ประธานคณะกรรมการ โอลิมปิกแห่งประเทศไทย ตำหนิสมาคมกีฬาว่าเป็น ต้นเหตุที่ทำให้ไทยได้เหรียญ น้อยในโอลิมปิกครั้งนี้ โยน ให้ไปถามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องเงินสนับสนุนนักกีฬา และพร้อมจะจัดและ เข้าประชุมคณะกรรมการพัฒนากีฬา เพราะรู้ว่าจุดอ่อนหรือการพัฒนาไม่ทันของกีฬาไทยอยู่ตรงไหน...

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่นักกีฬาทีมชาติไทยได้เหรียญจำนวนน้อยในกีฬาโอลิมปิกว่า เมื่อได้เหรียญน้อย เราก็จะโดนด่า ซึ่งเรื่องเงินสนับสนุนให้นักกีฬานั้น ต้องสอบถามจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหากมีการประชุมคณะกรรมการพัฒนากีฬา ตนจะเข้าร่วมประชุมด้วย เพราะรู้ว่าจุดอ่อนหรือการพัฒนา ไม่ทันของการกีฬาไทยอยู่ตรงไหน

ประธาน อลป.ไทยกล่าวอีกว่า คิดว่ามวยสากลจะได้เหรียญทองแดง แต่หากไม่ชนะก็เลิกคบกัน ยอมรับว่าการที่มวยสากลสมัครเล่นของไทยไม่ชนะการแข่งขันนั้น เพราะ พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ อดีตนายกสมาคมมวยฯทะเลาะกับสหพันธ์มวยนานาชาติหรือไอบา ซึ่งการบริหารจัดการการทำงานแม้นักมวยจะเก่งเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ความเป็นนายกสมาคมต้องมีความแนบแน่นกับประธานไอบา ฝีมือของนักมวยไทยดี แต่มีอะไรบางอย่างเท่านั้น เห็นได้จากการชกของสายลม อาดี ที่ชกจนได้คะแนนเท่ากัน แต่ก็ถูกตัดสินให้แพ้ แสดงว่าบารมีต่อสหพันธ์ไม่ถึง แต่หากเป็นเทควันโดแม้คะแนนจะเท่ากัน เชื่อว่าจะชนะ แต่การจับสลากแบ่งสายพบแต่นักกีฬาที่เป็นแชมป์ทั้งนั้น เมื่อประกาศว่าเจอใครก็รู้ทันทีว่าได้เหรียญหรือไม่

กับคำถามว่า หากไทยได้แค่เหรียญเงินเท่านั้น จะปรับปรุงอย่างไร พล.อ.ยุทธศักดิ์ตอบว่า ต้องมาเสวนาคุยกันว่าความบกพร่องอยู่ตรงไหน แล้วใครที่รู้ตัวว่าบริหารจัดการสมาคมกีฬานั้นๆ ไม่ได้ ทำได้ไม่ดี หรือมาเป็นเพื่อหาชื่อเสียงให้กับตัวเองเท่านั้น ควรรู้จักเสียสละให้กับประเทศชาติด้วย นอกจากนี้ประธาน อลป.ไทยยังตำหนิการทำหน้าที่ของสมาคมมวยว่า การจะประท้วงผลการตัดสินคู่ของสายลม อาดี เพราะมี 12 คะแนนเท่ากัน แต่เมื่อจะประท้วงก็ไม่มีเงิน กลับไปยืมเงินสื่อมวลชน ซึ่งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารจัดการไม่เป็น ต้องเตรียมตัวมีหนังสือ กฎ ระเบียบของสหพันธ์มวยฯ และวางเงินมัดจำ 500 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่จัดประชุมคณะกรรมการพัฒนากีฬานั้น ทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศ ไทยก็จะจัดเสวนาแต่ละสมาคมเอง.