''อุ๋ย'' นนทรีย์ นิมิบุตร พร้อม 2 นก ฉัตรชัย-สินจัย เปล่งพานิช เข้าชี้แจงกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กรณี ''เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์'' เด้งฉาย 3 ตอนสุดท้าย ไร้เงาประธาน กสท. และผู้บริหารช่อง 3 ร่วมวงเคลียร์ ด้านทีมผู้สร้างแจงได้นำบทละครและรายละเอียดต่างๆ ส่งให้ทางช่องตรวจสอบก่อนสร้าง ถึงวันนี้ยังงงถึงสาเหตุที่ถูกงดฉาย ไม่รู้มีการเมืองมาเกี่ยวหรือไม่ ยันเนื้อหาละครเป็นเหตุการณ์สมมุติ ไม่มีเจตนากระทบกระทั่งใคร ขณะที่ วราเทพ ยันไม่มีการเมืองเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

    เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2556 ที่รัฐสภา   คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้พิจารณาศึกษาแนวทางการกำกับดูแลสื่อโทรทัศน์และการควบคุมดูแลด้านความเหมาะสมของเนื้อหา กรณีละครเหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ ถูกระงับการออกอากาศอย่างกระทันหัน โดยมีนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ พร้อมด้วย ''อุ๋ย'' นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับ ''นก'' ฉัตรชัย เปล่งพานิช ผู้อำนวยการสร้าง, ''นก'' สินจัย เปล่งพานิช นักแสดงจากละครเหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์  เข้าชี้แจง
    

    ในการนี้นายศุภชัยแจ้งว่า พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. ในฐานะประธานกสท. อ้างว่าติดภารกิจประชุมกรรมการ กสทช.ไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงได้ ขณะที่ทางผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยนายประสาร  มาลีนนท์ รองประธานกรรมการบริหาร เพิ่งได้รับหนังสือให้มาชี้แจงช่วงเย็นวันที่ 14 ม.ค. จึงไม่สามารถมาตามนัดได้ แต่ยินดีให้ความร่วมมือมาชี้แจงต่อไป
    

    ด้าน ''นก-ฉัตรชัย'' ได้กล่าวชี้แจงขั้นตอนการสร้างละครดังกล่าวว่า ก่อนสร้างหรือผลิตต้องเสนอเรื่อง บทย่อ เนื้อหา ตัวละครว่ามีนักแสดงใครบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องย่อ เมื่อได้รับอนุมัติจะเริ่มผลิต เสร็จแล้วส่งให้ช่องออกอากาศ ทั้งนี้จะมี กบว.ของช่องพิจารณาเซนเซอร์เนื้อหา เนื่องจากอาจมีฉากที่ไม่เหมาะสม มีความรุนแรง หรือฉากข่มขืน ดื่มสุรา ได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาตลอด โดยถ่ายทำเสร็จจะตัดต่อลงเสียง เสร็จทันเวลาที่จะออกอากาศ เมื่อส่งให้ กบว.ของช่องก็ถือว่าหมดหน้าที่ผู้ผลิตแล้ว เนื้อหาละครเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์สมมุติ การนำเสนอไม่มีเจตนากระทบกระทั่งใคร บริษัทเมตตามหานิยมของตน จะสร้างละครในแนวเพื่อชีวิต บอกเล่าเรื่องผลประโยชน์ อำนาจ อยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาสามัคคีกัน เป็นแนวละครสร้างสรรค์บอกถึงความดี ชั่ว เลว และความสงบสุขที่จะเกิดขึ้น
    

    ขณะที่ ''อุ๋ย-นนทรีย์'' ชี้แจงว่า บทละครตามปกติที่นำส่งจะเขียนไปครึ่งหนึ่งก่อนเริ่มลงมือสร้าง ที่เหลือจะทยอยส่ง ยอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนบทละครบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับการผลิต โดยเฉพาะละครเรื่องนี้เป็นละครแอ็กชั่นดราม่า เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งให้ช่องพิจารณาอนุมัติออกอากาศต่อไป ส่วน 3 ตอนสุดท้ายที่มีปัญหาคือ ตอนที่ 10-11-12 ยอมรับว่าตอนที่ 10 ได้ส่งก่อนปีใหม่ ส่วนตอนที่ 11-12 ส่งหลังปีใหม่แล้ว ไม่ทราบว่าหลักปฏิบัติทางช่อง 3 ดำเนินการอย่างไร เพราะเพิ่งมาทำงานละครได้เพียง 4 เรื่อง การมาทำละครแอ็กชั่นยอมรับว่าต้องใช้เวลายาวนานกว่าปกติ ไม่สามารถส่งเทปได้ทุกตอนในคราวเดียวกันทั้งหมด ต้องทยอยส่ง ส่วนการตัดบทบางส่วนก็มีบ้างเพื่อความเหมาะสม ให้เข้าใจง่าย แต่จะไม่เพิ่มอะไรที่เป็นเนื้อหาสาระที่บิดเบือน
    

