โต้กลับ! อาร์ท กันต์ระพี วิไลภรณ์ กรรมการ บริษัท แอบโซลูท ฟอ ยู จำกัด พร้อมด้วย นายธีระศักดิ์ อินต๊ะมา หอบหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชน และเอกสารใบกำกับภาษี ในเคสที่นางเอกสาว พลอย เฌอมาลย์ แฉบริษัทออแกไนซ์ดังกล่าวว่าจ่ายค่าตัวไม่ครบ เนื่องจากไม่พอใจที่มีการโพสต์ต่อว่าเธอในเฟสบุ๊คหลังร่วมงานกัน

         โดย อาร์ท เจ้าของบริษัท ได้ออกมาเปิดเผยว่าตนไม่ได้เป็นคนโพสข้อความต่อว่าทางนางเอก แจงโดนแฮกเฟสบุ๊คซึ่งรู้ตัวมือโพสต์แต่ขอสงวนชื่อ เปรยทาง มิว ผู้จัดการส่วนตัวของสาวพลอย รู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วด้วย ลั่นข้อความดังกล่าวไม่ได้ระบุชื่อแต่นางเอกซุปตาร์ร้อนตัวไปเอง

         ยันไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ไม่เข้าใจทำไมทางนางเอกสาวถึงใช้ชื่อชายวัน 70 กว่ามาให้ทำเอกสารในการหักภาษี รับจุดนี้เป็นช่องโหว่เพราะลูกค้าอยากได้ตัวสาวพลอยมาก ย้ำหลายรอบไม่ได้โกงค่าตัว โบ้ยทางสาวพลอย ไม่แจ้งมาเองว่าต้องจ่ายค่าตัวเป็นเงิน 150,000 บาทเน็ทๆ แจงทำไปตามกฎหมาย

         เผยออกมาพูดวันนี้เพราะต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตน และบริษัท ลั่นเรื่องที่เกิดทำชื่อเสียงบริษัทเสีย หมดความน่าเชื่อถือ ขู่ตนพร้อมจบ แต่ถ้าคู่กรณีไม่จบก็จะฟ้อง เปรยต้องการให้สาวพลอยออกมาถอนคำพูดเรื่องได้ค่าตัวไม่ครบ ไม่เคืองโดนด่าหมาขี้เรื้อน แต่ฝากอย่าใช้อารมณ์ ควรมีมารยาทกับคนในวงการเดียวกัน ก่อนโต้ไม่ต้องการเกาะกระแสดังทางนี้

          อาร์ท "ประเด็นแรกที่วันนี้อาร์ทออกมาพูดเพราะว่าไม่ได้อยากให้มันเป็นข่าวดัง ไม่ได้อยากให้มันมีเรื่องมีราวเกิดขึ้นนะครับแต่บังเอิญว่ากรณีของเรื่องนี้เนี่ยมันเกิดขึ้นบนเฟสบุ๊คนะครับที่เป็นเฟสบุ๊ค คือเดี๋ยวนี้สื่อสังคมออนไลน์มันรวดเร็วมากมันเลยเหมือนกับว่าถึงกับพี่ๆ สื่อนักข่าวอย่างรวดเร็ว วันนี้อาร์ทก็เลยอยากจะออกมาแก้ข่าวสักหน่อยนึง"

          อาร์ท "ประเด็นหลักๆ ที่อาร์ทอยากจะออกมาแถลงเนี่ยก็คือว่า อาร์ทอยากบอกว่าบริษัทของอาร์ทเนี่ยไม่ได้โกงเงินพลอยนะครับ อาร์ทจ้างพลอยมาในราคาแสนห้าจริงๆ แล้วก็มีการหักภาษีเกิดขึ้นสี่พันห้าร้อยบาท เท่านั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ด้วยเนื้อข่าวที่ออกมานะครับมันเหมือนกับว่าอาร์ทเนี่ยจ่ายเงินพลอยไม่ครบ อาร์ททำเรื่องให้พลอยโกรธมาก เหมือนกับว่าอาร์ทไปทำผิดถูกต้องไหมครับ"

         อาร์ท "มันมีเนื้อความที่บอกว่าพลอยไม่เอาเรื่องก็ดีอยู่แล้ว ถามหน่อยสิครับว่าจะมาเอาเรื่องอาร์ทเนี่ย มาเอาเรื่องอะไร ผิดตรงไหนใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ก็เลยอยากจะมาอธิบายให้ทราบว่าเรื่องราวจริงๆ แล้วเป็นยังไงนะครับ"

