หากคุณจำได้ เธอคือสาวน้อยจากอะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่นแรก และ “แนน V3” คือฉายาของเธอ แต่วันนี้ เธอกลายเป็นพิธีกรรายการฟุตบอลชั้นนำของเมืองไทย นี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้คุยกันวันนี้

เมื่อปี 2550 คนทั้งประเทศต่างคลั่งไคล้รายการเรียลลิตี้ยุคแรกๆ ของไทยรายการหนึ่งนามว่า “ยูบีซี อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 1” ที่แฟนคลับทั้งหลายได้เทคะแนนกดโหวตกันตามชอบ และ “แนน-ณัชธน์กมล ก่อสุวรรณ” หรือ “แนน V3” คือหนึ่งในสาวน้อยผู้เข้าแข่งขัน

ไม่กี่ปีหลังจากนั้น หลายคนพบได้พบกับเธออีกครั้งด้วยความจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เธอไม่ได้เป็นนักร้องอาชีพ แต่มาในมาดของพิธีกรสาวทางช่องกีฬาของทรู วิชั่นส์อย่างทรู สปอร์ต และเธอกลายเป็นสาวสวยประดับวงการสื่อมวลชนกีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะฟุตบอลไทยไปในทันที

ด้วยความเป็นสาวน้อยที่มีบุคลิกกระฉับกระเฉง มั่นใจ และการเข้ารายการที่น่าสนใจ เรียกสายตาของแฟนๆ ที่รับชมผ่านการถ่ายทอดสดได้เป็นอย่างดี และแน่นอน โกล.คอม ประเทศไทยก็สนใจที่จะพาสาวคนนี้มาให้คุณรู้จักกันแบบเจาะลึก

Off The Ball ชิ้นนี้ ยินดีต้อนรับ...แนน ทรู วิชั่นส์

โกล.คอม: สมัยที่คุณยังเป็นเด็กหญิงแนน ความฝันของคุณคือสิ่งนี้หรือเปล่า?
ณัชธน์กมล: ไม่เลยค่ะ ต้องบอกว่าสมัยเด็กๆ นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟุตบอลเลยด้วยซ้ำ ตอนแรกสุดคือฝันอยากเป็นนักร้องนะ (ยิ้ม) เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่เรียนเต้น อ้อ! แล้วก็มีเรียนเต้น ยิมนาสติก ประมาณนี้ เพราะว่าเราเป็นเด็กที่ไม่ค่อยแข็งแรง ประมาณนี้มากกว่า แล้วหลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมมาแทบทุกอย่างที่เกี่ยวกับบันเทิง แต่คือจริงๆ แล้วเราเป็นเด็กขี้อายด้วยซ้ำนะ แต่ด้วยความที่น้องชอบ แล้วพ่อแม่ถือคติว่าต้องส่งลูกให้ชอบเหมือนๆ กัน เลยเป็นผลพลอยได้ของเรา (หัวเราะ)

โกล.คอม: เราทราบมาว่าจริงๆ แล้วคุณคือแนน แห่งอะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 1 นี่นา, มันไปยังไงมายังไง?
ณัชธน์กมล: ก็เหมือนกับว่าเราทำกิจกรรมมาเยอะแล้วทีนี้ก็เลยอยากหาสนามประลองมั้งคะ (หัวเราะ) คือความอายที่เคยมีมันค่อยๆ พัฒนาขึ้น คือเหมือนเราก็เริ่มมีฝัน แล้วครอบครัวก็ผลักดันค่ะ ก็แบบว่า ลองไปดูสิ อะไรแบบนี้

พอเข้าไปแล้วเราก็พยายามโชว์สิ่งที่เราเคยทำ, เคยฝึกมาให้เขาดู เหมือนไปสะกิดต่อมกรรมการเข้ามั้งคะ (หัวเราะ) ก็ได้เข้ารอบไปเลย
ที่เหลือก็อย่างที่เห็นจากทีวีค่ะ มีเรียลลิตี้ มีเข้าบ้านเอเอฟ อะไรแบบนี้ คือเราก็ได้ลองประสบการณ์ใหม่ๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

