"ม้าลาย" ยูเวนตุส ต้องหยุดสถิติไร้พ่ายในเกมลีกติดต่อกันไว้ที่ 49 แมตช์หลังเปิดบ้านพ่ายให้กับ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน 1-3 ขณะที่ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน โชว์เพลงแข้งสุดโหดหลังเปิดถิ่นไล่ยำใหญ่ คิเอโว ทีมเยือนแบบไม่ไว้หน้า 5-1 เก็บสามแต้มแบบสบายๆ ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2555

ยูเวนตุส 1   -   3 อินเตอร์ มิลาน

สนาม : ยูเวนตุส สเตเดี้ยม

        เกมดาร์บี้ ดิตาเลีย ที่ ยูเวนตุส สเตเดี้ยม เจ้าถิ่น ยูเวนตุส มีข่าวดีที่ อาร์ตูโร่ วิดาล พ้นแบน และ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ หายเจ็บเรียบร้อย กองหน้าเลือก เซบาสเตียน โจวินโก้ จับคู่ล่าตาข่ายกับ มีร์โก วูชินิช ส่วนทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ก็ได้ ฮวน เฮซุส พ้นโทษพักแข้งเช่นกัน สามประสานแนวรุกอยู่กันครบทั้ง โรดริโก้ ปาลาซิโอ, ดีเอโก้ มิลิโต้ และ อันโตนิโอ คาสซาโน่

        เริ่มเกมเพียง 20 วินาที "ม้าลาย" ได้ประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อ วูชินิช จ่ายให้ ควัดโว อซาโมอาห์ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนตวัดไปเสาสองให้ วิดาล สอดเข้ามาชาร์จไม่เหลือ ขึ้นนำ 1-0

        เจ้าบ้านทำชิ่งกันขึ้นมาสวย จังหวะสุดท้ายเป็น อันเดรีย ปีร์โล่ เปิดเข้าเขตโทษให้ มาร์คิซิโอ วอลเลย์แบบไม่ต้องจับ บอลไปตรงตัว ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช อย่างน่าเสียดาย

        ให้หลังไม่นาน ปีร์โล่ อีกแล้วที่วางเข้าเขตโทษให้ มาร์คิซิโอ พักอกเอาบอลลงแล้วยิงเบาไป ฮันดาโนวิช รับสบาย

        นาทีที่ 12 เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ เปิดฟรีคิกจากฝั่งซ้ายให้ ปาลาซิโอ โหม่งเสียบตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าแล้ว

        "งูใหญ่" เริ่มตั้งลำได้ กัมบิอัสโซ่ เตะมุมสั้นให้ คาสซาโน่ ปั่นไซต์ด้วยขวาบริเวณมุมเขตโทษฝั่งซ้าย บอลโค้งถากเสาสองไปนิดเดียวเท่านั้น

        ผ่านมาถึงนาทีที่ 38 ยูเว่ เปลี่ยนตัวเป็นคนแรก โดยถอด สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ ที่โดนใบเหลืองไปแล้วออก พร้อมส่ง มาร์ติน กาเซเรส ลงแทน

        ท้ายครึ่งแรก วอลเตอร์ ซามูเอล ไปจ่ายพลาด ทำให้ วิดาล ได้โอกาสซัดบนเส้นเขตโทษ แต่ ฮันดาโนวิช ยังเซฟได้เยี่ยม จบ 45 นาทีแรก ยูเว่ ออกนำไปก่อน 1-0

        ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวอีกคน โดยส่ง นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงแทน วูชินิช

        เปิดฉากมา เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เติมขึ้นมาส่องไกลจากระยะประมาณ 25 หลา ทว่า ฮันดาโนวิช ยังชกทิ้งทัน

        จากนั้น คาสซาโน่ ไหลให้ ยูโตะ นากาโตโมะ หลุดเข้ากดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ป้องกันไว้ได้เช่นกัน

        พลพรรค "เนรัซซูรี่" มาได้จุดโทษในนาทีที่ 58 หลัง มิลิโต้ ไปถูก มาร์คิซิโอ ดึงล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ทันที และเป็นเจ้าตัวลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด ตีเสมอเป็น 1-1

        "เบียงโคเนรี่" มาได้ฟรีคิกทางซ้าย ปีร์โล่ ตัดสินใจยิงเอง กระนั้น ฮันดาโนวิช ยังเซฟไว้ได้อีกครั้ง

        นาทีที่ 75 เป็นทีมเยือนที่พลิกแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ วิดาล ไปทำเสียบอลให้ เฟรดี้ กัวริน ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง กระชากเข้าไปกดด้วยขวาเต็มข้อ บุฟฟ่อน พุ่งปัดเอาไว้ได้ แต่ยังมี มิลิโต้ ที่ตามซ้ำไม่เหลือ พร้อมเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย

        โดนแบบนี้เข้าไปเจ้าบ้านอยู่เฉยไม่ได้ ปีร์โล่ ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ ทำเอา ฮันดาโนวิช ต้องออกแรงเหินปัดด้วยมือเดียว

        ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นโหมบุกหนักหวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่กลับมาโดนประตูตอกย้ำชัยในนาทีสุดท้าย จากลูกสวนกลับเร็วที่ นากาโตโมะ แทงทะลุช่องให้ ปาลาซิโอ ซัดเข้าไปไม่เหลือ จบเกม อินเตอร์ บุกชนะ 3-1 และทำให้ ยูเว่ ต้องหยุดสถิติคว้าชัยในลีกติดต่อกันไว้ที่ 49 แมตช์จนได้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

        ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน; อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่; สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ (มาร์ติน กาเซเรส น.38 (ฟาบิโอ กวายาเรลล่า น.78)), อาร์ตูโร่ วิดาล, อันเดรีย ปีร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, ควัดโว อซาโมอาห์; เซบาสเตียน โจวินโก้, มีร์โก วูชินิช (นิคลาส เบนท์เนอร์ น.46)

        อินเตอร์ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช; อันเดรีย ราน็อคเคีย, วอลเตอร์ ซามูเอล, ฮวน เฮซุส; ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ การ์กาโน่, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่, ยูโตะ นากาโตโมะ; โรดริโก้ ปาลาซิโอ, ดีเอโก้ มิลิโต้ (กาบี้ มูดินกายี่ น.80), อันโตนิโอ คาสซาโน่ (เฟรดี้ กัวริน น.69)
 

มิลาน 5   -   1 คิเอโว

 

สนาม : ซาน ซโร่

        "รอสโซเนรี่" ของ มัสซิมิลิอาโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ก้นร้อน ขาด ดานิเอเล่ โบเนร่า ที่ติดโทษแบน และการจัดทัพปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 คู่เซนเตอร์แบ็กจะส่ง  ฟิลิปป์ เม็กแซส ลงไปยืนคู่กับ คริสเตียน ซาปาต้า แผงกลางให้ มัสซิโม อัมโบรซินี่ กับ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ เป็นตัวคุมจังหวะเกม แนวรุกใช้โบยาน เกร์กิช ยืนเป็นจอมทัพ โดยมี อูร์บี้ เอมานูเอลสัน กับ สเตฟาน เอล ชาราวี ขึ้นเกมริมเส้น และหัวหอกตัวเป้าเป็นของ จามเปาโล ปาซซินี่

        ด้านทัพ "ลาบิน" คิเอโว ถายใต้การคุมทีมของ ยูเจนิโอ คอรินี่ ปรับมาเน้นรับเต็มสูบอัดกองหลังไปห้าคน แนวรุกฝากความหวังไว้กับ ซีริล เตอโร่ ที่ยืนเป็นหน้าต่ำ หน้าเป้าวาง แซร์โจ้ เปลลิสซิเยร์ คอยจบสกอร์

        เริ่มเกมมาเป็น  "ปีศาจแดง-ดำ"  ที่เดินเกมลุยเข้าใส่เลย และในนาทีที่ 16 ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0  เกวิน กงสต็องต์ แบ็กซ้ายวางยาวเข้าเขตโทษและมาร์โก อันเดรโอลลี่ โหม่งสกัดแฉลบไปเข้าทาง อูร์บี้ เอมานูเอลสัน สวนตูมด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ

        อย่างไรก็ตาม 2 นาทีต่อมา คิเอโว ตามตีเสมอทันควันเป็น 1-1 เมื่อ ลูเซียโน่ เปิดลูกเตะมุมให้ เปลลิสซิเย่ร์ สลัดหนีตัวประกบมาโขกบอลเสียบเสาแรกไม่เหลือ

        เจ้าบ้านตั้งเกมสู้กันใหม่อีกครั้งและนาทีที่ 36 มิลาน ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 คราวนี้ เอมานูเอลสัน ไหลคืนหลังให้ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ กระหน่ำด้วยขวาจากระยะเกือบ 25 หลา บอลพุ่งเรียดเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม

        หลังทิ้งห่าง มิลาน ยังเดินหน้าลุยต่อ และก่อนจบครึ่งแรก 4 นาทีก็มาได้ประตูที่สาม โบยาน เกร์กิช เลี้ยงบอลขึ้นมากระหน่ำด้วยขวาจากระยะราว 20 หลา บอลแฉลบ ดาริโอ ดาอิเนลลี่ เปลี่ยนทางเข้าไป "รอสโซเนรี่" หนีห่าง 3-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

        ครึ่งหลังเริ่มมาพลพรรคยังเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้ดีกว่า และเกือบมาฝังจากจังหวะที่ กงสต็องต์ หลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนปาดเรียดเข้ากลาง บอลมาถึง เอล ชาราวี แปบอลเล่นพุ่งหลุดถากเสาไปนิดเดียวเท่านั้น

        อย่างไรก็ตามนาทีที่ 75 สกอร์เปลี่ยนเป็น 4-1 จนได้ เมื่อ อินยาซิโอ อบาเต้ กระชากถึงเกือบสุดเส้นหลังฝั่งขวาแล้วครอสไปเสาสองให้ เอล ชาราวี ชาร์จไม่พลาด เป็นประตูที่ 8 ของ ชาราวี ในลีกฤดูกาลนี้ด้วย

        อาคันตุกะถอดใจไปแล้วและนาทีสุดท้ายก็มาโดนลูกที่ห้าส่งท้าย โบยาน เปิดออกซ้าย เอล ชาราวี หลุดเดี่ยวขึ้นมาไปครอสเข้ากลางให้ ปาซซินี่ พุ่งเข้ามาชาร์จตุงตาข่าย มิลาน ฉีกไหล 5-1 และจบเกมลงด้วยสกอร์นี้ ทำให้ มิลาน เก็บสามแต้มเต็มแบบสบายเท้า

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

        มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ; อินยาซิโอ อบาเต้ (มัตเตีย เด ชิโญ่ น.86), ฟิลิปป์ เม็กแซส, คริสเตียน ซาปาต้า, เกวิน กงสต็องต์; มัสซิโม่ อัมโบรซินี่, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ (ไนเจล เด ยองก์ น.77); อูร์บี้ เอมานูเอลสัน (เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง น.70), โบยาน เกร์กิช, สเตฟาน เอล ชาราวี; จามเปาโล ปาซซินี่

        คิเอโว : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่; นิโกล่าส์ เฟรย์, ปอล ป๊าปป์, ดาริโอ ดาอิเนลลี่, มาร์โก อันเดรโอลลี่, บูการี่ ดราเม่ (อาเดรียน สโตยาน น.61); ลูเซียโน่ (มาร์โก ริโกนี่ น.55), โรแบร์โต้ กัวน่า, เปอร์ปาริม เฮเตมาย; ซีริล เตอโร่, แซร์โจ้ เปลลิสซิเย่ร์ (ดาวิด ดิ มิเคเล่ น.74)