        อาร์ท "จริงๆ แล้วเนี่ยครับเรื่องของการตกลงเริ่มแรกเลยเนี่ยนะครับ เป็นการตกลงจากอาร์ท กับคุณมิวที่เป็นผู้จัดการของคุณพลอย เฌอมาลย์ คุยกันว่าจะมีงานนี้เกิดขึ้นนะครับ แต่ว่าราคาพลอยกับคิวเนี่ยเท่าไหร่ คิวเนี่ยว่างเมื่อไหร่ใช่ไหมครับ เสร็จแล้วปุ๊บคุณมิวก็บอกราคาอีกราคานึงมาซึ่งมันค่อนข้างที่จะสูงเหมือนกัน อาร์ทก็เลยขอต่อรองดู ก็บอกว่าจริงๆ แล้วเนี่ยอาร์ทมีงบประมาณจำกัดอยู่เท่านี้"

       อาร์ท "ในราคาแสนห้านะครับ แต่ว่าคุณมิวก็บอกว่าราคาเนี้ยะเป็นราคาพิเศษแล้วอย่าลดเลย ก็ต่อรองกันไปต่อรองกันมาเนี่ยก็จบอยู่ที่แสนห้า ก็คือแสนห้ารวมหน้าผม พลอยจะต้องแต่งสวยมาที่งานพร้อมเลยในราคาแสนห้า แต่ไม่มีการคุยเรื่องการหักภาษี หรือการบวกเงินเข้าไปให้ cover แสนห้า เพราะฉะนั้นเนี่ยหลังจากที่ผมคุยเปิดประเด็นออกมาแล้วเนี่ยผมก็ให้ผู้ช่วยผมเนี่ยประสานงานต่อในเรื่องของส่งเอกสารเพื่อที่จะนำหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือว่าจ่ายเช็คไปให้ของคุณพลอยในวันงานเลย"

        อาร์ท "เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย หลังจากนั้นไม่มีการคุยกันจนกระทั่งมีการส่งเอกสารมาให้ที่บริษัทของอาร์ท ก็ไม่มีการแจ้งว่าอ๋อแสนห้าเน็ทนะพี่ แล้วคือไม่รวมภาษีอะไรอย่างนี้ครับผม เพราะฉะนั้นเนี่ยผมก็ไม่ได้รับทราบว่าโอเคเค้าห้ามหักภาษีผมให้บวกเข้าไปอะไรอย่างนี้"

        ธีระศักดิ์ "เพราะว่าปกติแล้วเวลาดิวงานของบริษัทเรา บริษัทอาร์ทเนี่ยนะครับ ก็จะดิวงานในลักษณะว่าถ้าเกิดทางผู้รับจ้างนะครับแจ้งว่าขอรับเป็นราคาเน็ทนะครับเราก็จะครอปมาให้ เราทำให้ทุกคนที่แจ้งกับเรามาครับผม"

       อาร์ท "แต่ว่าพอมาถึงวันงานแล้วเนี่ย ที่มันมีประเด็นแล้วเนี่ยก็คือผมจ่ายเช็คไปนะครับก็คือหักภาษีไปสี่พันห้าร้อยบาท ก็เลยเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาว่ามันหักไม่ได้ เพราะว่าจริงๆ แล้วเนี่ยมันเป็นสากล มันเป็นกฎสากลว่าถ้าบอกว่าแสนห้าก็คือแสนห้าเน็ท แต่สากลของผมก็คือ ผมหักภาษีตามที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ถ้าเกิดคุณบอกว่าแสนห้าเน็ท คุณช่วยบอกผมก่อนนิดนึงได้ไหม แสนห้าเน็ท นั่นแหล่ะครับมันก็จะเน็ท"

        ธีระศักดิ์ "ทั้งๆ ที่พลอยน่ะเอาชื่อบริษัทผม เอาชื่อของบริษัทตามที่เป็นข่าวบ.แอบโซลูท แล้วบอกให้พี่ๆ นักข่าวซูมมาเลยว่าเนี่ยคือ บ.แอบโซลูท ฟอ ยู จำกัด จ่ายเงินพลอยไม่ครบ นี่แหล่ะครับคือประเด็นที่ทางบริษัทต้องออกมาบอกว่าเฮ้ยมันเกิดอะไรขึ้นนะจริงๆ แล้ว"