โกล.คอม: จากอะคาเดมี แฟนเทเชียสู่พรีเซ็นเตอร์แห่งวงการฟุตบอลไทย?
ณัชธน์กมล: ตอนที่เสร็จจากเอเอฟ ก็มีพี่ๆ ที่ทางทรู วิชั่นส์มาถามเราว่าอยากมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ช่องกีฬาไหม? ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจคำว่า ”พรีเซ็นเตอร์” นะ เราก็นึกว่าให้ไปถือป้าย ไปโชว์สินค้าอะไรแบบนี้ คือเราไม่รู้ไง (หัวเราะ) แต่พอมาจริงๆ เราก็เพิ่งเข้าใจว่า อ๋อ, มันคือผู้ประกาศนะ ก็เริ่มทำมาตั้งแต่รายการ U League, U Gen ช่วงนั้นเลยค่ะ

คือตอนแรกต้องบอกว่าไม่ได้เก่งอะไรเลยนะคะ (ลากเสียง) แต่เราก็เริ่มมาตั้งแต่เปิด-ปิด เข้ารายการ ปิดรายการ เท่านั้น แต่แบบว่าคือ พอได้ทำมาเรื่อยๆ เริ่มได้ทำไทยลีก ก็เพิ่งจะปี-สองปีนี่เองนะคะ ก็เริ่มคุ้นกับแต่ละทีมมากขึ้น เริ่มโปร อะไรแบบนี้ (ยิ้ม) แต่พอได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ทำโจทย์มากขึ้น จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นค่ะ

โกล.คอม: เป็นสาวที่คลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอลไทย คุณชอบทีมไหนเป็นพิเศษบ้างหรือยัง?
ณัชธน์กมล: ต้องบอกว่าเราคือเราเองก็ชอบหลายทีมนะคะ เพราะคิดว่าแต่ละทีมก็จะมีความน่ารักในแบบของเขา อย่างชลบุรีฯ นี่เราชอบเพราะว่าเขาเป็นทีมที่มีความเป็นมืออาชีพทั้งในและนอกสนาม ชอบคุยกับโค้ชเฮง (วิทยา เลาหกุล) เพราะเขาไนซ์มาก เป็นทีมที่มีการพัฒนาจากอดีต ล้มลุกคลุกคลานกับฟุตบอลไทยมานานจนแข็งแกร่งในที่สุด, บีจี (บางกอกกล๊าสฯ) นี่ก็จะมีความเป็นครอบครัว คาแรคเตอร์เขาจะชัดเจน มีความใกล้ชิด อะไรแบบนี้, เมืองทองฯ เป็นทีมที่มีระบบความคิดและการจัดการที่มืออาชีพ มีความมุ่งมั่นในหลายๆ มุมที่เราชื่นชมเขาค่ะ

แต่จริงๆ เราก็พูดไม่ได้นะว่าเราชอบทีมอะไรเป็นพิเศษ เพราะด้วยหน้าที่ที่เรายืนอยู่ตรงนี้ด้วยแหละ เป็นสื่อมวลชนเต็มตัวจะยืนข้างใดข้างหนึ่ง มันก็ไม่ใช่ จริงไหมคะ?

...เราพูดผิดจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ
เป็นมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พี่ตากล้องนี่ขำเลย  

โกล.คอม: แล้วคุณชอบหนุ่มนักฟุตบอลคนไหน?
ณัชธน์กมล: จริงๆ เราก็ชอบหลายคนนะ (ยิ้ม) แต่ถ้าจะให้เลือกเราชอบกวิน (ธรรมสัจจานันท์) แหละ เพราะเขาดูเป็นคนที่มุ่งมั่น ตั้งใจ คือเราเห็นแล้วเราก็ชื่นชมในความพยายามและผลงานของเขา ที่สำคัญเขาเป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษทั้งในและนอกสนาม ประมาณหนึ่ง เท่าที่เคยสัมผัสหรือได้ร่วมงานกันมา

โกล.คอม: เป็นพิธีกรรายการสด, เราเชื่อว่าคุณต้องมีเหตุการณ์สุดประทับใจขณะออน แอร์ คุณแชร์ให้เราฟังได้ไหม?
ณัชธน์กมล: แน่นอนค่ะ (หัวเราะ) ตั้งแต่สมัยทำ U League, U Gen ค่อนข้างบ่อยเลยค่ะ เพราะฟิลรายการสดมันต้องมีบ้าง (ยิ้ม) แต่ที่ประทับใจที่สุดก็คงจะเป็นสมัยที่ทำฟุตบอลมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเราเป็นพิธีกรที่ม.กรุงเทพ ไอ้เราก็แนะนำเลย “สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยู่กันที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานครนะคะ” (หัวเราะ) คือแบบตากล้องก็แบบหลุดขำนะ แต่เราก็ต้อง Keep Going ต่อไปนะ

