ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
หน้าแรก » กีฬาอื่นๆ » อัซซูรี่2-0,ตราไก่จิก3-1,ฝอยทอง3-0

อัซซูรี่2-0,ตราไก่จิก3-1,ฝอยทอง3-0

Posted 12/09/2012 by siamsport

 

       "อัซซูรี่" อิตาลี ต้อนเก็บชัยเหนือ มอลตา แบบสบาย 2-0 ขณะที่ "ตราไก่" ฝรั่งเศส อัด เบลารุส 3-1 ส่วน "ฝอยทอง" โปรตุเกส เปิดบ้านรัวใส่ อาเซอร์ไบจาน 3-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา

 

 

ฟุตบอลโลก 2014

รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม บี.

วันอังคารที่ 11 กันยายน 2555

อิตาลี 2   -   0 มอลตา




สนาม : อัลแบร์โต้ บลาเกลีย


        เชซาเร่ ปรันเดลลี่ เทรนเนอร์ "อัซซูรี่" อิตาลี เกมนี้ปรับระบบการเล่นปรับจาก 3-5-2 มาเป็น 4-3-1-2 ถอด คริสเตียน มาจโจ กับ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ มิดฟิลด์ริมเส้นทั้งสองข้างออก แล้วให้ มัตเตีย คาสซี่ กับ เฟเดริโก้ เปลูโซ่ ลงไปยืนแบ็กขวาและซ้ายตามลำดับ คู่เซนเตอร์แบ็กใช้ อันเดรีย บาร์ซายี่ จับคู่ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่  แผงมิดฟิลด์ส่ง อันโตนิโอ โนเชริโน่ ลงประสานงานตรงกลางร่วมกับ อันเดรีย ปีร์โล่ และ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ คู่กองหน้ามี ปาโบล ออสวัลโด้ จับคู่ มัตเตีย เดสโตร วาง อเลสซานโดร เดียมานติ เป็นจอมทัพ


        ด้าน มอลตา ของเทรนเนอร์  ปิเอโตร เกดินเปลี่ยนระบบจากเกมรุกนัดก่อนมาเล่นรับเต็มตัวแบบในระบบ 5-4-1 กองหน้าคงถอด แอนดรูว์ โคเฮน ออก แล้วให้ มิชาเอล มิฟซุด ยืนเป็นหัวหอกตัวเดียว


        เปิดฉากมาถึงนาทีที่ 5 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮกันอย่างไว เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ตักบอลขึ้นหน้าผ่านกองหลังทีมเยือนมาถึง มัตเตีย เดสโตร ดีดบอลสวนตัว แอนดรูว์ ฮ็อกก์ เข้าตุงตาข่ายแสาแรก


        เจ้าบ้านลุยต่อเลยและหวิดได้อีกดอกจากจังหวะที่ ปาโบล ออสวัลโด้ ดึงบอลลงสุดนิ่มก่อนแตะหลบ อเล็กซ์ มัสแคต มาและกำลังจะได้ล่อเป้า แต่ ลุค ดิเม็ค ยังไวตามมาเตะทิ้งได้ทัน


        จากนั้นรูปเกมชวนง่วงนอนเหลือเกินต่างฝ่ายต่างไรโอกาสทำ ประตู นาทีที่ 37 เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ พาบอลขึ้นมาส่องไกลระยะ 30 กว่าหลาหลุดเสาแรกออกไป


        ต่อมา อัซซูรี่ ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะทำการของ อันเดรีย ปีร์โล่ แต่จอมทัพจาก ยูเวนตุส ก็ปั่นบอลเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น จบ 45 นาทีแรก อิตาลี ขึ้นนำ 1-0
ลงโซ้ยกันต่อครึ่งหลัง นาที 56 อิตาลี มีเสียว อันโตนิโอ โนเชริโน่ ทะลุเข้าเขตโทษไปเปิดยัดเข้าหาประตู แอนดรูว์ ฮ็อกก์ ต้องเสี่ยงล้มตัวทุบทิ้งออกมาก่อนที่ เดสโตร จะเข้าชาร์จโดน


