"บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานแถลงข่าวชี้แจงเรื่องสิทธิประโยชน์ไทยพรีเมียร์ลีก โดยผู้บริหารบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อวันที่ 5 เมษายน

นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า บริษัทสยามสปอร์ตฯ ได้เข้ามาบริหารสิทธิประโยชน์ โดยทำงานร่วมกับสมาคมฟุตบอลฯ และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก สำหรับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2554-2556 ได้ขายล่วงหน้าไป 3 ปีซึ่งมีบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ซื้อไป

ขณะที่ลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดศึกยามาฮ่า ลีกวัน (ดิวิชั่น 1) มีจานเอทีพี และไอพีเอ็มซื้อไป รวมมีรายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด 80.4 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการหาสปอนเซอร์ ได้ขายไตเติ้ลสปอนเซอร์ล่วงหน้า 3 ปี โดยมีเครื่องดื่มสปอนเซอร์ และเอไอเอส ร่วมสนับสนุน มูลค่ารวม 83 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมี ยามาฮ่า, ไทยน้ำทิพย์ (โค้ก), ปตท., เบียร์ช้าง ร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวี โดยขายแบบปีต่อปีอีก รวม 55 ล้านบาท รวมในปี พ.ศ. 2554 มีภาพรวมสิทธิประโยชน์ที่เข้ามา 218.4 ล้านบาท

นายอดิศัย กล่าวต่อว่า ส่วนต้นทุน แบ่งเป็น 1.ด้านการผลิต (เงินสนับสนุนสโมสร, เบี้ยเลี้ยงผู้ตัดสิน, ค่าเช่าเวลา, ค่ารถโอบี, ค่าสัญญาณ) 2.การดำเนินงาน (ค่าใช้จ่ายไทยพรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2, ค่าจัดงานแถลงข่าว, ค่าป้าย, ค่าพิมพ์) และ3.การตลาด (ค่านายหน้า) รวม 96.10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เหลือกำไรในปีนี้ 3.90 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงินราว 8 ล้านบาท ซึ่งบริษัทสยามสปอร์ตฯ แบ่งกันครึ่งต่อครึ่งกับสมาคมฟุตบอลฯ โดยหลังจากปี พ.ศ.2556 จะมีการเปิดประมูลครั้งใหม่สำหรับฤดูกาล 2557 คิดว่ามูลค่าลิขสิทธิ์น่าจะได้มากขึ้น และน่าจะปันรายได้ให้กับสโมสรได้มากขึ้นกว่าปัจจุบัน

ด้านนายระวิ โหลทอง ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ในเดือนมกราคมปี 2556 จะมีการเปิดประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยพรีเมียร์ลีก สำหรับปี 2557-2559 อีก โดยเวลานี้มี บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้ไม่ประสงค์ออกนามอีก 2 ค่ายติดต่อเข้ามาแล้ว

“ในอนาคต บริษัทสยามสปอร์ตฯ อาจจะไม่ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ตรงนี้อีกแล้ว เพราะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ใครอยากจะทำก็เข้ามา สยามสปอร์ตพร้อมหลีกทาง เพราะเข้ามาทำเพราะต้องการให้บอลไทยเติบโต ไม่ได้จะมาหากินกับนักฟุตบอล”

บอสใหญ่สยามกีฬา กล่าวอีกว่า ตนไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเรื่องสิทธิประโยชน์ เพราะตนมีธุรกิจขายหนังสือไม่ได้หากินกับนักฟุตบอล ตนยินดีที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ เข้ามาทำทีมฟุตบอล และอยากฝากให้นายเนวินทำฟุตบอลให้เป็นสวรรค์ยิ่งๆ ขึ้นไป ที่ออกมาชี้แจงวันนี้เห็นใจ นายวรวีร์ เพราะถูกด่าเยอะ ตนต้องการเคลียร์ให้เกิดความเข้าใจและให้ความเป็นธรรม