หลังจากผ่านเลคแรกในรอบรองชนะเลิศมาได้ด้วยการเสมอแบบไร้สกอร์ เมอร์ ไลออนส์ ก็เตรียมบอกลารายการนี้ัได้ หากจบลงด้วยผลเสมอแบบมีสกอร์

หลังจากขายตั๋วเข้าชมหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ชั่วโมง สิงค์โปร์ ก็วาดภาพว่าจะได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนๆ เต็มสนาม และหวังจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในรายการนี้เป็นครั้งที่สี่ในประวัติศาสตร์ทีมชาติของพวกเขา

ขณะที่ ฟิลิปปินส์น่าจะมีแฟนๆ เดินทางมาดูเกมราว 400 คน หลังจากที่ขายตั๋วทีมเยือนหมดเกลี้ยงไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ทั้งสองทีมเพิ่งเสมอกันมา 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว และฟิลิปปินส์จะผ่านเข้ารอบได้ด้วยการเสมอแบบมีสกอร์ จากกฏประตูทีมเยือนในปีนี้

ซิ เจียยี่ ของสิงค์โปร์ยังยืนยันที่จะลงเล่น แม้ว่าครอบครัวของเขาจะประสบอุบัติเหตุมาก็ตาม ขณะที่ คอยรุล อัมรี ก็น่าจะได้ลงสนาม แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บมาจากนัดที่แล้วก็ตาม

ดิ อัซกาลส์ มีตัวเลือกพร้อมเต็มทีม ด้านสิงค์โปร์ก็มีตัวเก่งอย่าง ชะห์ริล อิลฮาค และ เจอร์รี ลูเซนา อยู่

• หากกว่า ฟิลิปปินส์ หักด่านเมอร์ ไลออนส์ ได้ในครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในรายการนี้

• สิงค์โปร์ ไม่ชนะ หรือแม้แต่ยิงประตู ฟิลิปปินส์ ได้เลย ในการพบกัน 3 นัดหลังสุด

• เกมนี้จะเป็นเกมแรกของศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่ไปเล่นกันใน จาลัน เบซาร์ สเตเดี้ยม

• สนามนี้สร้างขึ้นในปี 2006 ภายใต้แผน ฟีฟ่า โกล เป็นสนามหญ้าเทียมที่ถูกปูด้วยหญ้าระดับ 1 ดาวตามมาตรฐานของฟีฟ่า โดยใช้งบประมาณในการปูสนามไป 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเงินโครงการ ฟีฟ่า โกล และโครงการช่วยเหลือทางการเงินของฟีฟ่า (หญ้าระดับ 1 ดาว หมายถึง หญ้าที่เพียงพอกับความต้องการในระดับสมัครเล่น เช่น ศูนย์กีฬา หรือการจัดกีฬาภายในประเทศ)

• ในรายการนี้ 4 ครั้งหลังสุดของสิงค์โปร์ พวกเขาไม่ผ่านรอบรองชนะเลิศเพียงหนเดียวเท่านั้น และแต่ละครั้งที่พวกเขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ก็หมายถึงการครองแชมป์

• ตั๋วสำหรับทีมเหย้าถูกขายหมดในวันแรกที่เปิดจำหน่าย