ศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ในเกมเอฟเอ คัพ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ต้องรอเช็กคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ แต่ตัวหลักอื่นๆ ยังอยู่กันครบ นำโดย 3 ประสานแนวรุก แกเร็ธ เบล, ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ขาดแค่บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แบ็กขวา ที่โดนแบน 3 นัด และพร้อมส่งผู้เล่นชุดเก่งลงสนาม นำโดยกัปตันทีม จอห์น เทอร์รี่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

ปรีวิวเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ

 วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน 2555

  สเปอร์ส - เชลซี

   เวลา 00.00 น.

    สนาม : เวมบลีย์

 
        ศึกดาร์บี้แมตช์อีกคู่ของรอบรองชนะเลิศฤดูกาลนี้ เป็นลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง สเปอร์ส กับ เชลซี ซึ่งกำลังเบียดบี้ลุ้นพื้นที่อันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีกกันอยู่ด้วย
 
 
        แฮ ร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือ ไก่เดือยทอง ผลงานช่วงหลังตกลงไปมากทีเดียว 8 นัดหลังสุดในลีก คว้าชัยเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น แถมเกมล่าสุดยังพ่ายคาบ้านต่อ นอริช 1-2

 
        สภาพทีมมีปัญหาที่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ยูเนส กาบุล มาเจ็บเข่าเพิ่ม ขณะที่ เล็ดลี่ย์ คิง ก็มีปัญหาเดิมๆ ที่เข่าต้องรอเช็กความฟิต ทำให้เหลือแค่ วิลเลี่ยม กัลลาส กับ ไรอัน เนลเซ่น เพราะ ไมเคิ่ล ดอว์สัน เจ็บข้อเท้าพักยาว

 
        แดนกลางก็มีปัญหาด้วย สกอตต์ พาร์เกอร์ หัวใจสำคัญ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าต้องเช็กความฟิต หากไม่พร้อม ซานโดร ก็ยังมีโอกาสดีกว่า เจค ลิเวอร์มอร์ ในการรับบทบาทกองกลางตัวตัดเกม

 
        นอกจากนี้ยังมี นิโก้ ครานชาร์ กองกลางเจ็บเข่าตอนซ้อม ต้องพลาดช่วยทีมร่วมกับพวกที่บาดเจ็บยาวอยู่ก่อนอย่าง เอเรลโญ่ โกเมส (เข่า), ทอม ฮัดเดิลสตัน (ข้อเท้า) และ เดวิด เบนท์ลี่ย์ (เข่า)

 
        การจัดทัพ 4-4-1-1 คาร์โล คูดิชินี่ ได้รับโอกาสเฝ้าเสาในบอลถ้วย แผงหลัง ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, ไรอัน เนลเซ่น, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ แดนกลาง อารอน เลนน่อน, สกอตต์ พาร์เกอร์, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล แนวรุก ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท อยู่ด้านหลัง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

 
        ทางฝั่ง โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือชั่วคราวของ สิงห์บลูส์ ทำผลงานคุมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านไปแล้ว 11 นัดรวมทุกรายการ คว้าชัยไปถึง 8 นัด เสมอ 2 และแพ้ 1 โดยเกมล่าสุดสะดุดเสมอ ฟูแล่ม 1-1

 
        สภาพทีม ดิ มัตเตโอ ได้ จอห์น เทอร์รี่ (ซี่โครง) กับ แอชลี่ย์ โคล (ข้อเท้า) ผ่านการทดสอบความฟิตทั้งคู่แล้ว หลังลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเรียบร้อยก่อนถึงเกมสำคัญที่ เวมบลีย์

 
        แต่ข่าวร้ายคือ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แบ็กขวา โดน เอฟเอ ลงโทษย้อนหลังข้อหาไปชก ฌอน มาโลนี่ย์ ตั้งแต่เกมกับ วีแกน ซึ่งผู้ตัดสินในเกมไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ เอฟเอ สั่งแบน 3 นัด หลังพิจารณาจากภาพช้า

 
        กำลังเสริมอย่าง ไรอัน เบอร์ทรานด์ แบ็กซ้ายดาวรุ่ง กับ โอริโอล โรเมอู กองกลางชาวสเปน บาดเจ็บน่องและป่วย (ตามลำดับ) หมดสิทธิ์ช่วยทีมเกมนี้

 
        ระบบการเล่น 4-3-1-2 ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลัง โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลาง รามิเรส, จอห์น โอบี มิเคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด แนวรุก ฆวน มาต้า ยืนหน้าต่ำอยู่หลังคู่หน้า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
 
        สเปอร์ส : คาร์โล คูดิชินี่ - ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, ไรอัน เนลเซ่น, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - อารอน เลนน่อน, สกอตต์ พาร์เกอร์, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล - ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท - เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

 
        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, จอห์น โอบี มิเคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฆวน มาต้า - แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

 
        ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน

 
        ไก่-สิงห์ฉะกันในเอฟเอ คัพ สุดสูสี

 
        สถิติการพบกันของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กับ เชลซี ในศึกเอฟเอ คัพ ถือว่าสูสีสุดๆ ผลัดกันแพ้ชนะทีมละ 4 นัดเท่ากัน ซึ่งการพบกันหนล่าสุดเกิดขึ้นในฤดูกาล 2006-07 สิงโตน้ำเงินคราม เป็นฝ่ายคว้าชัยในนัดรีเพลย์

 
        เกมเอฟเอ คัพ เมื่อซีซั่น 2006-07 ทั้งสองทีมเสมอกัน 3-3 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก่อนที่ เชลซี จะบุกไปชนะ 2-1 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน ในนัดรีเพลย์ จึงพลิกสถานการณ์ผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ ขณะที่เกมรอบรองชนะเลิศทั้งคู่ไม่เคยพบกันมาก่อน

 
        ผลงานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ก็สูสี ทั้งคู่เสมอกัน 1-1 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน และเสมอกัน 0-0 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ และย้อนกลับไปอีก 1 ฤดูกาล เชลซี ก็ไม่พบกับความพ่ายแพ้อีกเช่นกัน