ปรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2555

ลิเวอร์พูล    -    แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : แอนฟิลด์

        เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือใหม่ของ หงส์แดง เตรียมพร้อมทำศึกใหญ่กับ เรือใบสีฟ้า อย่างเต็มที่ หลังพักตัวหลักหลายคนในเกมยูโรปาลีก ที่บุกชนะ ฮาร์ทส์ 1-0 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ตัวหลัก 4 คนที่ ร็อดเจอร์ส พักเอาไว้คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม, หลุยส์ ซัวเรซ, มาร์ติน สเคอร์เทล และ เกล็น จอห์นสัน จะกลับคืนตัวจริงทั้งหมด ขณะที่ อุสซาม่า อัสไซดี้ ปีกตัวใหม่ น่าจะมีชื่ออยู่ในทีมนัดแรก

        ในราย ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ กองหลังเดนมาร์ก จะติดโทษแบน 1 นัด ทำให้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ จะต้องมาจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ มาร์ติน สเคอร์เทล แทน ส่วนแบ็กซ้าย โฆเซ่ เอ็นริเก้ หายเจ็บเข่าอาจกลับคืนทีม

        ส่วนประเด็นที่ แอนดี้ แคร์โรลล์ กองหน้าร่างใหญ่ ไม่มีชื่อในเกมยุโรป ร็อดเจอร์ส ยืนยันนักเตะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ต้องรอประเมินอาการจนถึงก่อนเกม

        ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แผงหลัง เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้ แดนกลาง ลูคัส เลว่า กับ โจ อัลเลน เป็นคู่กลาง แนวรุก สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ ซัวเรซ คืนทัพทั้งแผง หน้าเป้า ฟาบิโอ บอรินี่ ลงเล่นต่อเนื่อง

        ทางฝั่ง โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ เรือใบสีฟ้า แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก ประเดิมนัดแรกแบบเหนื่อยหนัก กว่าจะพลิกชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมน้องใหม่ 3-2 โดย 3 ประตูได้จาก คาร์ลอส เตเวซ, เอดิน เชโก้ และ ซามีร์ นาสรี่

        สภาพทีม มันโช่ ต้องขาด เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บเข่ามาจากเกมที่แล้ว แต่โชคดีไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิดเอาไว้ จึงน่าจะพักถึงประมาณกลางเดือนกันยายนเท่านั้น

        ในราย ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (ข้อเท้า) กับ แกเร็ธ แบร์รี่ (กล้ามเนื้อหน้าท้อง) พลาดลงสนามต่อ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อทีมมากนักในเวลานี้

        แดนกลาง มันโช่ ต้องตัดสินใจว่าจะส่ง แจ็ค ร็อดเวลล์ ลงตัวจริงต่อหรือไม่ หลังยังออกอาการตื่นๆ ในนัดประเดิมสนาม เพราะยังมี ไนเจล เดอ ย็อง พร้อมทวงตำแหน่งตัวจริงคืน

        การจัดทัพ 4-3-3 โจ ฮาร์ท ลงเฝ้าเสา แผงหลัง ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ แดนกลาง ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เดอ ย็อง, ซามีร์ นาสรี่ แดนหน้า ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี่ หรือ เอดิน เชโก้ ต้องรอลุ้นว่ามันโช่จะส่งใครลงตัวจริง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน - สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ ซัวเรซ - ฟาบิโอ บอรินี่

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เดอ ย็อง, ซามีร์ นาสรี่ - ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี่ (เอดิน เชโก้)

        ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์

หงส์แกร่งในบ้านไร้พ่ายเรือ 10 นัดติด

        ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายไม่แพ้ในรัง แอนฟิลด์ ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกมาติดต่อกัน 9 ฤดูกาลแล้ว รวมกับเกมคาร์ลิ่ง คัพ อีก 1 นัด หงส์แดง ไม่แพ้ต่อ เรือใบสีฟ้า ในบ้านตัวเอง 10 นัดพอดี

        10 นัดดังกล่าวในรัง แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เอาชนะได้ 6 นัด และเสมอ 4 นัด อย่างไรก็ตาม 5 นัดหลังสุดหนักไปทางเสมอถึง 4 นัด หงส์แดง ชนะแค่เกมเดียวในปี 2011 ขณะที่ชัยชนะครั้งสุดท้ายของ เรือใบสีฟ้า ใน แอนฟิลด์ ต้องย้อนกลับไปฤดูกาล 2002-03 เมื่อครั้ง นิโกล่าส์ อเนลก้า ยิงสองประตูให้ เรือใบ บุกชนะ 2-1

        ฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสองทีมต้องเจอกันถึง 4 นัด ในพรีเมียร์ลีก ที่ แอนฟิลด์ เสมอ 1-1, ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แมนฯ ซิตี้ ถล่ม 3-0 ส่วน คาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่ เอติฮัด หงส์แดง บุกชนะ 1-0 ก่อนจะเสมอกัน 2-2 ที่ แอนฟิลด์ ทำให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19.30 น. สโต๊ค ซิตี้ - อาร์เซน่อล
22.00 น. ลิเวอร์พูล - แมนฯ ซิตี้