        อิตาลี ครองบอลเอาไว้แทบจะฝ่ายเดียว แต่สร้างโอกาสจะแจ้งไม่ได้มากทเท่าที่ควร จนนาที 68 เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ พาลูกขึ้นไปส่องเข้าข้อบนเส้นหัวกะโหลก แต่ข้ามคานไปน่าเสียดาย


        อัซซูรี่ ยังเดินหน้าบุกต่อเพื่อขอประตูเพิ่ม โดยที่เกมดีกว่าจมหู กระทั่งมามีเฮเพิ่มจนได้ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 จากเตะมุม ปีร์โล่ ปั่นโค้งเข้าไป เฟเดริโก้ เปลูโซ่ โถมโหม่งจ่อๆ เข้าประตู เป็น 2-0


        ไม่กี่วินาทีให้หลังเกมก็จบลง จึงเท่ากับ อิตาลี ชนะ 2-0 แบบเหนื่อยๆ


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


        อิตาลี:
จานลุยจิ บุฟฟ่อน, มัตเตีย คาสซานี่, อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, เฟเดริโก้ เปลูโซ่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, อันเดรีย ปีร์โล่, อันโตนิโอ โนเชริโน่, อเลสซานโดร เดียมานติ (ลอเรนโซ่ อินซินเย่ น.46), ปาโบล ออสวัลโด้ (จามเปาโล ปาซซินี่ น.69), มัตเตีย เดสโตร (เซบาสเตียน โจวินโก้ น.82)


        มอลต้า
: แอนดรูว์ ฮ็อกก์, อเล็กซานเดอร์ มุสแค็ต (ไรอัน คามิลเลรี่ น.85), แกเร็ธ ชีเบอร์ราส, อังเดร อกิอุส, ลุค ดิเม็ช, ดานิเยล บ็อกดาโนวิช (แอนดรูว์ โคเฮน น.69), โรเดริค บริฟฟา, มิชาเอล มิฟซุด, เอ็ดเวิร์ด เฮอร์เรร่า, สตีฟ บอร์ก, อังเดร เชมบรี


        ผู้ตัดสิน
: อันต์ติ มูนุคค่า (ฟินแลนด์)


 



 


ฝรั่งเศส
3   -   1 เบลารุส
(กลุ่ม ไอ.)




สนาม : สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ (แซงต์-เดอนีส์, ฝรั่งเศส)


        ทีมชาติฝรั่งเศส จ่าฝูงกลุ่มไอ เปิดสต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์ ปะทะ เบลารุส ในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดที่ 2 โดย ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เซเล็กซิยอนเนอร์คนใหม่ของเลส์ เบลอส์ นำทีมลงเล่นฟุตบอลโลก นัดแรก ด้วยการบุกไปชนะ ฟินแลนด์ 1-0 ที่เฮลซิงกิ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 7 กันยายน ส่งผลให้ พวกเขาไม่แพ้ 12 เกมหลังสุดในการเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก (ชนะ 8 เสมอ 4)  


        นัดนี้ เดส์ชองส์ ได้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงอาร์เซน่อลหายเจ็บกล้ามเนื้อลงตัวจริงเคียงข้าง คาริม เบนเซม่า กองหน้าเรอัล มาดริด แต่ทีมขาด กาแอล กลิชี่ แบ็กซ้ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และ อาบู ดิยาบี้ ฮีโร่ที่ยิงประตูฟินแลนด์ บาดเจ็บกล้ามเนื้อ ไม่สามารถลงเล่นได้


        ทางด้าน จอร์จี้ คอนดราติเยฟ กุนซือเบลารุสวัย 52 ปี นำทีมแพ้แมตช์เยือน จอร์เจีย 0-1 ที่บอริส เพชาดเซ่ ในทบิลิซี่ ในบอลโลก เมื่อคืนวันศุกร์ 7 กันยายน เขาส่ง เรนาน เบรสซาน, แอนตัน พุตซิโล่ นำทัพ


