สโมสรระนอง เอฟซี ทำงามหน้า แฟนบอลก่อเหตุจลาจล ฮือลงสนามไล่ทำร้ายกรรมการ เหตุไม่พอใจคำตัดสินพร้อมกับปิดล้อมสนามนานกว่า 6 ชั่วโมง ในศึกฟุตบอลเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ที่ต้อนรับการมาเยือนของสตูล ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา...

สาโรจน์ คชาเศรษฐ์ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำ จ.ระนอง รายงานว่า การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ ระหว่างทีมสโมสรระนอง เอฟซี กับ ทีม สตูล ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬาจังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น เมื่อกองเชียร์ของทีมระนอง เอฟซี ไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของกรรมการผู้ตัดสิน โดยในนาทีที่ 72 ได้เกิดเหตุจลาจลขึ้น เมื่อแฟนฟุตบอลและสตาฟฟ์โค้ชทีมระนอง ไม่พอใจการตัดสินของนายพงษ์ศักดิ์ เอียดแก้ว ที่มองว่าไม่ทันเกม และตัดสินเอนเอียง เริ่มจากนายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสร และผู้จัดการทีม ที่ไม่พอใจจังหวะที่ทีมสตูล ยูไนเต็ด ได้ลูกฟรีคิกระยะ 18 หลา ขณะที่ผู้เล่นของทีมสตูลกำลังจะนำฟุตบอลไปวางเพื่อเตะฟรีคิก แต่ปรากฏว่านักเตะของทั้งสองทีมเกิดปะทะกันที่แนวกำแพง และ "สเตลรี" ผู้เล่นของทีมระนอง หมายเลข 23 ล้มลง โดยแสดงอาการส่งสัญญาณเพื่อบอกว่า ถูก "ปิยณัฐ เกื้อคลัง" นักเตะสตูล ต่อยที่หน้า จนกรรมการหยุดเกมไป 5 นาที ก่อนจะแข่งขันต่อ โดยไม่มีการลงโทษให้ใบเหลือง หรือใบแดงกับฝ่ายใด

ต่อมาผู้ตัดสินได้ให้สตูลเล่นเตะฟรีคิกทันที จนกลายเป็นประตูตีเสมอเป็น 1-1 โดยผู้บาดเจ็บของทีมระนองยังไม่ทันกลับมาในสนาม ทำให้นายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรระนอง เอฟซี พร้อมแฟนบอล ไม่พอใจการตัดสินอย่างรุนแรง วิ่งไปคว้าไมค์จากพิธีกรกลางสนาม พร้อมสั่งให้ผู้เล่นทีมระนองหยุดเล่น

โดยนายวรานนท์ กล่าวว่า การตัดสินที่เกิดขึ้นทั้งในจังหวะล่าสุดและก่อนหน้านี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงกลุ่มมาเฟียฟุตบอลที่เข้ามาบงการ และต้องการให้ผลการแข่งขันได้ประโยชน์กับทีมใหญ่บางทีม ซึ่งตนยอมไม่ได้ที่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เพราะจะทำให้วงการฟุตบอลไม่พัฒนา เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นหลายครั้งทั้งดิวิชั่น 2 และดิวิชั่น 1 ปัญหาไม่ได้เกิดจากผู้เล่น แต่เกิดจากชนวนเหตุการตัดสินของกรรมการที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

จากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้เชิ้ตดำต้องตัดสินเป่านกหวีดพักการแข่งขัน เพื่อให้มีการคลี่คลายสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งในจังหวะนั้น นายวรานนท์ได้กล่าวโจมตีการทำงานของกรรมการเป็นระยะๆ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดเมื่อแฟนบอลเริ่มตะโกนด่าทอนายพงษ์ศักดิ์ที่ตัดสิน ค้านสายตา รวมถึงอยากจะให้กรรมการมีการดูเทปที่บันทึกไว้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น อย่างไร เพื่อจะได้ตัดสินถูกต้อง จากนั้นเกิดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ทีมระนอง และกลุ่มแฟนบอลกับทีมคณะกรรมการผู้ตัดสิน ทำให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ต้องเรียกกำลังตำรวจกว่า 100 นาย เข้ามาเสริม และกันตัวนักฟุตบอลทีมระนอง เอฟซี กับทีมสตูล ยูไนเต็ด พร้อมทั้งผู้ตัดสินที่อยู่บริเวณกลางสนามฟุตบอลออกไป

ในขณะนั้น ตำรวจรวมถึงคณะกรรมการควบคุมการแข่งขัน พยายามพูดคุยกับนายวรานนท์ เพื่อหาทางออก แต่นายวรานนท์ไม่ยอม โดยอ้างว่าทีมไม่ได้รับความเป็นธรรม ต่อมาในเวลา 21.00 น. นายวรานนท์ได้ขอร้องให้แฟนบอลเปิดทางให้ผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ทีมสตูล ยูไนเต็ด ออกจากสนามเพื่อเดินทางกลับบ้าน และหลังจากที่ผู้เล่นทีมสตูล ยูไนเต็ด ออกพ้นจากสนาม นายวรานนท์กลับบอกให้แฟนบอลทีมระนอง เอฟซี เข้าไปในสนามเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการตัดสิน จนเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย เมื่อมีแฟนฟุตบอลบางคนที่ไม่พอใจและระงับอารมณ์ไม่อยู่ เปิดฉากไล่เตะผู้ตัดสิน จนวิ่งหนีกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ก่อนที่ ตำรวจและอปพร. จะกรูลงไปสนาม พร้อมกับนำตัวผู้ตัดสินไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงยังปิดทางเข้าออกสนาม ไม่ยอมให้กรรมการออกจากสนาม จนถึงเวลา 01.45 น. ร้อนถึง พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ต้องสั่งการให้เจ้าหน้าที่ระงับเหตุ และนำกรรมการทั้ง 4 คน ไปยังที่ปลอดภัย พร้อมกับประกาศว่า ให้ทุกคนเคารพกฎหมาย อย่าทำร้ายผู้ตัดสิน เพราะจะมีความผิด ระนองเป็นจังหวัดเล็กที่อยู่อย่างสงบสุข อย่ากระทำการใดๆ ที่ทำให้บ้านตัวเองเสียหาย การปิดล้อมของแฟนบอลจึงยุติลง