        อาร์ท "มันเสียหายแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่ามันมีการกล่าวอ้างถึงบริษัทผม ซึ่งจริงๆ แล้วเนี่ยผมเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วกับบางสื่อนะครับ ว่าเฟสบุ๊คนี้มันไม่ใช่เฟสบุ๊คของผม เพราะฉะนั้นแล้วในเรื่องของการบอกว่าเงินค่าตัวพลอยแสนสอง แล้วก็มีเงินหักผู้จัดการสามหมื่นอะไรอย่างเนี้ยะ มันไม่ใช่เรื่องราวของผมเลย"

       ธีระศักดิ์ "ซึ่งข้อมูลตรงนี้ทางแอดมินของเราได้คุยกับทางคุณมิวตั้งแต่แรกแล้ว คุณมิวเป็นคนเจอเฟสบุ๊คอันนี้ แล้วส่งมาทางไลน์คุยกับทางผู้ช่วยของเรา ว่าเฮ้ยคนเนี้ยะมาโพสต์เฟสบุ๊คว่ามิวน่ะไปโกงเงินคุณพลอย แล้วก็คุณมิวทราบตัวว่าเป็นใคร"

       เค้าเป็นใคร? อาร์ท "เค้าไม่ใช่ทีมงานของผมทั้งสิ้นครับ"

       ธีระศักดิ์ "เค้าเป็นคนของทางเจ้าภาพ"

       อาร์ท "ก็คือว่าทางคุณมิวเนี่ยแจ้งความประสงค์บอกว่าให้หักภาษี ณ ที่จ่ายเนี่ย ด้วยชื่อของคนๆ นี้นะครับ แล้วก็ให้เขียนเช็คเนี่ยในนาม ไลลา บุญยศักดิ์ ก็คือเราก็ทำให้ ก็แปลกใจครับผมแต่ว่าด้วยความที่เค้าบอกว่ามีหลายบริษัทหรืออะไรอย่างเนี้ยะ คือผมก็ไม่ทราบว่าบุคคลท่านเนี้ยะเป็นใคร"

       ธีระศักดิ์ "ตอนนี้พอเป็นเรื่องขึ้นมาเรารู้ว่าบริษัทเราผิดตามกฎหมายแน่นอนอยู่แล้วครับ แล้วเราก็น้อมและยอมรับผิด"

       อาร์ท "อันนี้ก็เป็นช่องโหว่ของเราด้วยความที่อยากได้ตัวน้องมาร่วมงานนี้มากนะครับ ก็คือไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขใดก็แล้วแต่เนี่ยเรายินดีที่จะทำ เรื่องเนี้ยะจริงๆ แล้วไม่ได้อยากจะออกมาเผยแพร่ แต่ด้วยความที่มันมีเช็ค มันมีชื่อบริษัท แอบโซลูท ฟอ ยู อยู่แล้วยังนำใบหักภาษีเนี่ยมาเทียบ เปิดชื่อออกมาอย่างเนี้ยะ"

       อาร์ท "ผมไม่คิดว่าน้องพลอยเนี่ยไม่อยากมีเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ว่าพกเช็ค แล้วก็หลักฐานเอกสารเนี้ยะแล้วแคปให้นักข่าวดู แล้วบอกว่าช่วยซูมเข้าไปด้วยนะคะชื่อ แอบโซลูท ฟอ ยู อย่างนี้หรอครับที่น้องพลอยไม่อยากมีเรื่องเลย"

       อาร์ท "เราไม่ได้เบี่ยงประเด็นนะครับ เรามาปกป้องบริษัทของเราว่าเราเนี่ยไม่ได้จ่ายเงินพลอยไม่ครบ เราจ่ายเงินพลอยครบ แต่เราหักภาษี ภาษีที่ผู้จัดการคุณพลอยเนี่ยบอกว่าต้องหักให้ในชื่อของคุณคนนี้นะครับ ผมก็หักไปตามกฎระเบียบของที่ผมได้รับมาจากรัฐบาล ผมเป็นคนไทยนี่ครับ ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามภาษีถูกไหมครับ"

       อาร์ท "อันนี้แน่นอนเลยครับ เป็นความบกพร่องของผม จากที่ผมปรึกษาทนายเนี่ยมันเป็นความผิดแน่นอนเลยที่แบบว่า อันนี้ผมไม่ได้บอกว่ามันเป็นเอกสารปลอมของคุณพลอยนะ ผมไม่รู้ว่าบุคคลท่านนี้เป็นใคร ผมทำใบเอกสารเนี่ยผมก็ไม่ได้เป็นคนมาดูเอง โยนให้บัญชีดู แต่ผมมาดูตอนหลังเนี่ย บุคคลท่านนี้อายุเจ็ดสิบกว่า มีแปะด้านหลังอีกว่า ICU ถามว่าบุคคลท่านนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า แล้วถ้าเกิดภาษีที่ถูกหักไปใครเป็นคนจ่ายล่ะ"

        อาร์ท "ผมตอบตามประเด็น ผมไม่ได้อยากจะมีเรื่องกับใคร ผมอยู่ของผมนิ่งๆ เฟสบุ๊คนี้ไม่ใช่เฟสบุ๊คผม ในเฟสบุ๊คที่มันเกิดเรื่องราวขึ้นมาก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ถ้าออกมาร้อนตัวก็หมายความว่าคุณก็รับไปจริงไหมครับ เพราะฉะนั้นผมไม่มีความเดือดร้อนอะไรที่จะต้องมาวุ่นวายกับเรื่องแค่นี้ที่มันไม่เป็นเรื่องเลย แต่ที่มันเป็นเรื่องเพราะว่าเค้าใช้ชื่อบริษัทของผมเนี่ยมากล่าวอ้างว่า คล้ายๆ ว่าโกงเงินดาราแล้วกัน จ่ายเงินไม่ครบ"

        จะฟ้องไหม? อาร์ท "คือเรื่องดำเนินกฎหมายทางคดีเนี่ยก็คงจะต้องให้ทางฝ่ายทนายของผมเนี่ยเป็นคนบอกดีกว่า เพราะว่าผมเนี่ยไม่ทราบเรื่องกฎหมายจริงๆ แต่ว่า ถ้าเกิดว่ามันยังมีเรื่องราวอย่างนี้อยู่ และทำให้บริษัทของผมเนี่ยเสียหายเนี่ย ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางบริษัทของผมมันจะเยอะแยะมากมายเลย"

        อาร์ท "คือหนึ่งแน่นอนล่ะดารา หรือพิธีกร หรือใครก็แล้วแต่อาจจะไม่อยากร่วมงานกับผมใช่ไหมครับ แล้วก็อาจจะบอกว่าบริษัทเนี่ยถ้าเกิดมาทำงานแล้วอาจจะจ่ายค่าตัวไม่ครบอะไรอย่างนี้ครับ มันเกิดความเสียหายเกิดขึ้นอยู่แล้ว"

         ธีระศักดิ์ "รวมถึงบริษัทที่เป็นผู้จ้างงานเราด้วย ถ้าเกิดเค้าทราบข่าวว่าเราโกงเงินดารา หรือทำอะไรพวกนี้ขึ้นมาก็ทำให้บริษัทเราเนี่ยขาดความน่าเชื่อถือในบริษัท แอบโซลูท ฟอ ยู ครับ"

        อาร์ท "ตัวผมเอง ใจผมเลยจริงๆ เนี่ยผมไม่อยากให้มีเรื่องมีราวอย่างที่ผมบอก เรื่องมันจบก็อยากจะให้จบ แต่ถ้าเรื่องมันไม่จบผมก็ต้องออกมาตอบโต้ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวผมเองแล้วก็บริษัทด้วย"

        ธีระศักดิ์ "เรื่องจะฟ้องหรือไม่ฟ้องผมก็ต้องคุยกับทางกฎหมายของบริษัทเราอีกที ว่าจะสรุปเรื่องให้จบในทิศทางไหนตอนนี้เรากำลังคุยกับผู้ที่มีความรู้ในเรื่องกฎหมาย เชี่ยวชาญทางด้านนี้อยู่ครับ ส่วนทิศทางที่จะฟ้อง หรือไม่ฟ้องเนี่ย ไม่ได้ชี้ทิศทางไปทางใดทางหนึ่ง"

         อาร์ท "จบก็คือจบ ก็แค่มาบอกว่าบริษัทผมไม่ได้โกง ก็คือแค่เนี้ยะ"

        ธีระศักดิ์ "บริษัทผมไม่ได้โพสต์เฟสบุ๊ค"

        อาร์ท "ด่าผิดคนนะครับ"

