"ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) สู้เต็มที่แต่ต้านความแกร่งของเจาถิ่นไม่ไหวโดน ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส (เกาหลีใต้) เปิดรังย้ำชัยไปอีกครั้ง 3-2 ในศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดที่ 4 ที่สนามชอนจู เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม

                                                    ศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012

                                                             รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดที่ 4

                                                               วันอังคารที่ 17 เมษายน 2555

                                      ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส (เกาหลีใต้) 3-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย)



        สนาม : ชอนจู เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม


        ศึกฟุตบอล เอเชีย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 เป็นเกมนัดที่ 4 ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยกลุ่ม เอช ยอดทีมของไทย "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มี 6 แต้ม นำจ่าฝูงของกลุ่ม มีคิวบุกไปเยือน ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส แชมป์เคลีก จากเกาหลีใต้ ที่มีอยู่ 3 แต้ม อยู่บ๊วยของกลุ่ม


        ผลงานที่ผ่านของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะมา 2 เกมแรกเหนือ คาชิว่า เรย์โซล 3-2 และบุกไปอัด กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ถึงถิ่น 2-1 ก่อนนัดที่ 3 มาแพ้คารังต่อ ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส 0-2 มี 6 คะแนนเต็มนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วน ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส แพ้รวด 2 เกมต่อ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ และ คาชิว่า เรย์โซล ด้วยสกอร์ 1-5 ทั้งสองเกม ก่อนบุกไปชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 ทำให้จมบ๊วยมีแค่ 3 คะแนน


        โดยในเกมนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วางแผนมาในระบบ 4-4-2 วาง 2 แฟร้งค์ คู่หน้า อาเชียมปง จับคู่กับ โอแฮนด์ซ่า แดนกลางเป็นหน้าที่ของ สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม ด้าน จิรวัฒน์ มัครมย์ ยืนริมขวา พร้อมวาง สุมัญญา ปุริสาย ริมเส้นซ้าย แนวรับ ธีราทร บุญมาทัน ติดโทษแบน ต้องส่ง สุรัตน์ สุขะ ลงมาเล่นแทนร่วมกับ ประทุม ชูทอง, เฮอร์แมน เอควัลล่า และ อภิเชษฐ์ พุฒตาล กัปตันทีม ด้าน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสาเช่นเดิม
 

        ส่วน ชนบุก ฮุนได ดีกรีรองแชมป์เก่าถ้วยนี้เมื่อปีที่แล้ว นำโดย ลี ฮุน ซิล หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ตั้งเป้าเกมนี้จำเป็นที่จะต้องเอาชนะให้ได้อีกครั้งเพื่อโอกาสในการลุ้นเข้ารอบหลังจากที่ฟอร์มใน 3 เกมแรกไม่ดีนัก โดยเกมนี้ใช้นักเตะที่ดีที่สุดลงสนามพร้อมหน้าพร้อมตา นำทัพโดย ลี ดอง กุ๊ก หัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้ และ คิม ซาง ซิค ปราการหลังกัปตันทีม


เปิดฉากมาเป็นฝั่ง ชนบุก ฮุนได ที่บุกใส่ก่อนเลย และมีโอกาสจบสกอร์จาก ลี ซุง ฮุน แต่บอลเบาไปเข้ามือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวาร "ปราสาทสายฟ้า"

เกมผ่านไป 10 นาที เกมยังเป็นของ ชนบุก ฮุนได ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มีโอกาสมากนัก

บูรีรัมย์ ยูไนเต็ด พยายามโตกลับทางรอมเส้นแต่ยังขาดความแม่นยำบอลเลยยังไม่ถึงคู่ศูนย์หน้า

 แต่กลายเป็น บูรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่บุกมานำก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อทำเกมขึ้นมาทางกราบขวาของ แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า ก่อนที่จะเปิดไปหน้าประตูให้ แฟร้งค์ อาเชียมปง ที่รออยู่ในเขตโทษ แต่หัวหอกชาวกานาเปิดบอลผิดเหลี่ยมบอลย้อยข้ามหัว คิม มิน ซิค โกล์เจ้าถิ่นก่อนเสียบคานเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ในนาทีที่ 20 บูรีรัมย์ฯ นำ 1-0

 แต่อีก 5 นาทีต่อมา ชนบุก ฮุนได มาตีเสมอทันควัน จากจังหวะซัดไกลเต็มข้อระยะ 25 หลา ของ ลี ดอง กุ๊ก หัวหอกจอมเก๋า บอลไซด์หนีมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าประตูอย่างสวยงามเช่นกัน เจ้าถิ่นตีเสมอ 1-1

