ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.จรัมพร เข้าไปดูแลด้านการสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตอดีตดาราชื่อดังฉายาไข่มุกแห่งเอเชีย ''ภาวนา ชนะจิต'' ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ด้านน้องสาวยังติดใจ เร่งให้ตำรวจทำคดี

    เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ นางอรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ภาวนา ชนะจิต เจ้าของฉายาไข่มุกแห่งเอเชีย อายุ 69 ปี อดีตดาราชื่อดังว่า
     

    จากกรณีนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก เพราะยังมีหลายอย่างที่ชวนให้น่าสงสัยว่า ผู้ตายนั้นจะไม่ได้ตายด้วยอุบัติเหตุอย่างที่เป็นข่าว ทั้งนี้ทางด้านของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.จรัมพรสุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าไปดูแลด้านการสืบสวนสอบสวนคดี โดยเฉพาะการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งทางด้าน พล.ต.ท.จรัมพร ได้เข้าพื้นที่และควบคุมเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ในวันที่ 12ก.ย. 55 และคาดว่าจะมีความคืบหน้าระดับหนึ่งรายงานต่อ ผบ.ตร. ได้รับทราบต่อไป
           

    ด้านโฆษกตำรวจ กล่าวว่า ''เนื่องจากคดีนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิตยังข้องใจสาเหตุการเสียชีวิต ตำรวจจึงต้องหาพยานหลักฐานทุกด้านอย่างรอบคอบ ยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่า เป็นการฆาตรกรรมหรืออุบัติเหตุ แม้ผลการชันสูตรจะออกมาแล้วก็ตาม โดยต้องตรวจที่เกิดเหตุซ้ำและตรวจหาพยานหลักฐานทั้งภาพจากวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนการติดต่อสื่อสาร และพยานแวดล้อมอื่นๆ อย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อให้สิ้นสงสัยก่อนสรุปผล'' โฆษก ตร. กล่าว
    

    ทั้งนี้ในวันเดียวกันที่งานสวดอภิธรรม ภาวนา ชนะจิต คืนที่ 2 เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 ก.ย. 55 ที่ศาลา 16 วัด มกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ผู้สื่อข่าวรายงานพิธีสวดอภิธรรม นางอรัญญาภรณ์ เหล่าแสงธรรม หรือ ''ภาวนา ชนะจิต''มีเหล่าคนในวงการบันเทิงที่เดินทางมาร่วมพิธีสวดอภิธรรมในวันนี้นั้นให้เห็นพอสมควร มี ชาลี อินทรวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ และ อ.ไพจิตร ศุภวารี เป็นเจ้าภาพ ส่วนดาราที่เดินทางมาร่วมพิธีในวันนี้ อาทิ สมบัติ เมทะนี, พอเจตน์  แก่นเพชร, ไกรครรชิต, รุ้งราวัลย์  ศรีปฏิมากูล, สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ฯลฯ
    

    โดยเหล่าคนบันเทิงได้แสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิตด้วยความอาลัย
    

    โดย นางหัทยา เหล่าแสงธรรม น้องสาวของ ภาวนา ชนะจิต ได้เผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าเรื่องคดีว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ติดต่อไปสอบถามถึงความคืบหน้า ซึ่งตอนนี้ทางฝ่ายผู้ใหญ่ของตำรวจได้สั่งการให้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและรีบคลี่คลายคดีนี้โดยด่วน เพราะเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ ทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตรู้สึกสบายใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็ยังเกรงว่าจะมีการล้มคดี เพราะอีกฝ่ายมีเงินมากพอสมควร
    

    นอกจากนี้ ยังได้เล่าถึงพฤติกรรมอันชอบมาพากลของอีกฝั่งให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้เอาคนไปเฝ้าที่หน้าบ้าน เพราะว่าตำรวจห้ามใครเข้าบ้าน แต่ว่าทางฝ่ายสามีของพี่สาวตนได้ออกมาไล่ห้ามและก่อกวน ตนอยากรู้ว่าทำไมถ้าบริสุทธิ์ใจถึงไม่ให้ทางญาติเข้าไปที่บ้านได้ ขณะที่เขาสามารถเข้าไปที่บ้านได้ พรุ่งนี้ 10.00 น. ตนจึงจะให้ทางลูกชายพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปที่บ้าน เพื่อดูว่ามีการย้ายข้าวของอะไรออกจากบ้านบ้าง เพื่อเป็นเบาะแสทางคดีต่อไป
    

    นอกจากนี้ หัทยา น้องสาวยังได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ฝ่ายสามีของพี่สาวถือกุญแจ และยังได้มีการมาขอทางฝ่ายญาติว่าอยากเป็นเจ้าภาพ แต่ทางญาติได้แจ้งไปว่าเจ้าภาพเต็มแล้ว ทางนั้นก็ต่อรองว่าขอร่วมเป็นเจ้าภาพได้ไหม แต่ทางญาติก็ได้ให้คำตอบไปว่า คนที่เป็นเจ้าภาพเขาบอกว่าอย่าดีกว่า ซึ่งทางนั้นก็ไม่ได้ต่อรองอะไรต่อ
    

    นอกจากนี้ นางหัทยายังได้โต้ข้อกล่าวหาที่ว่า มีคนบอกว่าทางญาติชอบไปยืมเงินกับนางภาวนาขณะช่วงมีชีวิตอยู่  ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีพวกตนไม่เคยไปยืมเงินพี่สาวแม้แต่บาทเดียว พร้อมกับกล่าวขอร้องฝ่ายตรงข้ามว่าอย่าเบี่ยงเบนประเด็น
    

    สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรม นางภาวนา  ชนะจิต จะมีขึ้นเป็นเวลา 7 วัน จากนั้นจะเก็บไว้ 100 วัน ก่อนทำการฌาปนกิจต่อไป โดยในวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ย. 55 อ.ไพจิตร ศุภวารี เป็นเจ้าภาพในพิธีสวด