หลังจากถูกขนานนามให้เป็นสนามอาถรรพ์สำหรับสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง รังเหย้าอันตรายของทีม ''แข้งเทพ'' แบงค็อก ยูไนเต็ด เนื่องจากสถิติการลงเล่นที่ไม่เคยคว้าชัยชนะได้เลยใน 20 นัดหลังสุด

         นับเฉพาะในลีก ประกอบกับการประเดิมพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกทันทีที่กลับมาใช้ในฤดูกาลนี้ ทำให้สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กลายเป็นสังเวียนแข้งที่หลายคนยกให้เป็นสนามที่ไม่ถูกโฉลกกับทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ไปแล้ว

 
        อาถรรพ์ดังกล่าวบังเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุมบังเหียนตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา ช่วงแรกบอร์ดบริหารแข้งเทพไม่เชื่อเรื่องของอาถรรพ์ โดยเชื่อว่าน่าจะอยู่ที่ผลงานในสนามของนักกีฬามากกว่า ซึ่งทางสโมสรพยายามหาทางแก้ปัญหานี้ด้วยการให้ทีมมาซ้อมที่สนามแห่งนี้ให้บ่อยครั้งที่สุด เพื่อนักเตะจะได้เกิดความคุ้นเคยกับสภาพสนามมากที่สุด

         แต่แล้วผลงานก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น กระทั่งได้จัดงานบวงสรวงและทำบุญสนามไทย-ญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดความสบายใจ เมื่อวันที่ 20 ส.ค ปีที่ผ่านมา ก่อนเกมที่จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี ภายใต้คอนเซปต์ "ไม่เชื่อ..อย่าลบหลู่"

         ทว่าอาถรรพ์ดังกล่าวก็ยังไม่หมดไป พวกเขายังคงต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ความผิดหวังลุกลามบานปลายไล่มาจนถึงฤดูกาล 2012 ภายใต้การกุมบังเหียนของ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ อดีตกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ของจากการท่าเรือฯและบุรีรัมย์ฯ แต่ก็ไม่สามารถเอาตัวรอดจากไสยศาสตร์ที่ครอบงำรังเหย้าแห่งนี้ได้ โดยเปิดหัวด้วยการพ่ายพัทลุง เอฟซี 2-4 และต่อด้วยการเจ๊งคาบ้านต่อราชบุรี มิตรผลฯ 0-1

         อย่างไรก็ตาม ล่าสุด "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ได้ออกมาประกาศิตก่อนลงสนามพบกับ "กระต่ายป่า" จันทบุรี เอฟซี ว่าหากไม่สามารถล้างอาถรรพ์ได้ จะไม่ปล่อยลูกทีมไปเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ เล่นเอานักเตะเต้นผางกันยกใหญ่ ก่อนที่จะรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวหวังพิชิตอาคันตุกะจากฝั่งตะวันออกให้ได้

         จะด้วยอาถรรพ์หรือสวรรค์แกล้งไม่ทราบ ระหว่างเกมการแข่งขันพระพิรุณเล่นตลกส่งน้องฝนกระหน่ำลงมาโปรยปรายท่วมสนามไทย-ญี่ปุ่นอย่างหนัก เล่นเอาไฟสนามดับลงไปกว่า 15 นาทีกันเลยทีเดียว!

         แต่แล้วทันทีที่แสงสว่างจากหลอดไฟกลับมาสาดส่องลงบนฟลอร์หญ้าอีกครั้ง ขุนพลไอ้แอ้ดจากเมืองหลวงก็กรีธาทัพเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว ก่อนที่จะได้ "เทพปอง" และ "เจ้าชายกัสมี่" สวมบทฮีโร่ซัลโวคนละตุงช่วยให้ทีมเฉือนเอาชนะไปได้ 2-1 ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องจากแฟนานุแฟน "แข้งเทพ" ที่ลิงโลดด้วยความดีใจกลางสายฝน

         ด้าน "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ เปิดเผยว่า "ผมไม่รู้ว่าอาถรรพ์รังเหย้าหรืออะไรก็ตามจะมีจริงหรือไม่ แต่คงจะไม่ลบหลู่ และอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำในฐานะโค้ชคือต้องเร่งทำผลงานในสนามให้ดีที่สุด ซึ่งชัยชนะในบ้านนัดแรกเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอย และรู้สึกดีใจที่สามารถปลดล็อกได้สำเร็จ โดยหลังจากนี้ไปผมคิดว่าคะแนนยังไม่ห่างกันมากนัก สปิริตของทีมเรากลับมาแล้ว มั่นใจว่าพวกเราจะเดินหน้าเก็บแต้มเพื่อเป้าหมายในการเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกให้ได้" กุนซือจอมอหังการกล่าวอย่างมั่นใจ

         สิ้นสุดปฏิบัติการปลดล็อกคว้าชัยในบ้านของเหล่าบรรดาขุนพล "แข้งเทพ" ได้เฮกันดังๆ สมใจอยากรับเทศกาลปีใหม่ไทย...

         ฤๅหยาดฝนที่กระหน่ำโปรยปรายลงมาในสนามอาจจะกลายเป็นน้ำมนต์วิเศษช่วยชะล้างความอาถรรพ์ให้มลายหายไปพร้อมกับสายน้ำ จากนี้ไปใครจะรู้ว่าสนามไทย-ญี่ปุ่น อาจจะเปลี่ยนจากรังเหย้าอาถรรพ์..กลายเป็นนรกของทีมเยือนก็เป็นได้...