เป็นหนังอีก เรื่องหนึ่งของปี 2012 ที่ถูกนำมาดัดแปลงให้เป็น 3 มิติ เพื่อเข้าฉายอีกครั้ง หลังจากเคยฉายแล้วในครั้งแรกเมื่อปี 1997 กับภาพยนตร์เจ้าของรางวัลออสการ์กว่า 11 สาขา และกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า $1.8 ล้านเหรียญ ภาพยนตร์ที่ครองตำแหน่งภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลมาเป็นเวลานานและสร้าง สถิติต่างๆ มากมายให้วงการภาพยนตร์ ประกอบกับวาระครบรอบ 100 ปี ของเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก จึงนับเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ชมหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์อีกครั้งกับ Titanic 3D

Titanic กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) โดยนำเค้าโครงเรื่องจริงมาผสมผสานกับจินตนาการจนเกิดเป็นเรื่องราวอันโศกซึ้ง นำแสดงโดยลีโอนาโด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) และเคท วินสเลท (Kate Winslet) เรื่องราวของการเดินทางบนเรือสำราญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้นที่ชื่อว่า RMS Titanic ที่ทำให้เกิดเรื่องราวความรักต่างชนชั้นระหว่างแจ็ค ดอว์สัน หนุ่มนักเสี่ยงโชค ผู้มีพรสวรรค์ด้านศิลปะ กับ โรส เดวิด บูเกเตอร์  ที่มีชีวิตสูงศักดิ์แต่กลับไม่สามารถเลือกเส้นทางชีวิตที่ตัวเอง ต้องการ แต่ทั้งสองก็ได้มาพบกัน เป็นความแตกต่างที่ลงตัว แม้สุดท้ายความรักของทั้งสองจะต้องเผชิญความจริงอันโหดร้ายเมื่อเรือ Titanic มิอาจเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง

ภาพยนตร์ที่ดีที่ถึงคุณภาพในโลกนั้นมีเยอะ แต่ภาพยนตร์ที่ดีที่สามารถทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มใจหลังจากที่ชมจบนั้นมีไม่มาก ซึ่ง Titanic คือหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนั้น ที่ไม่ว่าได้ชมกี่ครั้งก็ทำให้เรารู้สึกประทับใจเสมอ

ผมเป็นคนหนึ่งเมื่อตอนที่ Titanic เข้าฉายครั้งแรกเมื่อตอนปี 1997 นั้น ผมไม่มีโอกาสได้ชมในโรงภาพยนตร์ ผมจึงรอคอยการกลับมาของ Titanic ที่กลับมาพร้อมกับระบบ 3 มิติ แม้โดยส่วนตัวจะเฉยๆ กับระบบ 3 มิติ แต่ก็อยากรู้ว่าผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน ซึ่งขึ้นชื่อด้านงานภาพ 3 มิติ ไปแล้วจากผลงานล่าสุด Avatar จะสามารถดัดแปลงหนัง 2 มิติ ให้เป็น 3 มิติได้ดีแค่ไหน

หากมองในส่วนของการดัดแปลงเป็นภาพ 3 มิตินั้น เนื่องจากเป็นหนังที่ถูกสร้างในแบบปกติ! รสนิยมในหนัง 3 มิติ ที่ต้องมีอะไรสักอย่างพุ่งเข้าหน้าจึงไม่มี แม้ในเรื่องจะมีฉากเหล่านี้แต่ก็ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนอง 3 มิติ แต่ระบบ 3 มิติ เข้ามารองรับในจุดนั้นได้พอดี

Titanic 3D จึงเป็นหนัง 3 มิติ ที่เน้นให้เห็นถึงความลึกของภาพ เผยมิติด้านกว้างเป็นหลัก  ในภาพรวมถือว่าดัดแปลงออกมาได้ดีทีเดียว มิติของภาพเห็นได้อย่างชัดเจนดี ทั้งฉากสำรวจเรือใต้น้ำ ฉากการเดินเรือ ฉากสนทนาบนโต๊ะอาหาร แน่นอน รวมถึงฉากที่เรือกำลังจม! ถึงแม้โดยส่วนตัวจะมีความรู้สึกว่าบางฉาก (ที่ไม่ค่อยสำคัญ) ไม่ได้เป็น 3 มิติ โดยสมบูรณ์ แต่ก็นับว่าทำได้ดีกว่าหนังเก่าที่มาแปลงเป็น 3 มิติ บางเรื่องหรือแม้กระทั่งหนังที่ประกาศตนเองเป็น 3 มิติ ด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นถึงความประณีตและใส่ใจของทีมงานได้เป็นอย่างดี

Titanic เป็นหนังที่แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของเจมส์ คาเมรอน อย่างแท้จริง ทั้งการเขียนบท โปรดิวเซอร์ และการกำกับ ที่สามารถนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาเสริมเติมแต่งให้เข้ากับจินตนาการได้ อย่างสมจริงและเต็มไปด้วยเรื่องราว ทั้งการแบ่งแยกชั้น สถานะทางสังคมของผู้โดยสาร เรื่องราวความรักต่างฐานันดร ที่นอกจากจะซาบซึ้งตรึงใจ ยังให้มุมมองในการใช้ชีวิตผ่านตัวละครแจ็คและโรส

บทสนทนาของแจ็คบนโต๊ะอาหารค่ำสุดหรูนั้น เป็นบทสนทนาเรียบง่ายซึ่งสร้างเสียงหัวเราะ แต่เมื่อนำมาคิดต่อยอดดูแล้วจะพบว่านี่คือมุมมองการใช้ชีวิตที่มีคุ้มค่าจน น่าอิจฉา การกำกับฉากภาพและเทคนิคพิเศษ ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นไปกับการเอาชีวิตรอดของผู้คึนบนเรือในทุก ครั้ง แม้ว่าภาพเหล่านี้จะผ่านสายตามาหลายครั้งแล้วก็ตาม

ในยุคปัจจุบัน แม้ Avatar ผลงานล่าสุดของเจมส์ คาเมรอน จะสามารถทำรายได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกแทนที่ Titanic แต่ความยอดเยี่ยมและเป็นขวัญใจมหาชน คงไม่มีหนังเรื่องใดสามารถเทียบเคียงกับ Titanic ได้

หากคุณเคยสัมผัสกับภาพยนตร์ Titanic แต่ไม่ใช่ในโรงภาพยนตร์ นี่เป็นโอกาสของคุณแล้ว ยิ่งเสริมด้วยระบบ 3 มิติ เข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความประทับใจเกินกว่าจะบรรยาย…