...ความเป็นสื่อมวลชนที่ดี
คือต้องพยายามสื่อ"สาร"ที่ถูกต้องสู่"มวลชน"
โดยเฉพาะเกมกีฬาที่มันต้องมีแพ้-มีชนะ  

โกล.คอม: ในฐานะผู้หญิงที่อยู่ในวงการสื่อมวลชนกีฬาที่ค่อนข้างไปในทางผู้ชาย คุณมีอะไรอยากจะบอกหรือไหม?
ณัชธน์กมล: ด้วยความที่เป็นผู้หญิง แน่นอนว่าหลายคนอาจจะมองว่าเราอาจจะมีประสบการณ์หรือความรู้รอบด้านทางฟุตบอลอาจจะน้อยกว่าผู้ชาย อาจจะตีความไปก่อนแล้วว่าอาจจะผิดพลาดบ้าง แต่ก็มีบางคนที่ใจกว้าง ก็จะเข้าใจว่า เออ, นี่ผู้หญิงทำนะ เราก็รู้สึกดีใจที่มีคนเข้าใจเรา
ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คน ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามาให้เราลุกขึ้นได้ต่อไป มันทำให้เราอยากจะตั้งใจทำงานให้ดีขึ้น ให้ผิดพลาดน้อยลง เหมือนต้องขอบคุณทุกคำติชมนั่นแหละค่ะ ทั้งเว็บบอร์ด, นักเลงคีย์บอร์ดต่างๆ หลายครั้งที่เราเฟลนะ แต่เราก็ยอมรับข้อผิดพลาดทั้งหมดมาแก้ไขใหม่ เราก็ อืม, รู้อะไรมากขึ้นในทุกวันนี้ค่ะ

โกล.คอม: ฝากอะไรส่งท้ายถึงแฟนคลับของคุณหน่อย?
ณัชธน์กมล: ความเป็นสื่อมวลชนที่ดีคือการเป็นกลางและพยายามสื่อสารที่ถูกต้องออกสู่มวลชน โดยเฉพาะเกมกีฬาที่มันอาจจะมีแพ้มีชนะ คือสิ่งที่ควรคำนึงที่สุดคือความเป็นกลางค่ะ หลายครั้งที่เราอาจจะต้องเจอกับคำวิพากษ์วิจารณ์ แต่นั่นก็คือเครื่องวัดความเป็นมืออาชีพของเรา ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมันให้ได้ และต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง

“สื่อมวลชนที่ดีอาจทำผิดพลาดบ้างในบางครั้ง แต่ก็พร้อมจะยืดอกรับอย่างภาคภูมิเพื่อต้องการแก้ไขให้ถูกต้องต่อไปในอนาคต” และวันนี้ การที่ โกล.คอม ประเทศไทย ได้คุยกับสาวน้อยที่อยู่แนวหน้าของวงการสื่อมวลชนกีฬาหน้าจอทีวี ทำให้เราได้เข้าใจความหมายของประโยคข้างบนชัดเจนยิ่งขึ้น

โกล.คอม ประเทศไทย จึงอยากขอบคุณทรู วิชั่นส์, คุณแนน ณัชธน์กมล และอะคาเดมี แฟนเทเชีย ที่ทำให้เราได้รู้จักเธอในวันนี้ เพื่อค้นพบอีกหนึ่งกำลังพลดีๆ ในการช่วยผลักดันวงการฟุตบอลไทยให้เดินไปอย่างมั่นคงพร้อมกัน

"สำหรับแนนแล้ว ความผิดพลาดคือครูที่ดีที่สุดในการปรับปรุงแก้ไขสู่ความเป็นมืออาชีพในปัจจุบัน"

สมัยที่ยังเป็นสาวปฏิบัติการล่าฝันกับยูบีซี อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่นแรก (ขอบคุณภาพจากทรู วิชั่นส์)

สู่การเป็นพิธีกรรายการกีฬา โดยเริ่มต้นจากรายการฟุตบอลมหาวิทยาลัยอย่าง U League, U Gen