         อาร์ท "ผมก็เข้าใจครับสำหรับคนที่มีอารมณ์โกรธอยู่ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก ผมรู้สึกว่ามันก็ตลกดีอย่างที่น้องเค้าบอกว่ามันขำๆ เรื่องเด็กๆ จริงๆ แล้วเนี่ยคุณก็รู้ตัวว่ามันเป็นเรื่องเด็กๆ น่ะ มันก็ควรจะทำอะไรให้มันเป็นผู้ใหญ่ ออกมาชัดเจนสักนิดนึงว่าคุณเนี่ยอยากจะว่าใคร อยากจะว่าคนที่เขียนเฟสบุ๊ค หรือว่าอยากจะว่าผม หรือจะว่าเฟสบุ๊คอันเก่าที่อาร์ทได้ลบไป อันนี้ผมไม่ได้กลัวนะครับว่าเฟสบุ๊คของผมเนี่ยมันจะเผยออกมายังไง แต่ผมบอกได้เลยว่าในเนื้อเฟสบุ๊คของผมเนี่ยไม่ได้มีการพูดถึงในเฟสบุ๊คอันนี้จริงๆ นะครับ"

        อาร์ท "ผมพูดเป็นความน้อยอกน้อยใจในตัวผมเองว่ามาทำงานกับซุปตาร์ เจอไอดอลของพี่อาร์ทเนี่ย แต่มันเจอแล้วทำให้ผิดหวัง ก็บ่นอุปทานไปนู่นนั่นนี่ ตำหนิว่ากล่าวไป แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่หนึ่งถึงสิบ ไม่มีการเบี่ยงประเด็น บิดเบือนอะไร แต่เฟสบุ๊คที่มันเกิดเป็นคดีขึ้นมาเนี่ยมันคนละเรื่องกับผม"

        จะฝากอะไรถึงพลอยไหม? อาร์ท "คือจริงๆ ผมก็คงไม่มีอะไรจะบอกน้องหรอกครับ ก็คือพี่ก็ไม่ได้จะติดใจอะไรแต่พี่อยากจะบอกว่าสิ่งที่พี่ทำไป พี่ไม่ได้ทำผิดนะครับ แต่น้องกำลังจะบอกพี่ว่าพี่ทำผิด แล้วน้องก็ไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรกับพี่เลย เพราะฉะนั้นน้องลองไปทบทวนนะครับ ลองมีสตินิดนึงนะครับ อย่าใช้แต่อารมณ์นะครับ มีสติสัมปชัญญะในการคิด ในการพูด ในการทำ เราเป็นดารา เราเป็นคนของประชาชน"

        อาร์ท "ถึงเราจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีของเยาวชน แต่เราก็ควรจะมีมารยาท มีการเคารพคนบุคคลในวงการเดียวกัน มีสัมมาคารวะ มีการพูดจาดีๆ ไม่ว่าน้องจะพูดจากับผมแบบไหนนะครับ ผมไม่ถือโกรธนะครับ จะหาว่าผมเอาไปถูกระเบื้อง เป็นหมาขี้เรื้อน เป็นนู่นเป็นนี่ ผมเข้าใจครับมันเป็นเรื่องของอารมณ์น้องนะครับ ผมไม่โกรธแล้วกัน ผมให้อภัย ผมไม่อยากจะมีเรื่องราวอะไรต่อเนื่องไปอีก ผมอโหสิกรรมให้ถ้าน้องจบเรื่อง แต่ถ้าน้องไม่จบเรื่องพี่ก็ไม่จบเรื่องนะครับ เพราะว่าพี่ก็ไม่มีเรื่อง จริงๆ มันก็ไม่มีเรื่องอะไร แต่ว่าพูดกันไปพูดกันมาแบบนี้เนี่ยมันไม่จบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ยพี่จะบอกว่าวันนี้พี่จบนะครับ"

        อาร์ท "แต่ว่าสิ่งที่สำคัญเลยเนี่ย ที่มันเป็นประเด็นอยู่ใน เค้าเรียกว่ากระแสเนี่ยคือมันเหมือนกับว่า พี่มีบทสัมภาษณ์ของน้องมาด้วย บอกว่าผมทำเนี่ยเพราะว่าเหมือนกับผมอยากดัง ผมอยากมีชื่อเสียง ผมฉวยโอกาสตรงนี้ ผมบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่นะครับ ถ้าผมอยากดังผมอยากดังเรื่องดีๆ มากกว่า เรื่องนี้มันเสียหายนะครับผม"