        เกมนี้ มิเชล พลาตินี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) นั่งดูเกมบนบ็อกซ์วีไอพี เคียงข้าง โนแอล เลอ กร้าต ประธานสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (แอฟแอฟแอฟ)


        ครึ่งแรก นาที 13 ฝรั่งเศสบุกได้อย่างมีลุ้น ชิรูด์ โหม่งตั้งให้ ฟร้องค์ ริเบรี่ ยิงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไปติด เซอร์เก เวเรมโก้ นายทวาร กัปตันทีมเบลารุส ปัดบอลออกเส้นหลังไปได้อย่างหวุดหวิด


        จากนั้น ตราไก่เป็นฝ่ายครองบอลบุกมากอย่างชัดเจน นาที 38 โยอัน กาบาย เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งซ้าย บอลลอยโด่งมาเข้าหัว มามาดู ซาโก้ โขกเผาขนที่เสาแรกไปติด เวเรมโก้ เซฟเอาไว้ได้


        นาที 42 ฟร้องค์ ริเบรี่ ทำทางให้ ปาทริซ เอวร่า ซัลโวเต็มเท้าขวา บอลผ่านหน้าประตูออกไป จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

ในครึ่งหลัง ทีมเยือนเปลี่ยนผู้เล่นสำรองคนแรก อเล็กซานเดอร์ คูลชี่ ลงมาเล่นแทน เรนาน เบรสซาน นาที 46 และนาทีต่อมา กองเชียร์เบลารุสเกือบได้เฮเมื่อ เซอร์เก คิลลิยัค ผ่านบอลให้ สตานิสลาฟ ดรากุนยิงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายติด โยริส


        และแล้วนาที 50 ฝรั่งเศสนำ 1-0 คริสตอฟ ฌัลเล่ต์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ ฟร้องค์ ริเบรี่ จ่ายที่เสาแรกเข้ากลางให้ เอเตียน กาปู ซัดเท้าขวาในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย นับเป็นประตูแรกในการเล่นทีมชาติฝรั่งเศสนัดที่ 2 ของ มิดฟิลด์ตัวรับตูลูสวัย 24 ปี


        หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงสนามหลายคน และแล้วตราไก่นำห่าง 2-0 นาที 68 ฟร้องค์ ริเบรี่ จ่ายให้ คริสตอฟ ฌัลเล่ต์ ยิงเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งชนคานเข้าประตู นับเป็นลูกแรกของแบ็กขวาปารีส-แซงต์ แชร์กแมง วัย 28 ปี ในการเล่นทีมชาตินัดที่ 2


        นาที 72 มาปู ย็องกา-เอ็มบีว่า เซนเตอร์ฮาล์ฟตราไก่ทำฟาวล์ แอนตัน พุตซิโล่ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ เอ็มบีว่า พร้อมกับให้ ทีมเยือนได้ลูกจุดโทษ เซอร์เก คอร์นิเลนโก้ ตัวสำรองยิงจุดโทษไปติด อูโก้ โยริส เซฟได้ แต่ไม่พ้นอันตราย แอนตัน พุตซิโล่ ยิงซ้ำตุงตาข่าย เบลารุสตีไข่แตกไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 1-2


        ทัพตราไก่มาได้ประตูปิดฝากกล่องเป็น 3-1 นาทีที่ 80 จาก ฟร้องค์ ริเบรี่ จากจังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปชิพบอลข้ามตัว เซอร์เก เวเรมโก้ นาด่าน เบลารุส สวนตัวเข้าไป และ ริเบรี่ ถูกเปลี่ยนออกนาทีที่ 90 โดยส่ง เฌเรมี่ เมเนซ ลามาแทน จบเกม ฝรั่งเศส ชนะ เบลารุส 3-1 ส่งผลให้ เลส์ เบลอส์ นำจ่าฝูงกลุ่มไอ. โกย 6 คะแนนเต็มจากการลงสนาม 2 นัด


