ควันออกหูในทันที! สำหรับสาว พิ้งค์กี้ สาวิกา เมื่อถามถึงข่าวเม้าท์มอยที่ว่าเพิ่งจะควงทาง เป๊ก สัญชัย ไปดูหนังในห้างย่านลาดพร้าว แถมคนปล่อยข่าวยังมีการยืนยันด้วยว่าเห็นอย่างนั้นจริงๆ งานนี้สาว พิ้งค์กี้ รับโกรธมากกับข่าวนี้ ลั่นปัญญาอ่อน เพราะความจริงแล้วเธอไปดูหนังกับครอบครัวเท่านั้น พร้อมท้าให้เอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาดู ก่อนเผยรู้ตัวคนให้ข่าว แต่ไม่เอาเรื่อง ลั่นใครทำใครได้...

          พิ้งค์กี้ แจงไปดูหนังจริง แต่ไปกับครอบครัวเท่านั้น "อยากจะบอกคนที่ให้ข่าวนี้ จิตใจเค้าทำด้วยอะไรน่ะคือแบบคิดได้ยังไงน่ะเอาข่าวเท็จมาลงน่ะ ไม่เข้าใจว่าจิตใจเค้าทำด้วยอะไรน่ะค่ะคือไอการที่เราไปดูหนังเป็นที่ๆ เราสบายใจ แล้วเราแบบไปกับครอบครัว ไปกับแม่ วันนั้นที่กี้ไปๆ กับคุณป้าสองคน รวมกันเป็นสี่คน แล้วก็การที่เราไปเนี่ยไปประจำอยู่แล้วที่ อิมพีเรียล ลาดพร้าว ไปดูประจำอยู่แล้วกับครอบครัว"

        "แล้วก็พี่ๆ คนที่ดู เก็บตั๋วทุกคนก็ถ่ายรูปกับเราวันนั้น ซึ่งเราก็ทำอย่างนั้นประจำ ก็ไม่ทราบว่าคนที่เอาไปปล่อยข่าวหรือพูดเนี่ยคิดยังไง (ได้อ่านแล้ว?)อ่านแล้ว บางทีมันเยอะไปน่ะพี่ บางครั้งแบบมันควรจะมีเหตุและผลบ้างในการที่จะเม้าท์ ดูซะก่อนว่าแบบเอ๊ยเค้ามากับใครจริงๆ แล้วป้าเราสองคนที่อยู่ข้างหลังเนี่ยคืออะไร ที่เดินมาด้วยกันสองคนคืออะไร แล้วเข้าไปเนี่ยพนักงานทุกคนเห็นหมดค่ะถ้าเกิดจะมีใครจริงๆ เดินเข้าไปก็คือก็ต้องเห็นน่ะ แต่นี่คือพูดน่ะ สักแต่ว่าพูด คือไม่ได้คิดว่าความเสียหายมันคืออะไรน่ะ"

         นอนยันไม่ได้ไปกับทาง เป๊ก สัญชัย "มันจะมียังไงล่ะคะพี่ เรื่องเกิดขนาดนี้น่ะ ใครจะบ้าไปล่ะคะพี่ มันปัญญาอ่อนไปแล้วค่ะจริงๆ (โกรธไหม?)โกรธมาก (เป็นไปได้ไหมที่พี่เป๊กจะไป แต่ไม่ได้ไปกับเรา?)ไม่ทราบค่ะ คือพี่เป๊กอะไรหนูไม่รู้ค่ะ คือเค้าไม่ใช่ครอบครัวหนูแล้วก็ไม่ได้อยู่ในสมองหนู เพราะฉะนั้นไอคนเม้าท์นี่ขอร้อง คือคิดก่อนที่จะทำหรือว่าพูดอะไรอย่างเนี้ยะ คืออย่าเม้าท์อะไรเยอะเกินไป"

        เปรยไม่เอาเรื่องคนปล่อยข่าว แม้พอจะรู้ตัวว่าใคร "ไม่ต้องเอาเรื่องอะไร เค้าเม้าท์อะไรก็ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ ก็รู้สึกว่าก็ปล่อยเค้าน่ะค่ะ คือสิ่งที่เค้าทำมันก็เข้าตัวย้อนกลับไปเองน่ะค่ะ เพราะว่าคนเรามันบางทีมันก็ต้องแบบคิดก่อนที่จะทำทุกครั้ง คือมันสร้างความเสียหายไปแล้วมันก็ย้อนกลับมาไม่ได้ค่ะ คืออ่านไปแล้วมันก็อ้าวตกลงยังไงเนี่ย หนูก็อ่านแล้วตกลงยังไงก็งงอยู่"

        "หนูรู้ค่ะ วันนั้นมีคนมาขอหนูถ่ายรูปคนนึงแล้วรู้ว่าคือใคร แต่ว่าไม่อยากพูด ไม่รู้ว่าเค้าหรือใครค่ะ แต่ว่าเค้าบอกว่าเค้ายืนยันเลยว่าเห็น ก็ถ้ายืนยันก็ไปดูกล้องวงจรปิดที่ห้างละกัน แล้วก็ไปถามพนักงานเก็บตั๋ววันที่สองว่ามีใครบ้าง ถามว่ากี้ขึ้นไปกับใคร มีดูเรื่องอะไร เป็นหนังผีใครจะเข้าไปดูกับกี้นอกจากครอบครัว"

         สุดท้ายพิ้งค์กี้ฝากถึงคนปล่อยข่าว "ฝากเค้าก็คือ เค้าเป็นมนุษย์หรือเปล่า คือก่อนที่จะดู หรือว่าเม้าท์เอามาบอกต่อคือควรจะดูแล้วก็สังเกตุว่ามันจริงหรือเปล่า ไม่ใช่ว่ายืนยันๆ คือต้องคิดถึงจิตใจคนอื่นบ้างน่ะพี่ มันก็ผ่านนี่จะเข้าปีใหม่ นี่จะสี่ปีแล้วเนี่ยมันยังไม่อีกน่ะเรื่องเนี้ยะ"