 ไม่อึดใจกลายเป็นแชมป์เคลีกที่พลิกกลับมานำอย่างรวดเร็วใน 2 นาทีต่อมา เมื่อการเดินเกมทางกราบขวาของ ชอง ควาน วาน ก่อนเปิดมาในเขตโทษให้ ลี ดอง กุ๊ก อดีตศูนย์หน้าทีมชาติเกาหลีใต้เจ้าเก่า  วอลเลย์แบบไม่จับตูมเดียวบอลพุ่งวาบเข้ากองก้นตาข่าย ชนบุก ฮุนได แซงนำ 2-1

หลังจากเสีย 2 ประตูในช่วงไม่นาที บูรีรัมย์ ยูไนเต็ด เร่งเกมบุกเข้าใส่หวังทวงประตูคืน แต่การเข้าทำยังไม่เด็ดขาดพอ

 นาทีที่ 37 แชมป์จากไทย เปลบี่ยนตัวคนแรกโดยส่ง อาสก้า จาดิเกรอฟ ห้องเครื่องอุซเบกิสถาน ลงมาแทน สุมัญญา ปุริสาย ที่เล่นไม่ออก

นาทีถัดมา จิรวัฒน์ มัครมย์ ได้ลองยิงไกลร่วม 35 หลา แต่บอลยังไม่ตรงกรอบเหินข้ามคานไปอีก

เวลาที่เหลือไม่มีทีมไหนทำอะไรได้ หมดครึ่งแรก ชนบุก ฮุนได ขึ้นนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-1

เข้าสู่ครึ่งหลังเป็น บูรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะลูกเตะมุม และเป็น สุเชาว์ นุชนุ่มเปิดมาให้ เฮอร์แมน เอควัลล่า โหม่งแต่โดนบางไปบอลหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

 แต่ในที่สุด บูรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มาตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อจากจังหวะทำชิ่งของสองผู้เล่นต่างชาติ แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า กับ อาสก้า จาดิเกรอฟ ก่อนเป็น โอแฮนด์ซ่า ที่ซัดในกรอบเขตโทษบอลพุ่งเข้าประตูสำเร็จ เสมอกันแล้ว 2-2 ในนาทีที่ 55

นาทีถัดมา ลี ดอง กุ๊ก ได้โอกาสวอลเลย์ด้วยซ้ายในเขตโทษแต่บอลหลุดเสาสองไปอย่างได้ลุ้น 

ผ่านมาครบชั่วโมง เกมเกิดแลกกันสนุก แต่ทั้งสองทีมยังไม่จังหวะจบสกอร์มากนัก บอลอยู่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่

นาทีที่ 75 จักรพันธ์ แก้วพรม ได้บอลจากกลางสนามบอลหลุดมาในเขตโทษ ก่อนที่กองกลางตัวเก่งชิพบอลไปทางเสาสองแต่โดนบอลไม่ดีหลุดเสาออกไปไม่ได้ลุ้น

 แต่เป็นเจ้าถิ่นที่ขึ้นนำอีกครั้ง หลังลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายบอลหลุดมาทางเสาสอง และเป็น โช ซุง วาน ที่ยิงบอลชนเสากระดอนมาเข้าทาง ปาร์ค วอน แจ ยิงเต็มข้อโล่งๆ บอลพุ่งเข้าประตูชนิดที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน หมดสิทธิ์รับ ในนาทีที่ 80

 3 นาทีถัดมา ปาร์ค วอน แจ มาโดนใบเหลืองหลังเข้าบอลหนักใส่ผู้เล่นทีมเยือน และเป็นลูกฟรีคิกระยะทำการของ จิรวัฒน์ มัครมย์ แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล

เกมเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย "ปราสาทสายฟ้า" พยายามบุกทวงประตูคืน แต่เกมรับเจ้าถิ่นยังคงป้องกันได้ดี

เวลาที่เหลือเจ้าถิ่นครองเกมไว้ได้หมดก่อนจบ 90 นาที ชุนบุค ฮุนได (เกาหลีใต้) ย้ำชัยเอาชนะ บูรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) ไปอีกครั้ง 3-2

        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


        ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส (4-4-2) : คิม มิน ซิค, คิม ซาง ซิค, โช ซุง วาน, ลิม ยู วาน, ชอง ควาน วาน, ปาร์ค วอน แจ, ลี ซุง ฮุน, โซ ซัง มิน, เอนิโอ โอลิเวียร่า จูเนียร์, หลุยส์ เฮนริเก้ ดา ซิลวา อัลเวส, ลี ดอง กุ๊ก


        บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (4-4-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ประทุม ชูทอง, เฮอร์แมน เอควัลล่า, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, สุรัตน์ สุขะ, จักรพันธ์ แก้วพรม, สุเชาว์ นุชนุ่ม, จิรวัฒน์ มัครมย์, สุมัญญา ปุริสาย, แฟร้งค์ อาเชียมปง, แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) จะออกไปเยือน คาชิว่า เรย์โซล (ญี่ปุ่น) เวลา 17.00 น. ส่วน กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ (จีน) จะเปิดรังรับมือ ชนบุก ฮุนได (เกาหลีใต้) เวลา 18.30 น. ในวันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2555