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


        ฝรั่งเศส :
อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - คริสตอฟ ฌัลเล่ต์, มาปู ย็องกา-เอ็มบีว่า, มามาดู ซาโก้, ปาทริซ เอวร่า - เอเตียน กาปู, ริโอ มาวูบา, โยอัน กาบาย (แบลส มาตุยดี้ น.75) - คาริม เบนเซม่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาติเยอ วัลบูเอน่า น.61), ฟร้องค์ ริเบรี่ (เฌเรมี่ เมเนซ น.90)

        สำรองที่ไม่ได้ใช้ :
สตีฟ ม็องด็องด้า (ผู้รักษาประตู), มิกกาแอล ล็องโดร้ (ผู้รักษาประตู), อาดิล รามี่, อ็องโตนี่ เรเวยแยร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, มักซิม โกนาลงส์, บาเฟติมบี้ โกมิส, อาบู ดิยาบี้, กาแอล กลิชี่ 

        ใบเหลือง :
มาปู ย็องกา-เอ็มบีว่า น.72


        เบลารุส :
เซอร์เก เวเรมโก้ (กัปตันทีม) - เดนิส โพลยาคอฟ, อเล็กซานเดอร์ มาร์ติโนวิช, ดมิทรี แวร์คอฟต์ซอฟ (เซอร์เก บาลาโนวิช น.70), อาร์เต็ม ร้าดคอฟ, มัคซิม บาร์ดาชอฟ - เรนาน เบรสซาน (อเล็กซานเดอร์ คูลชี่ น.46), เซอร์เก คิลลิยัค, แอนตัน พุตซิโล่, สตานิสลาฟ ดรากุน - วิตาลี่ โรดิโอนอฟ (เซอร์เก คอร์นิเลนโก้ น.62)

        สำรองที่ไม่ได้ใช้ :
อเล็กซานเดอร์ ฮูตาร์ (ผู้รักษาประตู), อิกอร์ ชิตอฟ, วิตาลี่ ทรูบิล่า, อังเดร คาชาตูร์ยาน, เลโอนิด โคเวล

        ใบเหลือง :
ดมิทรี แวร์คอฟต์ซอฟ น.31


        ผู้ตัดสิน
: ฮูเซยิน โกเซ็ค (ตุรกี)

 

 

 


โปรตุเกส 3   -   0 อาเซอร์ไบจาน
(กลุ่ม เอฟ.)




สนาม: เอสตาดิโอ อาซ่า, บราก้า, โปรตุเกส


        "ขุนพลฝอยทอง" โปรตุเกส จัดชุดใหญ่ลงสนามครบครัน ให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมลงมาปั้นเกมรุกร่วมกับ นานี่, มิเกล เวโลโซ่, ราอูล เมยเรเลส และ เจา มูตินโญ่ โดยมี เอลแดร์ ปอสติก้า ยืนเป็นหน้าเป้า


        ทางด้าน อาเซอร์ไบจาน ผู้มาเยือนเน้นเกมรับเต็มที่ วางกองหลังไว้ห้าราย โดยหน้าเป้าใช้งาน ชิฮาน ออซคาร่า ล่าตาข่าย


        เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที เปเป้ ปราการหลังของเจ้าบ้านดันขึ้นมาโขกบอลข้ามคานไป


        อาเซอร์ไบจาน ไม่ได้มารับอย่างเดียว สวนขึ้นมาทาง มาฮีร์ ชูคูรอฟ หวดด้วยขวาข้ามคานไปในนาทีที่ 10


        ผ่านมา 23 นาที โปรตุเกส พับสนามแล้ว เจา มูตินโญ่ กระหน่ำด้วยขวา ทว่า คามราม อาร์ฮาเยฟ นายทวารของอาเซอร์ไบจาน ลอยตัวปัดพ้นเสาไปได้ จากลูกเตะมุม เมยเรเลส เปิดมาให้กับ เจา มูตินโญ่ ซัดด้วยขวาบอลไปกระแทกคานออกมาอย่างน่าเสียดาย


