สหราชอาณาจักร ต้องน้ำตาตกหลังเสมอ 'โสมขาว' เกาหลีใต้ ในเวลาปกติและต่อเวลาพิเศษ 1-1 แต่กลับมาพ่ายในการดวลจุดโทษ 4-5 ประตู ส่งผลให้ จีบี ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณที่ เกาหลีใต้ ผ่านเข้าไปตัดเชือกกับ เต็งจ๋า บราซิล ต่อไป ในศึกฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2012

รอบก่อนรองชนะเลิศ

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555

สหราชอาณาจักร 1   -   1 เกาหลีใต้

(เกาหลีใต้ชนะจุดโทษ 5-4)

สนาม : มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม , คาร์ดิฟฟ์ , เวลส์

        สจ๊วร์ต เพียร์ซกุนซือทีมเกรท บริเทนวางหมากในรอบน็อคเอาท์โดยยังดร็อปไรอัน กิ๊กส์เป็นตัวสำรองอีกนัดในการรับมือกับเกาหลีใต้ ทำให้เคร็ก เบลลามี่ได้รับภาระกัปตัน ขณะที่คู่กองหน้ายังเป็นดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ประสานงานกับสก็อตต์ ซินแคลร์ รวมแล้วเป็น 11 ตัวแรกที่สยบอุรุกวัยในเกมล่าสุด

        ด้านทีมกิมจิก็ใช้งานขุนพลชุดใหญ่ครบครันโดยดาวเตะตัวกลั่นล้วนออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทั้งสิ้น

        ดวลกันมาได้แค่ 6 นาที เกาหลีใต้ก็ต้องเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเมื่อคิม ชาง ซูถูกไรอัน เบอร์ทรานด์เข้าปะทะแล้วล้มเสียหลักจนข้อมือขวาเจ็บ ต้องเดินออกไปให้โอห์ เจ ซอกลงบู๊แทน

        อย่างไรก็ดี นาทีที่ 15 โสมขาวก็ทำเสียวได้ในจังหวะที่ชี ดอง วอนสบโอกาสพลิกบอลสับไกระยะ  20 หลา ทำเอาแจ็ค บัตแลนด์ต้องทะยานปัดให้พ้นกรอบ

        เกมของยักษ์เอเชียยังลงตัวกว่า และอีกสามนาทีต่อมาซินแคลร์ก็ลงไปช่วยเกมรับพร้อมทำฟาวล์เป็นลูกฟรีคิก ทางกราบขวาของเกาหลีใต้ซึ่งตักโด่งไปเสาสองให้พาร์ค ชู ยองโถมโขกเฉียดคานไปอย่างหวุดหวิด

        กระทั่งนาทีที่ 30 กองเชียร์จีบีก็ต้องสะอึกเมื่อนักเตะพลังโสมลำเลียงบอลเจาะขึ้นกราบซ้ายแล้ว จบที่ชี ดอง วอนได้ซัลโวเต็มเกือกจาก 23 หลาส่งบอลพุ่งแรงฝ่าจังหวะปัดของบัตแลนด์เสียบเสาไกลอย่างงดงามเป็นสกอร์นำ 1-0 ของทีมจากเอเชีย

        พอโดนเช็คบิล ทีมเจ้าภาพก็เริ่มเดินเกมรุก  และแค่หกนาทีให้หลังก็ได้ลูกโทษในจังหวะที่เบอร์ทรานด์ลุยขึ้นไปง้างยิงระยะ 25 หลาแล้วถูกโอห์ เจ ซอกทิ้งตัวสกัดในเขตโทษโดยบอลโดนแขน ทำให้ได้ใบเหลืองตามระเบียบพร้อมคี ซอง ยองที่ประท้วง และเป็นอาร่อน แรมซีย์ ที่รับอาสาสังหารบอลพุ่งแรงแขนนายทวารโสมตุงตาข่ายให้จีบีตีเสมอ 1-1

        เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 40  เจ้าภาพก็ได้ลูกโทษอีกหนเมื่อสเตอร์ริดจ์กระชากบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้ว ถูกกัปตันเกาหลีใต้คู ชา ซอลปราดเข้ายกขาดักล้ม  เป็น แรมซีย์ ที่รับบทสังหารจุดโทษอีกครั้งคราวนี้เปลี่ยนมุมไปทางขวา แต่ถูก ชอง ซอง รยอง ดักถูกทางล้มตัวปัดได้

        ถัดมาในนาทีที่ 42 คิม ยอง กวนได้ใบเหลืองอีกรายในจังหวะทำฟาวล์ก่อนที่เสียงนกหวีดจบครึ่งแรกจะดังขึ้น ทั้งคู่จึงเสมอกันไป 1-1

        เริ่มครึ่งหลังไปได้สิบนาที เกมก็ต้องชะงักไปนานเมื่อเจ้าภาพได้ลูกฟรีคิกแล้วไมกาห์ ริชาร์ดส์โถมเข้าชาร์จลูกโยนโด่งไปปะทะกับนายทวารโสมขาวจนล้มเจ็บด้วยกัน แต่สุดท้ายริชาร์ดส์ซึ่งเจ็บข้อเท้าขวากัดฟันลุกจากเปลลงไปเล่นต่อได้เช่น เดียวกับคู่กรณี

