ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก กลุ่ม ดี

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2555

ยูเครน 2       -       1 สวีเดน

สนาม : โอลิมปิก สเตเดี้ยม (เคียฟ, ยูเครน)

 
 
        "เจ้าภาพร่วม" ยูเครน เกมนี้นำทัพโดยกัปตันทีม อังเดร เชฟเชนโก้ และมีอังเดร โวโรนิน เป็นคู่หูในแดนหน้า ขณะที่อนาโตลี ติโมชุค มิดฟิลด์สโมสรบาเยิร์น มิวนิค คอยบัญชาเกมในแดนกลาง

        ฝั่ง "ไวกิ้ง" สวีเดน เอริก ฮามเรน กุนซือของทีมวาง มาร์คุส โรเซนเบิร์ก เป็นหน้าเป้า โดยถอย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงตัวเก่ง เป็นหน้าต่ำ ทำเกมร่วมกับ เซบาสเตียน ลาร์สัน และ โอล่า ทอยโวเน่น

     เปิดฉากครึ่งแรกสวีเดนเป็นฝ่ายเขี่ยก่อน แต่เป็นยูเครนที่ได้โอกาสครั้งแรก ในนาทีที่ 4 เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า ขึ้นเกมมาทางซ้าย ก่อนจะลองกดด้วยขวา บอลหลุดกรอบออกหลังไป

     ผ่านไป 10 นาที เจ้าภาพทำเกมได้ดีกว่า แต่สวีเดน มาได้ฟรีคิก เยื้องมาทางขวา เซบาสเตียน ลาร์สัน เปิดโค้งมาหน้าประตู หวังให้ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แต่เป็น อังเดร เปียตอฟ ที่ออกมารับบอลไว้ได้ก่อนถึงหัว ซลาตัน

     จากนั้นนาทีต่อมา มีใบเหลืองแรกของเกม เมื่อโอเล็ก กูเซฟ แบ็กขวาของยูเครน เติมเกมเร็วขึ้นมา ก่อนถูก คิม คัลล์สตรอม ตัดเกมใส่ ผู้ตัดสินชาวตุรกีควักใบเหลืองให้ คัลล์สตรอม ทันที

     ถึงนาทีที่ 17 ทีมไวกิ้ง ขึ้นเกมมาทางขวา อิบราฮิโมวิช กึ่งยิงกึ่งเปิดมาหน้าประตู อังเดร เปียตอฟ นายด่าน ยูเครน ต้องพุ่งปัดออกมา มาเข้าทาง โอล่า ทอยโวเน่น แต่ดาวยิงพีเอสวี ดันจับบอลไม่ดี กระดอนไปเข้าทางกองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์ทิ้งไปได้

     ทั้งสองทีมเริ่มแรกเกมกันสนุก ยูเครน ได้จังหวะโต้มาบ้าง นาทีที่ 23 อังเดร ยาร์โมเลนโก้ แทงทะลุให้ อังเดร เชฟเชนโก้ หลุดไปยิงในกรอบเขตโทษด้านขวา แต่เจ้าตัวกดบดไป บอลเลยวิ่งผ่านเสาสองออกหลังอย่างหน้าเสียดาย

     ถึงนาทีที่ 31 เป็นโอกาสของสวีเดนบ้าง เมื่อมาร์คุส โรเซนเบิร์ก ได้พลิกตัวยิงในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ อังเดร เปียตอฟ

     ผ่านมาอีก 4 นาที ยูเครน รุกขึ้นมา คราวนี้ อังเดร โวโรนิน ได้จังหวะสับเต็มข้อกว่า 30 หลา ร้อนถึง อันเดรียส อิซัคส์สัน ที่ต้องออกแรงทุบออกไป

     และนาทีที่ 39 เป็นทีมไวกิ้งที่น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะที่ เซบาสเตียน ลาร์สัน เปิดบอลยาวจากขวามาที่เสาสอง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้ยืนโขกโล่งๆคนเดียว แต่บอลดันไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

     จากนั้นอีก 3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้าง โอเล็ก กูเซฟ เปิดจากริมเส้นฝั่งขวาไปเสาสองถึง เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า ทิ้งตัววอลเลย์ บอลเหินข้ามคานออกไป

     ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมยังรุกรับกันสนุก แต่ก็ยังทำประตูกันไม่ได้ จบครึ่งแรก ยูเครน เสมอ สวีเดน อยู่ 0-0

     ลงมาครึ่งหลัง ทั้งคู่เปิดเกมแลกกันทันที นาทีที่ 49 มาร์คุส โรเซนเบิร์ก หน้าเป้าของสวีเดน ได้หลุดไปซัดในกรอบเขตโทษคนเดียวเต็มๆ แต่เยฟเกนี่ เซลิน กองหลังยูเครน ทั้งตัวบล็อกไว้ได้หวุดหวิด

     แต่จากนั้นไม่นาน นาทีที่ 52 ขุนพลไวกิ้ง ก็ออกนำเจ้าถิ่นจนได้ 1-0 จากจังหวะที่ คิม คัลล์สตรอม ตบบอลเลียดจากซ้าย มาให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แปจ่อๆด้วยขวา ไม่เหลือ

     แต่ยูเครนก็ใช้เวลาไม่นาน อีกเพียง 2 นาที ก็ตามตีเสมอสำเร็จ 1-1 เมื่ออังเดร ยาร์โมเลนโก้ ได้บอลทางขวา ก่อนบรรจงเปิดมาให้ อังเดร เชฟเชนโก้ กัปตันทีม วิ่งโฉบตัดหน้าโอลอฟ เมลเบิร์ก โขกเข้าไปตุงตาข่าย

   เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าถิ่นดูเหมือนจะได้ใจ นาทีที่ 62 ก็พลิกขึ้นนำเป็น 2-1 จากจังหวะเตะมุม เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า เปิดมาที่เสาแรก และเป็น อังเดร เชฟเชนโก้ คนเดิม โหม่งเช็ดเสียบเสาเข้าไปไม่เหลือ

     จากนั้นนาทีเดียว เอริก ฮามเรน กุนซือสวีเดน เริ่มอยู่ไม่ได้ จัดการแก้เกมทันที โดยการส่ง อันเดอร์ส สเวนส์สัน ลงมาแทน โอล่า ทอยโวเน่น

     นาทีที่ 69 ทีมไวกิ้งเปลี่ยนคนที่ 2 ต่อทันที เอา เซบาสเตียน ลาร์สัน ดาวเตะซันเดอร์แลนด์ ออก แล้วให้ คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน ลงสนามแทน

     และดูเหมือนสวีเดน จะใช้ไม้ตายคนสุดท้าย นาทีที่ 71 จัดการถอด มาร์คุส โรเซนเบิร์ก ออก แล้วส่ง โยฮัน เอลมานเดอร์ ศูนย์หน้ากาลาตาซารายมาล่าตาข่ายแทน

     เกมของสวีเดน เริ่มดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนตัวคบ นาทีที่ 76 ก็น่าจะตีเสมอได้ เมื่อซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้ซัดด้วยขวาเต็มๆ แต่อังเดร เปียตอฟ นายด่าน ยูเครน ป้องกันไว้ได้หวุดหวิด

     นาที 82 ยูเครน ทำการเปลี่ยนตัวเป็นคนแรก เอา อังเดร เชฟเชนโก้ ที่เหมาคนเดียว 2 ลูกในเกมนี้ออกไปพัก แล้วส่งอาร์เต็ม มิเลฟสกี้ กองหน้าสโมสรดินาโม เคียฟ ลงมาแทน

     นาทีต่อมาสวีเดน มาโดนใบเหลืองคนที่สอง จากจังหวะที่ ราสมุส เอล์ม ไปตัดฟาวล์ใส่ อังเดร โวโรนิน

     นาทีที่ 84 เจ้าภาพ ก็เอา อังเดร โวโรนิน ออกไปพักทันที แล้วส่งรุสลัน โรตัน มาเสริมเกมในแดนกลางให้แน่นขึ้น

     นาทีสุดท้าย สวีเดน น่าได้ประตูตีเสมออีกครั้ง คราวนี้เป็น โยฮัน เอลมานเดอร์ ทำชิ่งกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ก่อนที่อดีตดาวยิงโบลตัน จะหลุดไปซัดด้วยซ้าย แต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น

     จากนั้นนาทีที่ 91 ยูเครน ก็ใช้เวลาเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง มาร์โค เดวิช ศูนย์หน้าเมตาลิสต์ คาร์คีฟ ลงไปแทน เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า

     และช่วงทดเวลาเจ็บออกไปอีก 3 นาที ทีมไวกิ้งได้ลุ้นอีกครั้ง จากการยิงของโอลอฟ เมลเบิร์ก ที่เติมขึ้นมายิง แต่ก็ข้ามคานออกไป แต่ก็ได้แค่นั้น จบ 90 นาที "เจ้าภาพ" ยูเครน เอาชนะ สวีเดน ไปอย่างสนุก 2-1 ขึ้นนำฝูงกลุ่ม ดี ทันที

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         ยูเครน : อังเดร เปียตอฟ - โอเล็ก กูเซฟ, ทาราส มิคาลิค, เยฟเกนี่ คาเชริดี้, เยฟเกนี่ เซลิน - อังเดร ยาร์โมเลนโก้, อนาโตลี ติโมชุค, เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า (มาร์โค เดวิช น.91) - เซอร์เก นาซาเรนโก้ - อังเดร โวโรนิน (รุสลัน โรตัน น.85), อังเดร เชฟเชนโก้ (กัปตันทีม) (อาร์เต็ม มิเลฟสกี้ น.87)
         สำรองที่ไม่ได้ใช้ : มักซิม โควัล (ผู้รักษาประตู), โอเล็กซานเดอร์ กอร์ไยนอฟ (ผู้รักษาประตู), โอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์, เดนิส การ์มัช, โอเล็กซานเดอร์ อลิเยฟ, เวียเชฟสลาฟ เชฟชุค, เยฟเกนี่ เซเลซนอฟ, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, บ็อกดาน บุตโก้

         ใบเหลือง : - 

         สวีเดน : อันเดรียส์ อิซัคส์สัน - มิคาเอล ลุสติก, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก, อันเดรียส กรานควิสต์, มาร์ติน โอลส์สัน - ราสมุส เอล์ม, คิม คัลล์สตรอม - เซบาสเตียน ลาร์สสัน (คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน น.68), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (กัปตันทีม), โอล่า ตอยโวเน่น (อันเดอร์ส สเวนส์สัน น.63) - มาร์คุส โรเซนเบิร์ก (โยฮัน เอลมานเดอร์ น.71)

         สำรองที่ไม่ได้ใช้ : โยฮัน วีลันด์ (ผู้รักษาประตู), พาร์ค ฮันส์สัน (ผู้รักษาประตู), โยนาส โอลส์สัน, โทเบียส ไฮเซ่น, มิคาเอล อันตอนส์สัน, ปอนตุส เวิร์นบลูม, เบห์รัง ซาฟารี, ซามูเอล โฮลเมน, เอมีร์ บายรามี่

         ใบเหลือง : คิม คัลล์สตรอม น.11, ราสมุส เอล์ม น.82 

         ผู้ตัดสิน : คูเนย์ต คาคีร์ (ตุรกี)