        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 37 โปรตุเกส น่าได้จริงๆ เมื่อ มิเกล เวโลโซ่ สาดฟรีคิกจากทางซ้ายเข้ากลาง บอลเลยมาถึง เอลแดร์ ปอสติก้า ทิ้งร่มโหม่งจ่อๆ บอลหลุดเสาไปอย่างไม่น่าเชื่อ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0


        มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เจ้าบ้านขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ ซิลแวสตร์ วาเลร่า กองหน้าตัวสำรองหลุดเข้าไปยิงเสียบตาข่ายให้ โปรตุเกส ออกนำก่อน 1-0


        ท้ายเกมนาทีที่ 85 ทีมฝอยทอง มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ เมยเรเลส โยนจากทางด้านขวามาให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งตั้งให้กับ เอลแดร์ ปอสติก้า แปด้วยขวาจ่อๆเข้าไปให้ โปรตุเกส นำห่าง 2-0


        สามนาทีต่อมา เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สาม เมื่อ เจา มูตินโญ่ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้กับ บรูโน่ อัลเวส ทะยานขึ้นโขกเข้าประตูไปปิดท้ายให้ โปรตุเกส เปิดบ้านต้อน อาเซอร์ไบจาน ไปได้ 3-0 เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน เก็บสามแต้มได้ตามเป้าหมาย  


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


        โปรตุเกส:
รุย ปาตริซิโอ - เจา เปเรยร่า, บรูโน่ อัลเวส, เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - นานี่, มิเกล เวโลโซ่, ราอูล เมยเรเลส, เจา มูตินโญ่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม) - เอลแดร์ ปอสติก้า 

        สำรอง:
เอดูอาร์โด้ คาร์วัลโญ่ (ผู้รักษาประตู) - อันโตนิโอ เบโต้ (ผู้รักษาประตู) - ริคาร์โด้ คอสต้า, นูโน่ โคเอลโญ่, มิเกล โลเปส, คุสโตดิโอ, รูเบน อโมริม, รูเบน มิคาเอล, ปิซซี่, เนลสัน โอลิเวยร่า, ซิลแวสตร์ วาเลร่า, อันโตนิโอ เอแดร์


        อาเซอร์ไบจาน:
คามราม อาร์ฮาเยฟ - มาฮีร์ ชูคูรอฟ, เอลนูร์ อัลลาห์เวอร์ดิเยฟ, ราชาด เอฟ ซาดีกอฟ, รุสลาน อับบาซอฟ, มักซิม เมดเวเดฟ - วลาดิมีร์ เลวิน, อาลี ก็อคเดมีร์, ยาวิด ฮูเซย์นอฟ, ราฮิด อามีร์กูลิเยฟ - ชิฮาน ออซคาร่า

        สำรอง:
อานาร์ นาซิรอฟ (ผู้รักษาประตู) - อากิล มัมมาดอฟ (ผู้รักษาประตู) - อากิล นาบิเยฟ, บาดาวี ฮูเซย์นอฟ, เอลวิน มัมมาดอฟ, อเล็กซานเดอร์ เชอร์โตกานอฟ, อฟราม อิสมายีลอฟ, วาจิฟ ยาวาดอฟ, บรานิมีร์ ซูบาชิช, ราอุฟ อลิเยฟ, วูการ์ นาดิรอฟ, นิซามี ฮายิเยฟ


        ผู้ตัดสิน
:
ซิซมอน มาร์ชิเนี๊ยค (โปแลนด์)

 

สรุปผล ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป
กลุ่ม เอ

- เบลเยียม เสมอ โครเอเชีย  1 - 1
- เซอร์เบีย ชนะ เวลส์  6 - 1
- สกอตแลนด์ เสมอ มาซิโดเนีย  1 - 1


