ขอยกนิ้วให้กับผลงานอันแจ่มจรัสของขุนพลลูกหนัง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่คว้าชัย 3 นัดรวดในศึกลูกหนัง “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012” เก็บ 9 แต้มเต็ม ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่มเอ

โดยทีมไทยจะต้องไปตัดเชือกกับ “เสือ เหลือง” มาเลเซีย แชมป์เก่า ซึ่งเกมแรกไทยจะออกไปเยือนก่อน ในวันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค.นี้ ก่อนจะกลับมาเตะที่สนามศุภชลาสัย ในวันที่ 13 ธ.ค.

ส่วนรอบรองฯอีกคู่ สิงคโปร์ อดีตแชมป์ 3 สมัย โคจรไปพบ “ม้ามืด” อย่างฟิลิปปินส์

เกมบุกถ้ำเสือในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ต้องถือเป็นการวัดฝีไม้ลายมือและ “กึ๋น” ของกุนซือใหญ่ วินฟรีด เชเฟอร์ อย่างแท้จริง ถ้าแจ๋วจริง เกมนี้ไทยต้อง “ไม่แพ้” กลับออกมา จากนั้นค่อยมาเผด็จศึกในบ้านเพื่อกรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศ ตามเป้าหมาย

ผมเชื่อว่าหากไทยผ่านด่านเสือเหลืองไปได้ ถ้วยแชมป์ซูซูกิคัพคราวนี้ ก็ไม่น่าหนีเราไปไหนแน่! เพราะบอลทัวร์นาเมนต์อย่างนี้ความยาก และความ “กดดัน” ทั้งหลายทั้งปวง มักอยู่ที่เกมในรอบรองมากกว่ารอบชิง

ควันหลงจากเกมนัดส่งท้ายรอบแรก ที่ไทย กำราบเวียดนามลงได้ 3-1 นอกจากเรื่องของชัยชนะแล้ว ทอล์กออฟเดอะทาวน์ที่คนพูดถึงมากที่สุดก็คือภาพของ “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน วิงแบ็กจอมบุกที่โชว์ฟอร์มในทัวร์นาเมนต์นี้ได้อย่างโดดเด่น ยืนชูผ้าพันคอเชียร์ทีมชาติไทย ที่มีข้อความภาษาอังกฤษหรา “VV GET OUT”

ภาพนี้ถูกโพสต์ไปทั่วตามเว็บไซต์ต่างๆ บ่งนัยให้เห็นว่าผู้ชูผ้าพันคอซึ่งเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยอยู่แท้ๆ ยังออกมาสนับสนุนการขับไล่นายกลูกหนัง

เรื่องที่เกิดขึ้นผมเชื่อว่า “เจ้าอุ้ม” น่าจะรู้ เท่าไม่ถึงการณ์ (หรือทำเป็นแกล้งไม่รู้ก็ไม่อาจทราบได้) พอแฟนบอลโยนผ้าพันคอมาให้ก็เลยเอามาชูเล่น โดยไม่ทันมองว่าผ้าผืนนั้นมีข้อความอะไร เพราะอีกด้านเป็นลายธงชาติไทย

ก็เลยกลายเป็นภาพแห่งความ “สะใจ” ของพระเดชพระคุณท่านทั้งหลาย ที่เป็น “กองไล่” นายกบอล

แต่ตรงนี้ขอเรียนว่าท่านสนองความสะใจของตัวเอง ด้วยวิธีที่ “ทุเรศ” มากครับ!

การใช้ “นักฟุตบอล”  มาเป็นเครื่องมือในการประกาศเจตนารมณ์ของตัวท่านเองและพวกพ้อง มันไม่ใช่วิถี “ลูกผู้ชาย” ที่สร้างสรรค์หรือแสดงจุดยืนอะไรเลย

ตรงกันข้ามมันกลับเป็นการ ทำลายนักเตะ ทำลายชาติ อย่างน่ารังเกียจเป็นที่สุด

โดยเฉพาะยามนี้ทีมไทยของเรากำลังอยู่ในช่วงระหว่างทำศึก ทุกคนต้องการความรักสามัคคี หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อความสำเร็จกับตำแหน่งแชมป์ที่ร้างลามานาน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับมาทำลายบรรยากาศเหล่านั้นไปเสียหมด

ที่ผ่านมาคุณจะยกขบวนไปไล่ใคร แบบไหน อย่างไร ก็เป็นสิทธิของคุณ ไม่มีใครเขาว่า เอาให้เต็มที่

ขออย่างเดียวกรุณาอย่า “ล้ำเส้น” ถึงขนาดดึงนักฟุตบอลทีมชาติ มาร่วมผสมโรงด้วยแบบนี้

ไม่มีกองเชียร์สติดีที่ไหนเขาทำกัน!

เอาเป็นว่าถ้ารักจะเป็นกองเชียร์ที่ดี ที่สร้างสรรค์ แล้วไม่รู้จะทำยังไง ก็ให้ลองดูตัวอย่างกลุ่มน้องๆ  “ไทย ทิมส์” (Thai Tims) ซึ่งเป็น นักเรียนจากโรงเรียนเตรียมศึกษานายายอาม จ.จันทบุรี ที่อุตส่าห์มาช่วยทั้งร้องทั้งแต่งเพลงให้กำลังใจทีมชาติไทยชุดซูซูกิคัพครั้งนี้จนเป็นที่ประทับใจไปทั่ว

ก็ไม่รู้ว่าบรรดาแฟนบอล “ไร้หัวคิด” ที่โยนผ้าพันคอไปให้เจ้าอุ้มในวันนั้น

จะนึกอายเด็กมันมั่งรึเปล่า!!!