“นายกยี” วรวีร์ มะกูดี ยังไว้ใจมอบหมายให้ ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ รับหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดอายุ 19 ปี ในการสู้ศึกฟุตบอล ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่อาบูดาบี ยูเออี เดือน พ.ย.นี้ โดยจะให้ “มาโนล โพลกิง” กุนซือลูกครึ่งเยอรมัน-บราซิล ของทีมชาติไทย ชุดยู-22 ที่เพิ่งตกรอบคัดเลือกที่ลาว เข้ามากุมบังเหียน คาดว่าจะเรียกนักเตะมาเริ่มฝึกซ้อมเตรียมทีมกันได้ในช่วงต้นเดือนหน้า ส.ค. ทางด้านทีมชาติไทยชุดใหญ่อาจชวดอุ่นแข้งในวัน “ฟีฟ่าเดย์” ตามที่กุนซือ “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ ต้องการ หลังโปรแกรมไทยพรีเมียร์ลีกในช่วงเลก 2 แน่นเอี๊ยด เพราะสมาคมฟุตบอลฯ และทีพีแอลต้องการให้ปิดฤดูกาลก่อนสิ้นเดือน ต.ค. เพื่อให้ทีมชาติได้มีเวลาฝึกซ้อมเต็มที่อย่างน้อย 1 เดือนเต็ม ก่อนลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย อายุ 19 ปี ที่มีโปรแกรมไปลุยศึกฟุตบอล 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงเดือน พ.ย.นี้ เพื่อจะคัดหา 4 ทีมตัวแทนทวีปเอเชียไปโม่แข้งฟุตบอล 20 ปีชิงแชมป์โลกในปีหน้า 2013 ต่อไป

ล่าสุด นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ในส่วนของเฮดโค้ชที่จะเข้ามาทำทีม 19 ปีชุดนี้ ตนได้มอบหมายให้มาโน โพลกิง กุนซือลูกครึ่งเยอรมัน-บราซิล ที่เพิ่งทำทีมชาติไทย ชุดอายุ 22 ปี ตกรอบคัดเลือกศึกชิงแชมป์เอเชีย รู่นยู-22 ที่ สปป.ลาว เข้ามารับหน้าที่ เพราะเจ้าตัวมีข้อมูลและรู้ถึงศักยภาพของตัวผู้เล่นไทยในระดับอายุรุ่นนี้พอสมควรแล้ว

ขณะเดียวกัน ตำแหน่งผู้จัดการทีม ก็ยังคงเป็น ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ รับหน้าที่ต่อไปเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง คาดว่าต้นเดือนหน้า (ส.ค.) ทางโค้ชมาโน ก็จะเรียกนักเตะ 19 ปีมาเริ่มรวมทีมฝึกซ้อมกัน

สำหรับการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทย ชุดเตรียมทำศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ในเดือน พ.ย.นี้ โดย “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ที่ต้องการโปรแกรมอุ่นเครื่องในทุกๆ เดือน ทว่าติดปัญหาเรื่องโปรแกรมไทยลีก ที่มีแข่งทุกสัปดาห์และไม่มีช่วงใดที่เว้นว่างให้ทีมชาติไทยได้เลย

ล่าสุด ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก ได้เผยว่า โปรแกรมไทยลีกได้กำหนดออกมาแล้ว ซึ่งไม่มีวันใดเว้นว่างให้กับทีมชาติได้อุ่นเครื่อง เนื่องจากวันที่วางโปรแกรมไทยลีก ได้เชิญตัวแทนของทีมชาติไทยมาร่วมวางโปรแกรม แต่ปรากฏว่า “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ ไม่ได้มาร่วมวางคิวเตะทีมชาติด้วยตนเอง จึงทำให้ตนได้ใส่โปรแกรมไทยลีกลงไป

ส่วน “ฟีฟ่าเดย์” หรือวันอุ่นเครื่องตามปฏิทินของฟีฟ่ากำหนดไว้คือ วันที่ 15 ส.ค. แต่วันดังกล่าวมีโปรแกรมฟุตบอลเอฟเอ คัพ ทำการแข่งขันด้วย ทำให้ไม่อาจเลื่อนได้ แต่หากทีมชาติไทยต้องการโปรแกรมอุ่นเครื่องในช่วงแข่งไทยลีกก็ไม่มีปัญหา แต่นั่นหมายความว่า วันปิดฤดูกาลก็ต้องเลื่อนออกไปจากเดิม 28 ต.ค. เป็นหลังจากนั้น ซึ่งจะส่งผลต่อการเก็บตัวของทีมชาติไทย

ทั้งนี้ ดร.วิชิต ได้เสนอความคิดเห็น โดยบอกว่า การที่ทีมชาติไทยได้เก็บตัวก่อนแข่งเป็นเวลานานๆ น่าจะมีผลดีมากกว่าการอุ่นเครื่องเดือนละครั้ง ดังนั้น เหตุผลที่ใส่โปรแกรมไทยลีกทุกสัปดาห์เพื่อให้ฤดูกาลปิดเร็วที่สุด เพื่อให้ทีมชาติไทยได้มีเวลาฝึกซ้อมเตรียมทีมสำหรับซูซูกิคัพ อย่างน้อย 1 เดือน.