กลุ่ม บี
- บัลแกเรีย ชนะ อาร์เมนีย  1 - 0
- อิตาลี ชนะ มอลต้า  2 - 0


กลุ่ม ซี
- สวีเดน ชนะ คาซัคสถาน   2 - 0
- ออสเตรีย แพ้ เยอรมัน  1 - 2


กลุ่ม ดี
- โรมาเนีย ชนะ อันดอร์ร่า  4 - 0
- ตุรกี ชนะ เอสโตเนีย  3 - 0
- ฮังการี แพ้ ฮอลแลนด์  1 - 4


กลุ่ม อี
- ไซปรัส ชนะ ไอซ์แลนด์  1 - 0
- นอร์เวย์ ชนะ สโลวีเนีย  2 - 1
- สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ แอลเบเนีย  2 - 0


กลุ่ม เอฟ
- อิสราเอล แพ้ รัสเซีย  0 - 4
- ไอร์แลนด์เหนือ เสมอ ลักเซมเบิร์ก  1 - 1
- โปรตุเกส ชนะ อาเซอร์ไบจาน  3 - 0


กลุ่ม จี
- บอสเนียฯ ชนะ ลัตเวีย  4 - 1
- สโลวะเกีย ชนะ ลิคเตนสไตน์  2 - 0
- กรีซ ชนะ ลิทัวเนีย  2 - 0


กลุ่ม เอช
- ซาน มาริโน่ แพ้ มอนเตเนโกร   0 - 6
- โปแลนด์ ชนะ มอลโดวา  2 - 0
- อังกฤษ เสมอ ยูเครน  1 - 1


กลุ่ม ไอ
- จอร์เจีย แพ้ สเปน  0 - 1
- ฝรั่งเศส ชนะ เบลารุส  3 - 1


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ดัตช์ถล่มฮังการี4-1,เบียร์เฉือนออสเตรีย2-1
      "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ระเบิดฟอร์ดเก่งไล่ถล่มแหลก ฮังการี เจ้าถิ่นแบบไม่ไว้หน้า 4-1 ขณะที่ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน เบียดชัยเหนือ ออสเตรีย สุดมันส์ 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดี. และ กลุ่ม ซี. ตามลำดับ เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา
  • แลมพ์สซัด,เจิดใบแดง!สิงโตไล่เจ๊ายูเครน1-1
    แฟร้งค์ แลมพาร์ด สวมบทฮีโร่ซัดจุดโทษนาทีที่ 86 ช่วย "สิงโตคำราม" อังกฤษ เปิดเวมบลี่ย์ไล่ตามตีเสมอ ยูเครน 1-1 โดยเกมนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ถูกสองใบเหลืองกลายเป็นใบแดงไล่ออกท้ายเกม ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช. เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา
  • กระทิงดุหืดจับ!บุกเฉือนจอร์เจียหวิว1-0
      "ขุนพลกระทิงดุ" สเปน ต้องออกแรงเหนื่อยกว่าจะบุกเก็บชัยเหนือ จอร์เจีย เจ้าบ้าน 1-0 เก็บสามแต้มได้สำเร็จตามเป้าหมาย ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ. เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา
  • สิงโตยวบเจิดนำทัพบู๊ยูเครน,อินทรีบุกออสเตรีย
    ศึกลูกหนังเวิลด์คัพ 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ประจำวันอังคารที่ 11 กันยายน 2555 มีลงสนามเตะฟาดแข้งกันตั้งแต่กลุ่มเอ จนกระทั่งถึงกลุ่มไอ ส่วนแต่ละทีมจะพร้อมกันมากน้อยขนาดไหนคงต้องไปติดตามพร้อมๆกันและคืนนี้คง ได้รู้ผลว่าใครชนะและทีมไหนแพ้หรือว่าคู่ไหนจะออกมาเสมอกันบ้างหลังจบการ แข่งขัน ขณะที่ช่อง 7 จะถ่ายทอดสดคู่ของ อังกฤษ พบ ยูเครน

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »