พ่อคนที่2ชี้''เอ๋''เครียด!มึนเงินเป็นสิบล้านไปไหน
Posted 15/10/2012 by siamdara
''นฤชา เพ่งผล'' นักจัดรายการจิ๊กโก๋ยามบ่าย ผู้ผลักดัน ''เอ๋'' พัชรา แวงวรรณ เข้าสู่วงการ จนถูกยกให้เป็นพ่อคนที่ 2 เชื่อนักร้องสาวอาจมีเรื่องเครียดทำให้คิดสั้น เผยเคยมาขอยืมเงิน 2 พันไปจ่ายค่าไฟ คาใจเงินเป็นสิบล้านที่ได้จากการร้องเพลงหายไปไหน เตรียมจับมือนิธิทัศน์จัดคอนเสิร์ตใหญ่ช่วยเหลือครอบครัว กงสุลใหญ่ลอสแอนเจลีส เผยผลชันสูตรศพ ''พัชรา แวงวรรณ'' ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดรอผลการตรวจสอบ แต่ตำรวจสหรัฐฯ ยืนยันไม่ใช่การฆาตกรรม และสามารถรับศพได้บ่ายวันจันทร์นี้ แต่ต้องรอหนังสือมอบอำนาจจากมารดา โดยวันอังคารกงสุลเตรียมพบตำรวจหารือสาเหตุที่แท้จริงถึงข้อมูลที่สรุปเร็วว่าไม่มีการฆาตกรรม
ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ น.ส.ผดุงศรี แวงวรรณ หรือ ''เอ๋'' พัชรา แวงวรรณ วัย 48 ปี อดีตนักร้องชื่อดังวงโอเวชั่นในสภาพแขวนคอกับขื่อรถบ้านเช่าในเมืองเมริเวอร์ไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาสถาบันนิติเวชเมืองริเวอร์ไซด์ แจ้งกับสถานกงสุลใหญ่ นครลอสแอนเจลีส ระบุเป็นการแขวนคอตาย แต่พ่อแม่และพี่ชายของนักร้องชื่อดังในอดีต ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะก่อนเสียชีวิต ''เอ๋-พัชรา'' เพิ่งติดต่อกลับมาให้ค้นหลักฐานการศึกษาส่งไปให้เพื่อใช้สอบพยาบาล มีรายงานข่าวว่า โดยนายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชายของพัชรา ได้เปิดเผยว่า น้องสาวมักเล่าประจำว่าช่วงที่พักอยู่ที่บ้านในที่เกิดเหตุ ได้เช่าบ้านอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวอเมริกันผิวดำชายอายุ 80 ปี ที่ภรรยาเสียชีวิตแล้ว และมีลูกชายผิวดำอายุกว่า 40 ปี อาศัยอยู่ด้วย โดย ''เอ๋-พัชรา'' เล่าประจำว่ามีปัญหาและมีปากเสียง เดือนละหลายครั้ง และมีปากเสียงกับ 2 พ่อลูกอยู่เสมอ แต่ก็ต้องทนอยู่ เพราะหาที่อยู่ลำบาก และบ่นไม่สบายใจมาโดยตลอด ดังนั้นเพื่อคลายข้อสงสัยในประเด็นนี้ จึงทำเรื่องยื่นไปขอผ่าพิสูจน์จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้ถูกฆาตกรรมแล้วจัดฉากแขวนคอตายอำพรางคดี คาดว่าใช้เวลา 1 เดือน จึงจะทราบผลตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 55 นายบรรณา วังวิวัฒน์ กงสุลประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยความคืบหน้าการเสียชีวิตของอดีตนักร้องดังวงโอเวชั่น ว่าผลการชันสูตรศพยังไม่สามารถระบุในรายละเอียดได้ เพราะยังรอผลการตรวจสอบของตำรวจสหรัฐฯ แต่สามารถรับศพได้ในช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ และจากการสอบถามคนไทยที่นั่นส่วนใหญ่ไม่ทราบว่า ''พัชรา แวงวรรณ'' อาศัยในรัฐแคลิฟอร์เนียแม้ว่าจะเป็นรัฐที่คนไทยอาศัยอยู่มาก และคนไทยส่วนใหญ่จะพบปะทำกิจกรรมร่วมกันที่วัดไทย