    ทั้งนี้ ''อุ๋ย-นนทรีย์'' รับว่าตอนที่ 11-12 มีการปรับเปลี่ยนเรื่องราวของละคร หลังนายกฯ ในเรื่องเสียชีวิต เรื่องเริ่มไม่สนุก เราจึงเปลี่ยนบทแต่ก็ให้คนเขียนบทเป็นคนเปลี่ยน และส่งบทให้ทางช่องดู ไม่ทราบว่ามีการอ่านหรือไม่ อย่างไร
    

    ''นก-สินจัย'' กล่าวว่า บางคำถามของคณะกรรมาธิการฯ คงเป็นเรื่องที่ทางช่อง 3 จะตอบ เราเองก็ไม่ทราบถึงคำสั่งว่าบางส่วนบางตอนไม่เหมาะสมอย่างไร รวมถึงโอกาสที่จะได้รับชมตอนที่ถูกแบนทางดีวีดีนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นลิขสิทธิ์ของช่อง เราเป็นเพียงผู้ผลิต ในฐานะคนทำงานที่ทำตามขั้นตอน เมื่อผิดพลาดก็แก้ไข แต่เมื่อบอกจบก็ต้องจบ แต่การทำงานคราวหน้าเราจะรอบคอบและพิจารณากันมากขึ้น

       
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการซักถามและชี้แจง กรรมาธิการฯจากพรรคเพื่อไทย อาทิ นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น และนางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม กล่าวท้วงติงว่า ความจริงต้องฟังทุกด้าน แต่วันนี้ผู้บริหารช่อง 3 และกสทช.ที่เป็นผู้ระงับการออกอากาศไม่มาชี้แจง ทำให้ได้รับข้อมูลที่ไม่ชัดเจนรอบด้าน และไม่เชื่อว่าจะมีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้นายศุภชัยรับว่า การประชุมคราวต่อไปจะต้องรับฟังข้อมูลของทุกฝ่ายอยู่แล้ว

      
    นายนนทรีย์ ให้สัมภาษณ์หลังการชี้แจงว่า ประเด็นว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบก็อยากรู้เหมือนกันว่าความจริงเป็นอย่างไร ถ้าสื่อทราบก็ช่วยบอกด้วย
    ซึ่ง ''นก-สินจัย'' ได้กล่าวเสริมว่า หลังจากละครถูกระงับออกอากาศแล้ว มีการพูดว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น เราไม่ทราบ แต่เป็นเพราะทุกคนนำไปโยงเป็นเรื่องการเมืองเอง ขณะที่ นก ฉัตรชัย กล่าวว่า หลังละครโดนแบนตนได้พูดกับนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ช่อง 3 ซึ่งนายสมรักษ์ก็ไม่ทราบเหตุผลที่ถูกแบนเช่นกัน

       
    เมื่อถามว่าไม่ได้ติดต่อผู้ใหญ่ในช่องเพื่อถามเหตุผลที่แท้จริงหรือ นายนนทรีย์ กล่าวว่า การทำงานของพวกตนจะติดต่อนายสมรักษ์เพียงคนเดียว แต่ยืนยันว่าเรามีอิสระในการทำงาน ไม่มีใครขัดขวางการทำละครตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแต่ตอนจบไม่ได้ออกอากาศเท่านั้น เราก็เหมือนช่างทำรองเท้า พอตัดเสร็จก็ส่งให้ผู้จ้าง เขาจะเอาไปใส่หรือไม่ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ถือว่าไม่ขัดกับอิสรภาพ

       
    นางสินจัย กล่าวอีกว่า ''ยอมรับว่ากระทบต่อเราในฐานะผู้สร้างและนักแสดง รู้สึกเสียดายมาก เหมือนส่งลูกยังไม่ขึ้นฝั่ง ยังต้องพายไปเรื่อยๆ ยอมรับว่าการทำหน้าที่ของสื่อมีผลต่อผู้ชม รู้สึกเสียใจที่ให้คำตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการกบว.ของช่อง ได้แต่ขอโทษผู้ชม แต่เราจะไม่ท้อถอยจะทำงานต่อไป''

       
    นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงว่า ในฐานะกำกับดูแล อสมทไม่ได้ให้นโยบายเฉพาะเจาะจงใดๆ ทั้งด้านข่าวหรือบันเทิง เพราะเรื่องนี้คณะกรรมการของ บมจ.อสมท เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งกรณีการสั่งถอดละครเหนือเมฆ ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามสอบถามและหาข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องและช่อง 3 แต่จนถึงขณะนี้ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากผู้บริหารช่องถึงสาเหตุในการถอดละครเรื่องนี้ ทราบเฉพาะที่มีการออกแถลงการณ์ว่าเนื้อหาไม่เหมาะสมเท่านั้น ขณะเดียวกันยืนยันว่าไม่มีการเมืองเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้