"กระทิงดุ" สเปน ยังโชว์ฟอร์มสมราคาดีกรีแชมป์โลก หลังเปิดถิ่นไล่ถล่มโหด ซาอุดิ อาระเบีย แบบไม่ไว้หน้า 5-0  เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล นัดกระชับมิตรทีมชาติ

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2555

สเปน 5   -   0 ซาอุดิ อาระเบีย

สนาม: เอสตาดิโอ มูนิซิปาล เด ปาซารอน, ปอนเตเบดร้า, สเปน

     "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน แชมป์โลก และ แชมป์ยูโร ทีมล่าสุด ไม่ได้เรียกตัว ฆวน มาต้า กับ ฆาบี มาร์ติเนซ มาติดทีมชุดนี้ เนื่องจากต้นสังกัดของทั้งคู่ร้องขอมา นอกจากนั้นยังไม่มีชื่อของ อัลบาโร่ เนเกรโด้ กับ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ สองกองหน้าตัวสำคัญด้วย

     รายของ การ์เลส ปูโยล ปราการหลังวัย 34 ปี จากบาร์เซโลน่า ที่หายบาดเจ็บกระดูกโหนกแก้มแตกแล้ว ไม่ติดทีมชุดนี้ เช่นเดียวกับ ติอาโก้ อัลกานตาร่า กองกลางดาวรุ่งเพื่อนร่วมค่ายที่มีอาการบาดเจ็บ

     เกมนี้ เดล บอสเก้ ส่ง เบนญัต เอต์เซบาร์เรีย กองกลางตัวรับวัย 25 ปี จากสโมสรเรอัล เบติส ที่ติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่มาแล้ว 2 นัด ลงมาเป็นตัวจริง

     สามประสานแดนหน้าวาง เปโดร โรดริเกซ, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ เชส ฟาเบรกาส ลงล่าตาข่าย

     ทางด้าน ซาอุดิ อาระเบีย ให้ โอซามา ฮอว์ซาวี่ กองหลังที่ค้าแข้งในยุโรปกับสโมสรอันเดอร์เลชท์ ทีมดังของลีกเบลเยี่ยม คุมแนวรับ ส่วนกองหน้าวาง นาสเซอร์ อัล ชามรานี่ ลงยืนเป็นหอกเป้า

     เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 5 นาที เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน หาจังหวะสับไก แต่ยังไม่ผ่านมือของ วาลิด อับดุลลาห์ นายทวารของซาอุดิ อาระเบีย

     หลังจากนั้น 6 นาที เบนญัต เอต์เซบาร์เรีย กองกลางเจ้าบ้านลองซัดไกลดูบ้างบอลเหินข้ามคานไป

     ขยับมาถึงนาทีที่ 14 ไทซีร์ อัล-ยาสซิม กัปตันทีมของซาอุฯ ลองซัดจากนอกเขตโทษบอลข้ามคานไป

     อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 22 สเปน กลายเป็นฝ่ายขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ เปโดร โรดริเกซ ได้ซัด แต่ วาลิด อับดุลลาห์ นายทวารของซาอุฯ ปัดไว้ได้ แต่บอลมาเข้าทางของ ซานติ กาซอร์ล่า ตามซ้ำจ่อๆเสียบมุมขวาเข้าประตูไปให้กระทิงดุนำก่อน 1-0

     สามนาทีต่อมา ซาอุฯ มีโต้เหมือนกัน นาสเซอร์ อัล ชามรานี่ เทคตัวขึ้นโขกหลุดเสาซ้ายไป

     กระนั้นก็ดี สเปน หนีห่าง 2-0 จนได้ในนาทีที่ 26 เมื่อ เบนญัต เอต์เซบาร์เรีย จ่ายบอลไปที่ว่างด้านซ้ายให้กับ เปโดร โรดริเกซ วิ่งสอดขึ้นมาชิปบอลข้าม วาลิด อับดุลลาห์ นายทวารซาอุฯ เสียบเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

     เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 38 สเปน น่าได้เพิ่มจริงๆ เมื่อ ซานติ กาซอร์ล่า ปั่นด้วยซ้ายจากริมกรอบเขตโทษบอลไปชนคานออกมา

     นาทีต่อมา กระทิงดุ ขึ้นเกมมาอีกครั้ง เบนญัต เอต์เซบาร์เรีย ซัดไปติดบล็อคของ สุลต่าน อัล-บิชี่ กองหลังซาอุฯ มาเข้าทางของ เชส ฟาเบรกาส ยิงติด วาลิด อับดุลลาห์ นายทวารของซาอุดิ อาระเบีย

     ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 3 นาที สเปน ได้ลุ้นต่อเนื่อง เฟร์นานโด ตอร์เรส ซัดด้วยขวาในเขตโทษบอลไปชนคาน หมดครึ่งแรก สเปน นำอยู่ 2-0

     เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่สองนาที กระทิงดุ ได้ฟรีคิกริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย จากจังหวะที่ ตอร์เรส โดน โอซามา ฮอว์ซาวี่ กองหลังของซาอุฯ ทำฟาวล์ล้มลง ก่อนที่ ชาบี เอร์นานเดซ จะปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปแล้วช่วยให้ สเปน นำขาด 3-0

     นาทีที่ 48 เบนญัต กองกลางสเปนลองซัดไกล แต่ วาลิด อับดุลลาห์ นายทวารของซาอุดิ อาระเบีย ปัดทิ้งออกหลังไปได้

     จากนั้นนาทีที่ 52 สเปน เปลี่ยนเอา ดาบิด บีย่า ลงมาเล่นหน้าแทน  เฟร์นานโด ตอร์เรส

     เกมตกเป็นของเจ้าบ้านทั้งหมด ก่อนมาได้ประตูที่สี่จากจังหวะที่ สุลต่าน อัล-บิชี่ กองหลังของซาอุฯ ไปสกัดใส่ นาโช่ มอนเรอัล จนล้มคว่ำในเขตโทษ ก่อนที่ ดาบิด บีย่า ที่ลงมาเป็นสำรองจะสังหารเข้าไปให้สเปน นำหายห่วง 4-0 ในนาทีที่ 63 และเป็นประตูที่ 52 ของบีย่า ในชุดทีมชาติสเปน

     สามนาทีให้หลัง เปโดร โรดริเกซ กองหน้าสเปน ลากจี้เข้ามายิงไกลจากนอกเขตโทษบอลหลุดกรอบออกไป

     นาทีที่ 71 สเปน เปลี่ยนเอา อีเกร์ กาซียาส ลงมาเฝ้าเสาแทน บิคตอร์ บัลเดส

     ถัดมาสองนาที สเปน มาได้ประตูที่ห้าจากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา แปบอลกระแทกด้วยซ้ายขึ้นหน้าให้กับ เปโดร โรดริเกซ สปีดเข้าไปชิปบอลด้วยขวาข้ามตัวของ วาลิด อับดุลลาห์ นายทวารทีมเยือนเข้าประตูไปให้ กระทิงดุ นำสบาย 5-0 และเป็นประตูที่สองของ เปโดร ในเกมนี้ด้วย

     ช่วงที่เหลือไม่มีฝ่ายไหนทำอะไรกันเพิ่มได้ ครบ 90 นาที สเปน เปิดบ้านต้อน ซาอุฯ หายห่วง 5-0

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     สเปน: บิคตอร์ บัลเดส (อีเกร์ กาซียาส น.71) - ฆวนฟราน ตอร์เรส, ราอูล อัลบิโอล, เคราร์ด ปิเก้ (เซร์คิโอ รามอส น.46), นาโช่ มอนเรอัล - ซานติ กาซอร์ล่า (ดาบิด ซิลบา น.59), เบนญัต เอต์เซบาร์เรีย, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (อันเดรส อิเนียสต้า น.59) - เปโดร โรดริเกซ, เฟร์นานโด ตอร์เรส (ดาบิด บีย่า น.52), เชส ฟาเบรกาส  (ชาบี เอร์นานเดซ น.46)

     สำรอง: โฆเซ่ เรน่า (ผู้รักษาประตู) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, จอร์ดี้ อัลบา, ชาบี อลอนโซ่, เฆซุส นาบาส

     ซาอุดิ อาระเบีย : วาลิด อับดุลลาห์ - มานซูร์ อัล-ฮาร์บี้, สุลต่าน อัล-บิชี่, โอซามา ฮอว์ซาวี่, คามิล อัล มูซ่า - อับดุลลาซิซ อัล-ดอสซารี่ (โมอาตาซ อัล-มุสซ่า น.69), อัล-เจซาวี่ อับดุลราฮิม (ฮาหมัด อัล ฮาเหม็ด น.63), ซาอุด คาริรี่, อาห์เหม็ด อาตีฟ, ไทซีร์ อัล-ยาสซิม (กัปตันทีม) (อับดุลมาจิด อัล-รูไวลี่ น.57) - นาสเซอร์ อัล ชามรานี่

     สำรอง: ยาเซอร์ อัล-โมไซเล็ม (ผู้รักษาประตู) - อากีล อัล-ซาฮาบี,
โม ฮัมเหม็ด อัล-บิชี่, สุลต่าน อัล-บาร์กาน, โมฮัมเหม็ด อัล-ชาห์ลาวี่, คาห์เหล็ด อัลกามดี้, ยาซีร์ อัล-ชาห์รานี่, คาห์หลิด ชาราฮิลี่, มูฮานัด อาบู ราดิย่าห์

     ผู้ตัดสิน: อนาร์ ซัลมานอฟ (อาเซอร์ไบจาน)