ขณะที่นายประสิทธิพร เวทย์ประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ ''เอ๋-พัชรา'' ว่า กงสุลฝ่ายคุ้มครองดูแลคนไทย สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแอนเจลีส ประเทศสหรัฐฯ ได้รับแจ้งข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของสหรัฐฯ หลังจากการชันสูตรพลิกศพ เพียงว่าการเสียชีวิตดังกล่าวไม่ใช่สาเหตุฆาตกรรม ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น สถานกงสุลใหญ่ไทยกำลังรอหนังสือแจ้งข้อมูลอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ถ้าญาติของ น.ส.พัชรา มีข้อสงสัยในเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต ก็มีสิทธิ์ยื่นเรื่องผ่านมายังกรมการกงสุล เพื่อดำเนินการร้องขอให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ สอบสวนหรือพิสูจน์ศพอีกครั้งได้
สำหรับการประสานงานในการนำศพผู้เสียชีวิตกลับไทยนั้น ทางญาติของผู้เสียชีวิตแจ้งว่าจะขอนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ประเทศไทย กรมการกงสุลจึงให้ทางญาติดำเนินการส่งเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ยังคงเป็นไปตามการดำเนินการดังกล่าว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสัมภาษณ์ นายนฤชา เพ่งผล นักจัดรายการจิ๊กโก๋ยามบ่าย ซึ่งเป็นผู้ผลักดัน ''เอ๋-พัชรา'' เข้าสู่วงการ และนักร้องสาวยกให้เป็นพ่อคนที่สอง ถึงการเตรียมการจัดงานศพนักร้องสาวชื่อดังผู้ล่วงลับ ที่ได้รับมอบหมายจากครอบครัว ''เอ๋-พัชรา'' โดยนักจัดรายการชื่อดังขวัญใจวัยโจ๋ยุค 80 กล่าวว่าตนได้ติดต่อวัดสายไหม จ.ปทุมธานี ไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยในวันที่ 15 ต.ค. 55 ครอบครัวของ ''เอ๋-พัชรา'' จะนำเอกสารการขอรับศพจากสหรัฐฯ มาทำพิธีทางศาสนามามอบให้กับสถานกงสุลเพื่อให้ช่วยดำเนินการในการรับศพนักร้องสาวกลับมาโดยเร็ว
ทั้งนี้ นายนฤชา กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกช็อกมากกับการเสียชีวิตของ ''เอ๋-พัชรา'' พร้อมกับเผยด้วยว่า ที่ผ่านมานักร้องสาวชื่อดังในอดีตเคยมาขอยืมเงินตนจำนวน 2,000บาท เพื่อนำไปจ่ายค่าไฟ จนตนรู้สึกคาใจว่า เงินส่วนแบ่งจากการร้องเพลงออกอัลบั้มที่ได้รับจากค่านิธิทัศน์ โปรโมชั่น เป็นสิบๆ ล้าน หายไปไหนหมด
''พอผมทราบข่าวก็ช็อกเลยครับ การเจอกับเอ๋ครั้งล่าสุดเนี่ย เขามาขอตังค์ผม 2 พันบาท บอกว่าจะเอาไปจ่ายค่าไฟ หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ตอนนั้นเขาติดต่อผมมาบอกผมว่ามาหาได้ไหม เขาบอกผมว่าพี่เป็นเหมือนพ่อคนที่สอง เป็นพี่ เป็นเพื่อของหนู เวลามีความทุกข์เขาจะนึกถึงผมเป็นคนแรก พอเขามาหาผมก็ถามว่าเอ๋เป็นอะไร เขาบอกว่าเอ๋กำลังจะโดนตัดไฟ ขอตังค์ 2 พันได้ไหม ผมก็ให้ไป แล้วบอกว่าเอาไปเลยรีบเอาไปจ่ายเขาเลย แล้วก็หายไปไม่เจอกันอีกเลย จนมาทราบข่าวการเสียชีวิตของเขา มีคนโทร.มาบอกผม ผมก็โทร.ไปถามแม่เอ๋ให้แน่ใจ พอคุณแม่ยืนยันผมใจหายเลย คุณแม่เองก็บอกผมว่าเงินทองจะไปรับศพลูกสาวก็ไม่มี ผมก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ แล้วผมก็ติดต่อคุณวิเชียร อัศว์ศิวะกุล เจ้าของค่ายนิธิทัศน์ฯ ก็ตกลงกันว่าจะช่วยนำศพกลับเมืองไทย ถ้านำกลับมาเป็นกระดูกค่าใช้จ่ายอยู่ที่แสนกว่าบาท ถ้านำกลับมาเป็นร่างอยู่ที่ 2-3 แสนบาท คุณวิเชียรก็บอกว่ายังไงก็ต้องนำเอ๋กลับมาเป็นร่าง เพื่อให้แฟนเพลงของเอ๋ได้ร่วมแสดงความอาลัย พรุ่งนี้พี่ชายของเอ๋จะนำหลักฐานไปยื่นให้กงสุลที่เมืองไทย ผมนำเรื่องไปเรียนท่านส.ส.อนุสรณ์ ปั้นทอง ให้ช่วย ท่านก็ประสานหน้าห้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้ เพื่อให้ช่วยดำเนินเการนำศพนักร้องสาวกลับมาโดยเร็ว ผมเสียใจกับการจากไปของเขามาก ก็รู้สึกคาใจเหมือนกันว่า เงินที่เอ๋มีเป็นสิบๆ ล้านจากการร้องเพลงหายไปไหน ทำไมเขาต้องมายืมเงินผม 2 พันไปจ่ายค่าไฟที่กำลังจะโดนตัด ทำไมเขาถึงต้องตกยากอีก ทำไมเขาต้องลำบากขนาดนี้ เขาน่าจะสุขสบายได้แล้ว ผมเสียใจจริงๆ เพราะเวลาที่เขาลำบากจะมาหาผมตลอด ดึกดื่นยังไงก็ต้องเรียก''
นายนฤชากล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนพร้อมกับ นายวิเชียร อัศว์ศิวะกุล เตรียมการที่จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ช่วยศิลปินยามฉุกเฉิน โดยมีศิลปินจากจิ๊กโก๋ยามบ่าย และศิลปินจากค่ายนิธิทัศน์มาช่วยกัน หาเงินรายได้ช่วยเหลือนักร้องที่ตกทุกข์ได้ยาก อย่างรายของเอ๋ ซึ่งเวลานี้คุณแม่เองยังมีความวิตกกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะนำศพลูกสาวกลับมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ ''เอ๋-พัชรา'' จะมีปัญหากวนใจทำให้รู้สึกเครียดจนคิดสั้น นายนฤชากล่าว่า ไม่แน่ใจ แต่ก็มีความเป็นไปได้ แต่เขาก็ห่วงพ่อแม่ห่วงครอบครัว แม้เอ๋เขาจะเป็นคนร่าเริง แต่ก็มีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เขาเครียดพอสมควร เหมือนที่ตนยังรู้สึกคาใจอยู่ว่าทำไมนักร้องสาวถึงได้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากไม่มีเงิน 2 พันบาท ไปจ่ายค่าไฟ
ขณะที่ นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชาย "เอ๋-พัชรา" เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันที่15 ตุลาคมนี้ จะเดินทางไปยังกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำหนังสือมอบอำนาจให้จัดการเรื่องคดีและเรื่องการรับศพน้องสาวกลับมา สำหรับเรื่องคดีและเรื่องการรับศพกลับมา
วันเดียวกัน มีรายงานข่าวด้วยว่า นางศรีสุดารัตน์ กาญจนรักษ์ ยังติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว โดยไม่เชื่อว่า ''เอ๋-พัชรา'' ฆ่าตัวตายแน่นอน โดยได้ให้นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ ลูกชายและเพื่อนทนาย ประสานกับเพื่อนของลูกสาว ให้ทำหน้าที่ในด้านการประสานขอตรวจสอบด้วยการผ่าพิสูจน์ศพ และมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และพิสูจน์หลักฐานทุกด้านโดยใกล้ชิด แม้จะลำบาก และต้องใช้เวลา รวมถึงมีค่าใช้จ่ายก็พร้อมที่จะพิสูจน์ เพื่อให้หายสงสัย และหากผ่าพิสูจน์แล้วมีความชัดเจนว่า ฆ่าตัวตาย จึงจะยอมรับ จะได้สบายใจก่อนประสานให้นำศพส่งกลับมาประเทศไทย เพื่อบำเพ็ญกุศลต่อไป ซึ่งในวันที่ 15 ต.ค. 55 ตนและนายผดุงศักดิ์ ลูกชายจะเดินทางไปที่สำนักงานกงสุลที่ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อยื่นหนังสือที่เป็นเอกสารยืนยันแสดงสิทธิในฐานะญาติ ให้เสนอไปยังกงสุลใหญ่ลอสแอนเจลีส เพื่อขอทำการนำศพไปผ่าพิสูจน์ เผื่อหาสาเหตุการตายให้เป็นที่ชัดเจนให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ส่องความเซ็กซี่ คาเรน คาเอเดะ ดารา AV ขวัญใจมหาชน ประกาศรีไทร์สายฟ้าแลบ
บอมบ์ สุภาวดี สวมบิกินี่ตัวจิ๋ว อวดหุ่นแซ่บริมทะเล
นุ่น โดโรธี นางแบบสาวลูกครึ่งไทย ผู้รับบทผีดงโขมดจากธี่หยด 2 ร่างจริง แซ่บเว่อร์ !
วินแอมป์ จิราภรณ์ สาดความแซ่บเต็มร้อย จนไอจีลุกเป็นไฟ
คาเรน ยูซูริฮะ ดาราดาวรุ่งขวัญใจหนุ่ม ๆ ติดอันดับยอดขายหนัง AV แห่งปี
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์