ศึกแห่งศักดิ์ศรีบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในเกาะอังกฤษระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่หมายมั่นปั้นมือกับรายการนี้ยิ่งนักเตรียมจัดทัพใหญ่โดยสองคู่หน้า หลยุส์ ซัวเรซ กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ จะผนึกคมแข้งหวังลาต่าข่ายคู่ต่อกร "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่จะจัดเต็มเช่นกัน โดย ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา น่าจะถูกวางให้เป็นดาวล่าตัวเป้า ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 5 พ.ค. ศกนี้

ปรีวิว ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2555

สนาม : เวมบลีย์

        ศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงปีนี้ สิงโตน้ำเงินคราม ที่เข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกรายการ เจอกับ หงส์แดง เจ้าของแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาลนี้

        โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม สถานการณ์ในลีกย่ำแย่ลงอีก เมื่อพ่ายคาบ้านต่อ นิวคาสเซิ่ล 0-2 เมื่อวันพุธ อยู่อันดับ 6 ตามหลังอันดับ 4 และ 5 ห่างออกไปเป็น 4 แต้มแล้ว

        สภาพทีมยังขาด ดาวิด ลุยซ์ กับ แกรี่ เคฮิลล์ ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทั้งคู่ โดยหวังว่าทั้งสองจะกลับมาซ้อมได้สัปดาห์หน้า เพราะเป้าหมายสำคัญอยู่ที่นัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก

        ตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหา ดิ มัตเตโอ จะเรียก ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฆวน มาต้า และ แอชลี่ย์ โคล กลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด หลังพักเป็นสำรองในนัดล่าสุด

        การจัดทัพ 4-4-1-1 ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แนวรับ โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลาง รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ราอูล เมยเรเลส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด แดนหน้า ฆวน มาต้า เป็นหน้าต่ำ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา เป็นตัวเป้า

        ทางด้าน เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ หงส์แดง มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นในลีกต่อเนื่อง ล่าสุดพักตัวหลักเพียบในเกมที่พ่ายคาบ้านต่อ ฟูแล่ม 0-1 เมื่อวันอังคาร ทำให้ต้องรักษาอันดับ 8 สุดชีวิตใน 2 นัดสุดท้าย

        สภาพทีมของ หงส์แดง เวลานี้ถือว่าสมบูรณ์สุดๆ ขาดเพียง ชาร์ลี อดัม กองกลางที่เจ็บเข่า หมดสิทธิ์ช่วยทีมในฤดูกาลนี้เท่านั้น ที่เหลือไม่มีปัญหาให้ต้องปวดหัวเลย

        ตัวหลักอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โฆเซ่ เรน่า, หลุยส์ ซัวเรซ, เกล็น จอห์นสัน และ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ จะกลับคืนตัวจริงทั้งหมด หลังพักใช้งานไปเลยในเกมที่ แอนฟิลด์ นัดล่าสุด

        ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แผงหลัง เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ กองกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเปียริ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง คู่หน้า หลุยส์ ซัวเรซ จับคู่ แอนดี้ แคร์โรลล์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ราอูล เมยเรเลส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฆวน มาต้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา

        ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเปียริ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - หลุยส์ ซัวเรซ, แอนดี้ แคร์โรลล์

        ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

หงส์ไม่กลัวสถิติช่วงหลังเหนือกว่าสิงห์

        ลิเวอร์พูล ทำผลงานยอดเยี่ยมเกินคาดในการเผชิญหน้ากับ เชลซี สองฤดูกาลหลังสุด เพราะ หงส์แดง คว้าชัยชนะรวด 4 นัดติด ยิงได้ 7 ประตู เสียแค่ลูกเดียวเท่านั้น ที่สำคัญ 3 ใน 4 ยังเป็นการบุกชนะที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วย

        ฤดูกาลที่แล้ว หงส์แดง เอาชนะ สิงโตน้ำเงินคราม ได้ทั้งเหย้าและเยือน ส่วนฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล เริ่มต้นด้วยการบุกชนะที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก และยังบุกชนะอีก 2-0 ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศด้วย

        ส่วนการพบกันในเอฟเอ คัพ ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นฤดูกาล 2005-06 ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ เชลซี 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเกมนั้นใช้สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นสนามกลางแทน เวมบลีย์ ที่อยู่ในช่วงปิดปรับปรุง