''รถเมล์-คะนึงนิจ'' รับดีใจได้ขึ้นแท่นนางเอกละครเต็มตัว ''ชิงนาง'' ปัดเป็นลูกรักโพลีพลัส ฟุ้งรักแฟนหนุ่มนอกวงการแฮปปี้ดี เผยบทแรงตัวพัวพันพระเอกถึง 4 คน ทำ ''แม็ค'' แฟนหนุ่มออกอาการหึงบ้าง ถึงแม้จะเข้าใจการทำงานก็ตาม

    ในที่สุดก็ได้ขึ้นแท่นนางเอกเต็มตัวซะที สำหรับนักแสดงสาวที่ดูจะสวยวันสวยคืน อย่าง ''รถเมล์'' คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ซึ่งข่าวล่าสุดที่ออกมาระบุว่าเธอถูกวางตัวเป็นนางเอกในละครพีเรียด ''ชิงนาง'' งานนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพบสาว ''รถเมล์'' ในงาน ''พี แอนด์ จี เมกะ โบนัส 2012'' ที่จัดขึ้นที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ วันก่อน จึงได้เข้าไปสอบถามข่าวดีของเจ้าตัวในเรื่องนี้ ซึ่งสาวรถเมล์ ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างสดใสว่า ละครเรื่องดังกล่าวได้ถ่ายทำไปได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยยอมรับว่าการรับบทใน ''ชิงนาง'' ถือว่าเป็นบทหินที่สุดที่ตนเองเคยเล่นมา นอกจากนี้ยังได้เล่าว่ามีเกิดอุบัติเหตุเล็กๆในกองถ่ายด้วย
         

    ''ถ่ายไปประมาณครึ่งนึง แต่ว่าละครจะออนแอร์แล้ว ปลายเดือนนี้ค่ะ ถือว่าเป็นบทแรงที่สุดในชีวิต เพราะว่าต้องเล่นกับหนุ่มๆ ถึง 4 คนด้วยกัน จริงๆ มันคล้ายๆกับสิ่งที่เคยเล่นมา แต่บทดรามาจะเยอะมาก เพราะต้องเล่นกับหนุ่ม 4 คน แคแรกเตอร์แต่ละคน ความรู้สึกจะคนละแบบ คนนึงคิดแบบพี่ คนนึงคิดแบบแฟน คนนึงคิดแบบน้อง คนนึงสงสาร อยากให้ไปดูค่ะ มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้ทำไมเราต้องไปอยู่กับคนนี้ แล้วต้องไปดูแลอีกคน มันมีเหตุผลในตัวมันเองหมดเลย ก็สนุกดีค่ะ อย่างก่อนหน้านี้ พี่อ๋อมก็จะมีข่าวอุบัติเหตุ เมื่อวานสดๆร้อนๆเลยค่ะ โดนกันทั้งคู่ จะมีแอ็กชั่น บู๊ ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน คือพี่อ๋อมอุ้มเราแล้วสะดุด มันพลาดเลยร่วงทั้งคู่ พี่อ๋อมก็เย็บไปเข็มนึงที่มือ รถเมล์ก็หลังถลอกเป็นแผล ก้นเจ็บ''

    
    ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงฉากเลิฟซีนในเรื่องว่ามีมากและร้อนแรงขนาดไหน ซึ่งสาวรถเมล์เผยว่า ''มีบทเลิฟซีนแต่ไม่ได้มากมายอะไร ส่วนที่ว่าร้อนแรงมากขนาดไหน เจ้าตัวประเมินว่าระดับกลางๆ''
         

    ''ก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าดูจากทั้งหมดไม่เยอะมากเท่าไหร่ เรื่องนี้จะย้อนอดีตกลับไป จะมีตัดสลับฉากอดีตกับปัจจุบันด้วย (ร้อนแรงไหม) กลางๆ ค่ะ น่ารักๆ มากกว่าค่ะ ก็ตื่นเต้นนะคะ ใกล้จะออนแอร์แล้ว อยากดูมากเหมือนกัน ตอนนี้มีคิวทุกอาทิตย์ค่ะ เป็นต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ด้วย''
    

    รับบทนางเอกเต็มตัวอย่างนี้ถือว่าขึ้นแท่นลูกรักของค่ายหรือยัง ผู้สื่อข่าวถาม นักแสดงสาว ชื่อเหมือนยานพาหนะกล่าวแบบถ่อมตนว่า ''ตนนั้นไม่คิดอย่างนั้น ที่ได้รับบทนี้เพราะบอสนิดให้โอกาสเพราะอยู่โพลีพลัสมานานแล้วมากกว่า''
    

    ''ไม่หรอกค่ะ อยู่โพลีพลัสมาตั้ง 7-8 ปีแล้ว มันก็ทำงานมานาน ตอนนี้พี่นิดคงเห็นว่าอายุขนาดนี้แล้ว อยู่มาหลายปี มีเวลาที่เราจะได้โอกาสอะไรใหม่ๆ พี่นิดก็คงให้ทำ ค่ะ ละครใกล้ออนแอร์แล้ว ต้องบอกว่าเรื่องนี้สนุกมาก บทสนุกมาก หลายคนอ่านบทอย่างเดียวแล้วยังร้องไห้ตาม ก็อยากให้ติดตามดู มันมีอะไรหลายอย่างให้ติดตามค่ะ''
    

    ผู้สื่อข่าวอัพเดตเรื่องความรักกับหนุ่มนอกวงการนามว่า ''แม็ค'' ต่อทันทีว่าความสัมพันธ์ไปถึงไหนแล้ว ซึ่งสาว ''รถเมล์'' กล่าวในทำนองที่ว่าความรักของตนนั้นปกติดี และยอมรับว่าความสัมพันธ์สามารถใช้คำว่าแฟนได้แล้ว
    

    ''ก็ดีค่ะ ปกติดีไม่มีอะไร แฮปปี้ดี (เรียกแฟนได้หรือยัง) ก็เรียกได้อยู่ ดูแลกันดีค่ะ ด้วยอายุที่ต่างกัน ด้วยการทำงาน มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องของการรู้จักกัน แต่พอดีว่าเป็นคนที่นิสัยคล้ายๆ กัน ชอบกินเหมือนกัน ก็เลยสนุก เอ็นจอยกับการกินไป''
    

    ส่วนเรื่องเวลาที่มีให้กันนั้นรถเมล์กล่าวว่าทั้งตนและแฟนหนุ่มนอกวงการไม่ค่อยได้มีเวลาให้กันเท่าไหร่นักเพราะต้องต่างคนต่างทำงานจะมีก็แต่หาเวลาทานข้าวกันเล็กๆน้อยๆ
         

    ''ส่วนใหญ่ก็เจอวันละนิด กินข้าวเย็นอย่างเดียว นอกนั้นก็คุยโทรศัพท์เอา ก็มีเวลาได้เจอกัน ก็หาเวลาได้ค่ะ (เขาเข้าใจในการทำงานของเราไหม) ก็เข้าใจนะ พี่เค้าก็ทำงานทุกวันจันทร์-ศุกร์ ส่วน เสาร์-อาทิตย์ เขาหยุด แต่บางทีรถเมล์ต้องทำงาน ก็หาเวลาแป๊บๆ กินข้าวกัน''
    

    เขาหวงบ้างไหม เราต้องเข้าฉากกับหนุ่มๆ ตั้ง 4 คนผู้สื่อข่าวย้อนถามเรื่องละคร กับเรื่องนี้สาวรถเมล์กล่าวยอมรับ แฟนหนุ่มนอกวงการของตนก็มีหวงบ้างถึงแม้จะเข้าใจในเรื่องงานของตัวเองก็ตาม
          

    ''รถเมล์ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง คือเขาเข้าใจว่าเราทำงานอะไร แต่บางครั้งคำว่าบทบาทในละครกับความรู้สึก มันก็มีบ้างนิดๆ เราก็คุยกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า เราเล่นละครต้องมีบทอย่างนี้นะ มีอะไรก็เล่าให้ฟัง เขาจะได้ไม่กังวลมากจนเกินไป คือรถเมล์เล่าหมดแล้วว่าเป็นยังไง ไม่ต้องถามเลย เขาก็บอกว่าโอเคๆ อย่ามากเกินไปนะ ถ้ามากเกินไปก็ไม่น่าจะดี (หวง) ใช่ค่ะ นิดนึง'' (เมื่อไหร่จะเปิดตัว) ''ก็ไม่ได้ปิดบังนะ ด้วยเราทำงาน หลายคนก็อาจจะไม่ได้เจอ แค่นั้นเองค่ะ''