลายๆทีมที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตอย่าง ทีโอที ,การท่าเรือไทยหรือราชนาวี ก็ไม่ได้เช่นกัน ซึ่งการจะดำเนินการใดๆหากไม่มีข้อมูลอยู่ในมือเลยผมคงดำเนินการได้ยาก”

อย่างไรก็ตามนายกสมาคมกีฬาจังหวัดศรีสะเกษคนใหม่ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาแทนที่ สบบัติ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสรอีสาน ยูไนเต็ด คนปัจจุบัน ยืนยันว่าเขากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนำทีม “กูปรีอันตราย”ซึ่งเหมือนเป็นสมบัติล้ำค่าของคนทั้งจังหวัดกลับมาให้ได้

“จนถึงขณะนี้ผมก็ยังไม่ได้หยุดความพยายามทั้งเรื่องการทวงสิทธิ์หรือเจรจากับทางผู้บริหารของทีม ผมกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างจบลงด้วยดีให้ได้”