สมาชิกวุฒิสภา ผู้ทำงานใกล้ชิดวงการกีฬามายาวนาน แสดงความเป็นห่วงในกรณีความคืบหน้าของสนามฟุตซอลโลก ชี้อาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศ

นฤมล ศิริวัฒน์ แสดงความวิตกกังวลว่าประเทศไทยจะเสียชื่อเพราะสนามหนองจอกเสร็จไม่ทันฟุตซอลโลกแม้สมาคมฟุตบอลอ้างมีแผนสำรอง จี้ให้ยอมรับความจริงและหันไปเร่งเรื่องการประชาสัมพันธ์แทน

นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมมาธิการการกีฬา วุฒิสภา (กมธ.ส.ว.กีฬา) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา มีวาระสำคัญคือ การติดตามความคืบหน้าการเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายน โดยเชิญตัวแทนจากสมาคมฟุตบอลเข้าชี้แจง

จากการที่คณะกมธ.กีฬา วุฒิสภา ได้สอบถามถึงความคืบหน้าของสนามแข่งขัน และการประชาสัมพันธ์ โดยนางนฤมล ได้กล่าวว่า "ถึงแม้ทางสมาคมฟุตบอลฯยืนยันว่ามีแผนสำรองไว้แล้วสนามหนองจอกฯเสร็จไม่ทันกำหนดจริง แต่ก็ถือว่าเป็นความเสียหายของประเทศชาติเพราะเราได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาระดับโลก ซึ่งมีการเสนอแผนงานไปแต่ไม่สามารถทำได้ตามที่กำหนดไว้"

"นอกจากนี้เรายังได้เป็นห่วงเรื่องการประชาสัมพันธ์ที่ยังน้อยอยู่ทั้งๆที่ใกล้เวลาแข่งขันแล้ว ซึ่งเรามองว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่างๆต่อไปได้นั้นเพราะยึดติดกับสนามหนองจอกฯมากเกินไป ตอนนี้สมาคมฟุตบอลควรจะชี้ชัดไปเลยว่าจะใช้ได้หรือไม่ ไม่ใช่รอทางฟีฟาเป็นผู้กำหนดแต่อย่างเดียว ซึ่งถ้ายอมรับว่าไม่สามารถสร้างเสร็จทันจะได้มีเวลาเตรียมการในส่วนอื่นมากขึ้น"

ด้าน องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลให้สัมภาษณ์ว่า "ที่ทาง กมธ.กีฬาเร่งให้เราฟันธงว่าสนามสร้างไม่ทันเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เพราะเวลายังเหลือและเราต้องให้โอกาสผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ แต่เราก็มีแผนสำรองตามกำหนดของฟีฟ่าอยู่แล้ว "

ทั้งนี้ที่ประชุมได้แจ้งว่าครั้งต่อไปจะเชิญตัวแทนจากสำนักงานงบประมาณเข้าชี้แจงว่าสาเหตุใดที่สนามฟุตซอลหนองจองฯจึงสร้างเสร็จไม่ทันกำหนดทั้งที่รัฐบาลให้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 1 พันกว่าล้านบาท รวมทั้งจะขอเอกสารการประชุมของฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลโลกที่ทางเลขาธิการสมาคมฟุตบอลอ้างว่ามีการประชุมครั้งแรกตั้งแต่ปี 2554 อีกด้วย