        อย่างไรก็ดี นาทีที่ 61 ริชาร์ดส์ก็ต้องโดนเปลี่ยนออกให้เคร็ก ดอว์สันลงไปรับช่วงแทน ขณะที่ชอง ซอง รยองก็ออกจากสนามให้อี บอม ยองลงไปเฝ้าเสา

        ถัดมาในนาทีที่ 71 โจ อัลเลนเตะสูงใส่นัม แต ฮีจึงได้ใบเหลืองติดตัว แต่สุดท้ายต่างก็ทำอะไรกันไม่ถนัดกระทั่งครบ 90 นาทีจึงเสมอกันไปด้วยสกอร์เดิม 1-1 ต้องเล่นกันต่ออีกครึ่งชั่วโมงเพื่อหาผู้ชนะ

        เริ่มเกมในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทีมโสมขาวได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 92 จากจังหวะที่คู ชา โชลได้ลูกแทงทะลุหลุดเข้ากดในเขตโทษ แต่บัตแลนด์เซฟได้เยี่ยม

        ถัดมาในนาทีที่ 103 เกาหลีใต้ได้ลูกเตะมุมด้านซ้ายแล้วชี ดอง วอนได้โขกเหน่งๆคนเดียวหกหลา แต่ส่งบอลโด่งข้ามคานไปเอง

        นาทีต่อมา ทีมกิมจิเปลี่ยนชี ดอง วอนออกให้เพก ซอง ทงลงเล่นแทนก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะจบสิ้น

        เขี่ยบอลใหม่ในครึ่งหลัง เกรท บริเทนส่งแดนนี่ โรสลงเล่นแทนซินแคลร์ แต่เกมยังไม่ดีขึ้น ครบ 120 นาทีสกอร์จึงเจ๊ากัน 1-1 ต้องดวลลูกโทษหาทีมชนะ

        ในการดวลความแม่นเป้าเจ้าภาพเสี่ยงทายเลือกซัดก่อนโดยแรม ซีย์อาสาเป็นหน่วยกล้าตายคนแรก และทำสำเร็จ ขณะที่กัปตันเกาหลีคู ชา  โชลก็ไม่พลาดสกอร์จึงเป็น 1-1

        ถัดมาเป็นทอม เคลฟเวอร์ลีย์ยิงตุงเช่นกัน ก่อนที่เพก ซอง ทงจะสังหารตีเสมอเป็น 2-2

        จากนั้นดอว์สันยิงไม่พลาดเป็นรายต่อมา ส่วนฮวาง ซก โฮก็หน้าที่ไม่พลาด สกอร์จึงเป็น 3-3

        รายต่อมากิ๊กส์ซึ่งเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายของเวลาปกติสังหารไม่เหลือ ขณะที่พัก จง อูก็กดให้ทีมกิมจิตีเสมอเป็น 4-4

        รายที่ห้าสเตอริดจ์ซัดไปโดนปัดได้ ก่อนที่กี ซอง ยงจะทำหน้าที่สำเร็จเป็นฮีโร่เขี่ยจีบีตกรอบพา เกาหลีใต้ เข้าตัดเชือกกับบราซิลด้วยสกอร์ในการยิงลูกโทษ 5-4 ในวันที่ 7 ส.ค.ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        สหราชอาณาจักร : แจ๊ค บัตแลนด์ , นีล เทย์เลอร์ ,ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (เคร็ก ดอว์สัน น.60)  , สตีเว่น คอลเกอร์ ,ไรอัน เบอร์ทรานด์ , อาร่อน แรมซีย์ ,โจ อัลเลน , ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ , เคร็ก เบลลามี่ (ไรอัน กิ๊กส์ น.85)  , สก็อตต์ ซินแคลร์ (แดนนี่ โรส น.106)  , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

        สำรอง : เจสัน สตีล  , เจมส์ ทอมกิ้นส์   , แจ็ค คอร์ก , มาร์วิน ซอร์เดลล์

        เกาหลีใต้ :ชอง ซอง รยอง (อี บอม ยองน.62) , ยุน ซอก ยอง , คิม ชาง ซู (โอห์ เจ ซอก น.6)  , ฮวาง ซอค โฮ , คิม ยอง กวน , คี ซอง ยอง , ชี ดอง วอน (เพก ซอง ทง น.104)  , นัม แต ฮี , พาร์ค ชอง วู , คู ชา โชล , พาร์ค ชู ยอง

        สำรอง : คิม โพ คยอง , คิม กี ฮี   , ชุง วูยอง , คิม  ฮยอง ซาง

        ผู้ตัดสิน : วิลมาร์ โรลดาน (โคลอมเบีย)

สรุปผล ฟุตบอลชาย โอลิมปิก รอบก่อนรองชนะเลิศ
- ญี่ปุ่น ชนะ อียิปต์  3 - 0
- เม็กซิโก ชนะ เซเนกัล  4 - 2
- บราซิล ชนะ ฮอนดูรัส  3 - 2
- สหราชอาณาจักร เสมอ เกาหลีใต้  1 - 1 (เกาหลีใต้ชนะจุดโทษ 5-4)